อย่าหลงไปกับชื่อร้านที่ฟังดูเรียบง่าย เพราะร้านเบียร์หิมะ (สาขาจตุจักร) นี่ละคือร้านที่ชาวกรุงเทพฯ รู้กันว่าต้องเลี้ยวมาที่นี่หากวันไหนต้องการกินอาหารใต้และอาหารทะเลรสจัด เช่น แกงเหลืองปลาเก๋า กุ้งผัดกะปิใส่สะตอ หรือเมนูรสชาติร้อนแรงอื่น ๆ ที่เหมาะจิบคู่กับเครื่องดื่มพร้อมคนสนิท อีกทั้งร้านยังการันตีด้วยรางวัลบิบ กูร์มองด์ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2562 จนถึงปี 2568 ได้ติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน

ทำความรู้จักร้านโปรดของคนย่านประชาชื่น
ความร้อนแรงของร้านเบียร์หิมะเริ่มต้นดำเนินกิจการมานานกว่า 30 ปีแล้ว ที่นี่เป็นร้านอาหารที่หลายคน หลายครอบครัว หรือแม้กระทั่งหลายบริษัทยกให้เป็นร้านประจำสำหรับมื้อพิเศษที่ต้องการบรรยากาศสังสรรค์ เนื่องจากร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารใต้ที่รสชาติจัดจ้านชัดเจน มีเมนูหลากหลายที่ใช้เฉพาะวัตถุดิบชั้นเลิศ และมีห้องรับรองแขกกลุ่มใหญ่ได้ถึง 30 คน ปัจจุบันร้านเบียร์หิมะดูแลกิจการโดยคุณเบียร์-ทศกรณ์ กุหลาบวรรณ ลูกชายของคุณแม่กรณิศ กุหลาบวรรณ ผู้ตั้งใจสืบทอดรสชาติอาหารใต้สูตรดั้งเดิมของครอบครัวต่อเป็นรุ่นที่สองไม่ให้หายไป“ร้านเบียร์หิมะเปิดในย่านจตุจักรมานาน 31 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราเคยเปิดในหมู่บ้านปูนซิเมนต์ไทย 1 ปี และย้ายไปเปิดในย่านประชาชื่นอีก 1 ปี ก่อนย้ายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 โดยเริ่มแรกร้านเปิดอยู่ในห้องแถว 4 ห้อง ก่อนขยับขยายมาเรื่อย ๆ จนอยู่ในตึกใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน แต่ห้องแถวเดิมเราก็ไม่ได้ปิดไปไหน เพราะหากวันไหนลูกค้าเยอะจนพื้นที่ไม่พอเราก็จะเปิดให้นั่ง”
คุณเบียร์เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้านเบียร์หิมะซึ่งตั้งชื่อตามเครื่องดื่มที่คุณแม่โปรดปราน พวกเขาจึงนำเครื่องดื่มนี้ใส่เป็นเมนูประจำเพื่อให้ลูกค้าได้สั่งมาลองตั้งแต่ปี 2537 และนั่นก็อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนประทับใจร้านอาหารใต้แห่งนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อจับคู่อาหารสุดร้อนแรงกับเครื่องดื่มเย็น ๆ แล้วทุกอย่างลงตัวเข้ากันพอดี
“เบียร์หิมะน่าจะเป็นร้านแรก ๆ ด้วยที่กล้าเอาความเผ็ดฉบับอาหารใต้ไปเสิร์ฟให้ลูกค้า เราเป็นร้านอาหารทะเลและแกงใต้มาตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นอาหารใต้สูตรนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ พวกเราตั้งใจทำรสชาติตามสูตรดั้งเดิมและแทบไม่ปรับเลย เผ็ดคือเผ็ด เค็มคือเค็ม ร้านเราสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก เพราะหากย้อนไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คนกรุงเทพฯ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแกงใต้ต้องรสจัดขนาดนี้ แต่เราก็สู้จนผ่านมาได้ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนได้รู้จักรสชาติอาหารใต้จริง ๆ”

