ทานอาหารนอกบ้าน 6 minutes 10 กันยายน 2022

เมนูอาหารจากกาแฟ ร้านใหม่จากภูเก็ต มื้อพิเศษจากเชฟนานาชาติ และอัปเดตแวดวงร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’

ความเคลื่อนไหวของร้านอาหาร และการขยับตัวของเชฟแถวหน้าในเมืองไทยที่คุณไม่ควรพลาด

หัวใจนักกินไม่ว่าชาติไหน ๆ ก็ต้องใจรื้นเมื่อเหล่าเชฟนานาชาติต่างตบเท้าบินเข้ามาประเทศไทยกันไม่หยุดหย่อน ผุดเป็นงาน 4-Hands ยัน 10-Hands Collaboration ทั่วราชอาณาจักร ตอกย้ำความเป็นพรมแดนที่เชิดชูอาหารของกรุงเทพฯ และประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงเหล่าเชฟมากฝีมือที่ง่วนอยู่กับการปั้นเมนูใหม่และการเปิดร้านใหม่ให้แวดวงอาหารได้คึกคักไม่มีหยุด

แต่เดือนกันยายนจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง นี่คือความเคลื่อนไหวของแวดวง ‘มิชลิน ไกด์’ ที่เราอยากให้คุณติดตาม

เมนูจากกาแฟที่เชฟอันเดรียอยากชวนคุณมาลองชิม (© อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา/ MICHELIN Guide Thailand)
เมนูจากกาแฟที่เชฟอันเดรียอยากชวนคุณมาลองชิม (© อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา/ MICHELIN Guide Thailand)

เมนูอาหารอิตาเลียนจากเมล็ดกาแฟที่ห้ามพลาด
เดือนกันยายนนี้ ‘มิชลิน ไกด์’ จับมือกับ Nespresso และเอ็กเซกคูทีฟเชฟอันเดรีย อัคคอร์ดี (Andrea Accordi) แห่งห้องอาหารอิตาเลียน Riva del Fiume Ristorante ที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 รังสรรค์เมนูชวนตาค้างสำหรับคนรักกาแฟโดยเฉพาะ โดยเชฟนำเสนอเมนูอาหารกลางวัน 5 คอร์ส เช่น Crudo di Gamberetti Blu ที่ใส่ความหอมของกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ในฟอร์มของเยลลี่บนเซบิเชเนื้อกุ้งหน้าตาสวยงาม หรือจะเป็น Risotto alle Zucchini Trombetta e Ricci di Mare ริซอตโตกุ้งแดงจากซิซิลีใส่ดอกซูกินีที่ให้รสกาแฟจาง ๆ ผ่านฟองท็อปด้านบน ฯลฯ รวมถึงเมนูขนมหวาน Nocciola caffe' e Cioccolato ขนมมีลเฟยกรอบ ๆ ชั้นหนากับเฮเซลนัตเจลาโตที่กินคู่กับพราลีนโกโก้รสเข้มข้นท็อปด้วยเอสเปรสโซรสนวลของเพสทรีเชฟ เชฟอันเดรีย โบนัฟฟีนี (Andrea Bonaffini) เป็นต้น มื้อนี้ยังจับคู่กับม็อกเทลหรือค็อกเทลฝีมือบาร์เทนเดอร์มือฉมังอย่างฟิลิป บิชอฟฟ์ (Philip Bischoff) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมล็ดกาแฟ เกิดเป็นมาร์ตินีกาแฟหรือคอฟฟีโทนิกชวนสดชื่นด้วย

มื้ออาหารกลางวันพิเศษจากเมล็ดกาแฟเสิร์ฟในราคาท่านละ 2,500 บาท++ เฉพาะวันที่ 15-29 กันยายน 2565 นี้เท่านั้น

พิกัด: ชั้น G โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 300/1 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0 2032 0888


เนื้อวากิวญี่ปุ่นจากเชฟเจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว (© Stage)
เนื้อวากิวญี่ปุ่นจากเชฟเจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว (© Stage)

Stage กับการเดินทางครั้งใหม่สู่เมนู 8.0
หลังจากใช้วัตถุดิบพื้นบ้านยืนพื้นกับเมนูก่อนหน้า เชฟเจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว นำเสน่ห์ของวัตถุดิบนานาชาติมาทำอาหารที่ทำให้ร้าน Stage ที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยอีกครั้ง กับเมนู Stage Menu 8.0 ที่เธอชูวัตถุดิบจากหลากหลายแห่งทั่วโลกผ่านการปรุงด้วยเทคนิคฝรั่งเศสดั้งเดิม โชว์การปรุงอาหารที่หลากหลายซึ่งเชฟเจย์ชำนาญ จนเกิดเป็นเมนูไฮไลต์อย่าง Cherry Gazpacho ที่เสิร์ฟกับไอศกรีมฟัวกรา มะเขือเทศเขียว และใบโหระพา โดยเสิร์ฟบนน้ำแข็งราวกับการแสดงออนไอซ์ หรือจะ Red Shrimp จานที่ชูความยั่งยืนด้วยการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า กุ้งแดงจากอาร์เจนตินากับเยลลีรสเข้มข้นจากเปลือกกุ้ง รับประทานกับคาเวียร์และซอสบีตรูตดองและชีสพาร์เมซาน และหากคุณยังไม่เคยลอง “แกะหย็อง” เวอร์ชันฝรั่ง ลอง Lamb Floss ที่เชฟเจย์เสิร์ฟกับซอสข้นที่ทำจาก Lamb Jus กับ Whey เป็นต้น

เทสติ้งเมนู 8.0 จำนวน 4 คอร์ส ราคา 1,900 บาท++ เพิ่มไวน์แพริ่ง 2 แก้ว ราคา 900 บาท++ โดยสามารถเลือกจาน Starter, Main Course และขนมหวานได้ และอาหาร 7 คอร์ส ราคา 3,500 บาท++ เพิ่มไวน์แพริ่ง 4 แก้ว ราคา 1,700 บาท++ และ Stage Experience จำนวน 10 คอร์ส ราคา 4,900 บาท++ เพิ่มไวน์แพริ่ง 6 แก้ว ราคา 2,500 บาท++

พิกัด: เอกมัย คอมเพล็กซ์ 359/2 ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 0 2002 5253

สองเชฟคู่หูชาวดัตช์ (© Jampa, PRU)
สองเชฟคู่หูชาวดัตช์ (© Jampa, PRU)

มื้อกลางวันจากสองเชฟชาวดัตช์จาก PRU และ Jampa
สนิทสนมกันมานาน ในที่สุดสองเชฟคู่หู เชฟจิมมี โอฟอสต์ (Jimmy Ophorst) แห่งร้าน PRU ร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน และดาวมิชลินรักษ์โลก ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 และเชฟริก ดิงเงิน (Rick Dingen) จากห้องอาหาร Jampa ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในคู่มือฉบับล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ก็ชวนกันมาเล่นสนุกทำอาหารมื้อกลางวัน 8 คอร์สจากวัตถุดิบท้องถิ่นริมทะเลสาบที่ไร่พรุจำปาที่เราเคยเขียนถึงให้ได้ลิ้มรสกัน โดยจำกัดเพียง 20 ที่เท่านั้น

งานจัดขึ้นวันที่ 24 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ที่ Hideaway at Pru Jampa Farm ราคาท่านละ 5,000 บาท++ เฉพาะอาหาร และ 7,000 บาท++ สำหรับจับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม

พิกัด: พรุจำปา 46/6 หมู่ 3 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โทร. 0 7634 2122 หรือ reservations@jamparestaurant.com


ยุ้งข้าวหอมกับสาขาใหม่ที่เปิดตัวแล้ว (© Yoong Khao Hom)
ยุ้งข้าวหอมกับสาขาใหม่ที่เปิดตัวแล้ว (© Yoong Khao Hom)

ร้านยุ้งข้าวหอมกับ 2 สาขาใหม่ตอกย้ำการเติบโตของรสปักษ์ใต้ร้อนแรง
หลังจากอยู่ใต้บังเหียนของเชฟรุ่นใหม่ไฟแรง MICHELIN Guide Young Chef Award แห่งปีคนแรกของไทยเมื่อปี 2564 เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญก็พาร้านยุ้งข้าวหอม (สาขาแอมพาร์ค จุฬา) ร้านอาหารใต้ตำรับสมุยกับการวางแนวคิดเรื่องการผสมทั้ง 3 วัฒนธรรม ได้แก่ ไทย-พุทธ ไทย-มุสลิม และไทย-จีน ที่อยู่ในคู่มือแนะนำร้านอาหารฉบับปี 2565 ขยับขยายตัวเพิ่มถึงอีก 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่ สาขาแอทธินี ทาวเวอร์ ที่เปิดตัวแล้ว ซึ่งเหมาะกับคนทำงานใจกลางเมือง และกำลังจะเปิดสาขาเดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งเหมาะกับย่านที่พักอาศัย และเช่นเดียวกับสาขาแรกในกรุงเทพฯ เชฟอ้อมยังคงนำสูตรของป้าเล็ก แม่ครัวผู้ทำอาหารใต้รสชาติดั้งเดิมที่จัดจ้าน กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมจากการใช้เครื่องเทศเฉพาะถิ่นมาทำอาหาร อันเป็นสูตรลับความอร่อยของร้านสาขาแรกที่เกาะสมุยมาเกือบสองทศวรรษตั้งแต่ปี 2541 มาปรับสูตรเล็กน้อย ดึงเสน่ห์ความผสมผสานแบบภาคใต้มานำเสนอ โดยเธอนำเทคนิคอาหารงานครัวแบบไฟน์ไดนิ่งที่เคยทำงานก่อนหน้ามาปรับโครงสร้างของรสชาติ และพัฒนาเทคนิคให้ดึงรสของวัตถุดิบออกมาได้จัดจ้านและอร่อยลิ้นเช่นเคย

พิกัด: สาขาแอทธินี ทาวเวอร์ 63 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 06 4959 4777 และสาขาเดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา (จะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้)

เนื้อออสเตรเลียวากิวจากออสเตรเลีย และอาหารเรียกน้ำย่อยจากเงาะของเชฟแอนดริว (© Sansern Khriengprinyakich)
เนื้อออสเตรเลียวากิวจากออสเตรเลีย และอาหารเรียกน้ำย่อยจากเงาะของเชฟแอนดริว (© Sansern Khriengprinyakich)

80/20 กับเมนูใหม่ที่ยังได้แรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารในกรุงเทพฯ
เชฟชาวแคนาดา แอนดริว มาร์ติน (Andrew Martin) แห่งร้าน 80/20 ร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลินในคู่มือแนะนำร้านอาหารฉบับปี 2565 หลงรักการคิดสูตรอาหารใหม่ ๆ อย่างไร้ขอบเขตและฤดูกาล และล่าสุดเขาชวนคุณไปตื่นเต้นกับเมนูใหม่แกะกล่องที่เห็นได้ว่าเขาแรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารในมหานครกรุงเทพฯ ไม่น้อย เมนูล่าสุดผสมทั้งจานซิกเนเจอร์ของร้าน เช่น Stormy Sea ปลาหมึกกล้วยจากจันทบุรีในน้ำซอสแสร้งว่าซีฟู้ดสีม่วง รวมถึงขนมหวานสวนมะพร้าวแสนอร่อยที่ต้องนำกลับมาเสนอ เมนูใหม่ของเชฟได้แก่ ต้มยำญี่ปุ่น ที่เขาดึงแรงบันดาลใจมาจากร้านลาบ ลับ ลับ ร้านอาหารริมทางในซอยปรีดี พนมยงค์ที่เสิร์ฟทั้งอาหารอีสานและอาหารญี่ปุ่น ออกมาเป็นต้มยำหอยเชลล์น้ำใสที่ทำจากน้ำดาชิจากหอยเชลล์ และกบนครสวรรค์ย่างพริกเกลือ ที่เชฟดึงไอเดียมาจากกบทอดกระเทียมในร้านอาหารจีนที่เขามักไปยามดึกกับเพื่อน ๆ นำมาทาเครื่องเทศและน้ำมะพร้าวแล้วย่างจนหอมได้ที่ นอกจากนั้นยังมีเป็ดยิ้มยิ้ม ที่เชฟแอนดริวได้แรงบันดาลใจมาจากเป็ดที่เสิร์ฟกับเครื่องเทศแบบจีนที่ร้านยิ้มยิ้มภัตตาคารในเยาวราช ที่นำกลับมาเสิร์ฟเช่นกัน

ราคาท่านละ 3,500 บาท++ เพิ่มไวน์แพริ่ง 6 แก้ว ราคา 2,500 บาท++

พิกัด: 1052-1054 ถ.เจริญกรุง 26 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร. 09 9118 2200


ไปฝากท้องกับเมนูใหม่สไตล์ไคเซกิกันบ้างไหม? (© Kinu by Takagi)
ไปฝากท้องกับเมนูใหม่สไตล์ไคเซกิกันบ้างไหม? (© Kinu by Takagi)

Kinu by Takagi พร้อมต้อนรับเมนูฤดูใบไม้ร่วง
เตรียมพร้อมต้อนรับเมนูฤดูใบไม้ร่วงที่ Kinu by Takagi ห้องอาหารสไตล์ไคเซกิแห่งโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ที่ติดอยู่ในลิสต์ร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 โดยเชฟทากากิ คะซุโอะ (Takaki Kazuo) กับเชฟคู่ใจของเขา เชฟโนริฮิซะ มาเอดะ (Norihisa Maeda) นำเสนอเมนู 5 คอร์สสำหรับมื้อกลางวัน และ 10 คอร์สสำหรับมื้อค่ำ ซึ่งรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากหลากหลายจังหวัดในแดนอาทิตย์อุทัยในฤดูนี้ เช่น เต้าหู้ที่ทำเองและเห็ดทรัฟเฟิลเสิร์ฟกับหอยเม่นจากฮอกไกโด หรือจะเป็นเนื้อวากิวจากทตโตะริที่เชฟมาเอดะเสิร์ฟกับซอสสุกียากี้แบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และเช่นเคยนอกจากอาหารคุณยังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น การฉีดสเปรย์บนฝาถ้วยที่เป็นเทคนิคตำรับซามูไรในการตรวจสอบว่ามีใครเปิดฝาอาหารหรือไม่ รวมถึงเบื้องหลังการร่วมงานกับผู้ผลิตอาหารที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าสนใจกลับบ้านไปด้วย

เมนูฤดูใบไม้ร่วงพร้อมเสิร์ฟแล้วในราคาท่านละ 4,000 บาท++ สำหรับมื้อกลางวัน และท่านละ 8,000 บาท++ สำหรับมื้อค่ำ

พิกัด: ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2659 9000

ร้าน Acqua สาขากรุงเทพฯ ได้เวลาเผยโฉมแล้ว (© Acqua Restaurant Bangkok)
ร้าน Acqua สาขากรุงเทพฯ ได้เวลาเผยโฉมแล้ว (© Acqua Restaurant Bangkok)

Acqua จากภูเก็ตเปิดตัวแล้วที่กรุงเทพฯ
เชฟอาเลสซานโดร เฟรา (Alessandro Frau) บอกกับเรามาพักใหญ่ว่าร้านอาหารอิตาเลียน Acqua ของเขาอันเป็นที่รู้จักของทั้งคนภูเก็ตตลอดจนนักท่องเที่ยว และได้รับการคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เตรียมพร้อมแลนดิ้งสู่สาขาใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และในที่สุดก็ถึงเวลาที่ Acqua Restaurant Bangkok เปิดประตูต้อนรับนักกินให้ได้มาเปิดโลกอาหารอิตาเลียนสร้างสรรค์แบบอัปสเกลของเขาแล้ว เชฟปรับอดีตบ้านสวนหลังเก่าของจิม ทอมป์สันมาดัดแปลงใส่ความเป็น “น้ำ” ให้สมชื่อโดยใส่เกลียวคลื่นล้อไปกับผนัง และสีขาวกับสีเงินที่สะท้อนถึงความเป็นน้ำ ซึ่งอาเลสซานโดรผู้เป็นทั้งเชฟใหญ่และเจ้าของร้านตั้งใจหอบลมซาร์ดิเนียบ้านเกิดของเขาผ่านภูเก็ตมาฝากถึงย่านชิดลมของกรุงเทพฯ รวมถึงจานอาหารอิตาเลียนแบบ A la carte ที่ลืมความรัสติกแบบร้านอิตาเลียนส่วนมากไปได้ เพราะเขาให้ความสำคัญกับไอเดียสร้างสรรค์ที่ต้องมาพร้อมหน้าตาสะสวยและดูล้ำสมัยมากพอ ๆ กับวัตถุดิบ

ป.ล. เชฟแอบบอกเราว่ากำลังเตรียมห้องอาหารเชฟส์เทเบิลสำหรับประสบการณ์ Immersive ให้นักกินได้เปิดประสบการณ์ลิ้มรสการกินอาหารอิตาเลียนรูปแบบใหม่ในบ้านหลังเดียวกันเร็ว ๆ นี้

พิกัด: 16/18 ซอยสมคิด ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 09 3612 7000 หรือ www.acquarestaurantbangkok.com 


ร้านป๊อปอัปจากเชฟแบล็ก (© namo.bkk/ Instagram)
ร้านป๊อปอัปจากเชฟแบล็ก (© namo.bkk/ Instagram)

เชฟแบล็กเปลี่ยนตลกร้ายกลายเป็นจริงกับ Pop-up ในกรุงเทพฯ
จัดงานป๊อปอัปกับเพื่อนเชฟที่กรุงเทพฯ บ่อยจนในที่สุดเชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ แห่งร้าน Blackitch Artisan Kitchen ร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ที่เชียงใหม่ก็เปลี่ยนมุกขำ ๆ ว่าจะย้ายมากรุงเทพฯ ให้เป็นเรื่องคล้ายจริง โดยเตรียมจัดป๊อปอัป 3 เดือนกับร้านมโนที่ชื่อนะโม (Namo) ที่เขาเล่าว่า​​แปลว่า “นอบน้อม” ที่ย่านใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท 49 โดยร่วมกับเพื่อนเชฟสายโหด เชฟแวน-เฉลิมพล โรหิตรัตนะ ทำอาหารที่สื่อถึงการแสดงความเคารพต่อวัตถุดิบอันหลากหลายของไทยดังเช่นที่พวกเขาได้ทำมาตลอดที่ร้าน โดยรอบนี้เขายังคงสานต่อการเผยแพร่เรื่องราวเบื้องลึกของวัตถุดิบบ้าน ๆ และพื้นฐานของวัฒนธรรมที่แตกต่างของไทยให้แก่นักกิน

อาหารเชฟส์เทเบิลจำนวน 12 คอร์ส ราคาท่านละ 3,600 บาท++ เปิดบริการจนถึง 30 พฤศจิกายน 2565 เท่านั้น

พิกัด: โครงการพิมาน 49 ถนนสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 06 5664 5391 หรือ Line: @namo.bkk

5 เชฟที่จะมารวมพลความอร่อยกันที่โรงแรมดิ โอกะรุ เพรสทีจ (© The Okura Prestige Bangkok)
5 เชฟที่จะมารวมพลความอร่อยกันที่โรงแรมดิ โอกะรุ เพรสทีจ (© The Okura Prestige Bangkok)

งานกาลาการกุศลรวมพลเชฟจากโรงแรมโอกุระ
เหล่าเชฟบินโฉบมาสิงคโปร์กันอุ่นหนาฝาคั่งเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา แต่เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นำเชฟจากเครือโรงแรมเดียวกันในอัมสเตอร์ดัมข้ามน้ำข้ามทะเลมาปรุงอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่นกันเป็นพิเศษเพื่อการกุศล กับกาลาดินเนอร์ “Stellar Charity Night at Okura” อาหาร 6 คอร์สที่รวมเชฟจากฮอลแลนด์ ได้แก่ เชฟอาร์จาน สปีลแมน (Arjan Speelman) แห่งห้องอาหาร Ciel Bleu รางวัลสองดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับเนเธอร์แลนด์ ประจำปี 2565 และเชฟมาซาโนริ โทมิกะวะ (Masanori Tomikawa) แห่งห้องอาหาร Yamazato รางวัลหนึ่งดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับเดียวกัน มาพบกับเชฟจากกรุงเทพฯ ได้แก่ เชฟเจราร์ด บียาเรต ออร์กาโค (Gerard Villaret Horcajo) แห่งห้องอาหาร Elements, Inspired by Ciel Bleu รางวัลหนึ่งดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) แห่งห้องอาหาร Yamazato ของกรุงเทพฯ ที่ได้รับการแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดของไทยเช่นกัน และเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) เอ็กเซกคูทีฟเชฟของโรงแรม โดยรายได้จากการจัดงานจะมอบให้แก่องค์กรที่ช่วยเหลือเด็กกำพร้า มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ (SOS Children's Villages Thailand)

งานจะจัดขึ้นวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ในราคา 9,999 บาท++ ต่อท่าน และ 75,999 บาท++ ต่อโต๊ะ สำหรับ 8 ที่นั่ง

พิกัด: โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2687 9000


ทานอาหารนอกบ้าน

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