สั่งอะไรดี?
หนึ่งในเมนูห้ามพลาดคือ “แกงเหลืองปลาเก๋า ไข่ปลาริวกิว” ทางร้านทำเครื่องแกงเองโดยใช้สูตรนครศรีธรรมราชที่ใช้พริกหลายชนิดผสมกัน เพื่อให้ได้ทั้งรสชาติ ความหอม และสีสัน เช่นเดียวกับไข่ปลาริวกิวไซซ์ใหญ่ที่คัดมาเฉพาะไซซ์ส่งออกและส่งตรงจากท่าเรือทุกเช้า การันตีความสดใหม่“ร้านของเราใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่เท่านั้น ร้านเบียร์หิมะมีตู้ปลาเรียงนับสิบ ๆ เพื่อโชว์ความสดของวัตถุดิบด้วย พอลูกค้าสั่งจึงค่อยเอาของทะเลในตู้มาทำอาหาร ร้านเราใส่ใจทั้งขนาดและคุณภาพ แม้ว่าบางเทศกาลจะต้องสู้ราคาวัตถุดิบกับประเทศเพื่อนบ้านที่นำเข้าอาหารทะเล” คุณเบียร์เล่าให้ฟัง เพราะด้วยความที่เป็นร้านอาหารทะเล ความสดของวัตถุดิบจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ร้านเบียร์หิมะจึงสั่งวัตถุดิบมาแค่พอใช้ในแต่ละวัน ทำให้บางวันบางเมนูอาจหมดไวขึ้นอยู่กับความนิยม
อีกเมนูที่ทางร้านแนะนำคือ “ปูเนื้อผัดพริกไทยดํา” นี่เป็นเมนูที่ลูกค้าสั่งซ้ำบ่อยที่สุด โดยร้านใช้ปูทะเลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และใช้พันธุ์เนื้อขาวเท่านั้นเนื่องจากรสชาติหวานกว่า แล้วค่อยนำมาปรุงกับพริกไทยดำจากเยาวราชด้วยสูตรลับประจำครอบครัว

“ข้าวผัดปูรัฐมนตรี” เป็นอีกเมนูเด็ดที่เหมาะแก่การแชร์กับผองเพื่อนที่ลูกค้าหลายคนสั่งกันมานาน แต่ร้านเพิ่งนำมาใส่ในเมนูจริงจังเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน จานนี้ร้านใช้ปูม้าเป็น ๆ และทำตามออร์เดอร์เท่านั้น “จึงอาจจะช้าหน่อย แต่ว่าอร่อยชัวร์” เนื่องจากร้านต้องนำปูไปนึ่งแล้วนำมาแกะทีละจาน ก่อนนำไปผัดกับข้าว ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ได้เนื้อปูที่รสชาติหวานกว่าการใช้ปูก้อนที่เนื้อแน่นอย่างดียว เมนูนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ เคียงไปด้วย
ส่วนใครอยากชิมกุ้งแม่น้ำ เมนูเด็ดของร้านเบียร์หิมะคือ “กุ้งแม่น้ำคั่วเกลือ” ที่ใช้กุ้งแม่น้ำจากจังหวัดอยุธยา ร้านนำมาคั่วเกลือด้วยสูตรของร้านเอง เมื่อเสิร์ฟจึงได้กลิ่นหอมจากเครื่องปรุง ส่วนกุ้งก็สดเด้งเหมาะกินแกล้มกับเครื่องดื่ม

อาหารรสละเมียดอร่อยถูกใจเมื่อรับประทานกับคนรู้ใจ
ลูกค้าของร้านเบียร์หิมะมีหลากหลายตั้งแต่วัยทำงาน ครอบครัว ไปจนถึงกลุ่มเพื่อน นอกจากความสดของวัตถุดิบ รสชาติอาหารฉบับปักษ์ใต้ที่จัดจ้านถึงเครื่อง และปริมาณอาหารที่ให้เยอะจุใจแบบสมราคา อีกสิ่งที่ร้านเบียร์หิมะให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการบริการที่ต้องมีมาตรฐานอยู่เสมอ ทำให้ใครต่อใครแวะมาลองก็ต้องประทับใจจนอยากชวนเพื่อนฝูงหรือนัดกันมาฉลองมื้อพิเศษที่นี่อีกครั้งรสชาติอาหารซึ่งผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันละเมียดละไมเช่นนี้ไม่ต่างอะไรจากรสชาติยอดเยี่ยมของเครื่องดื่มตราช้าง อันมีปรัชญาสื่อถึงความละเมียด โดยมีกุญแจสำคัญอยู่ 4 ดอก ได้แก่ ความละเอียดอ่อน สุนทรียะ การเคารพให้คุณค่า และการสร้างสรรค์ต่อยอดสิ่งใหม่ ๆ แน่นอนว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยยกระดับให้อาหารยิ่งอร่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้ร่วมแบ่งปันสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือบรรดาคนรู้ใจ แถมยังช่วยกระชับสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย
