เมืองหลวงของประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นมหานครอันเป็นมิตรกับผู้คนซึ่งมีความหลากหลายทางเพศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยิ่งในช่วง Pride Month จะยิ่งคึกคักมีเสน่ห์น่าสนใจมากเป็นพิเศษ ไม่เพียงชาว LGBTQ+ เท่านั้น แต่รวมถึงผู้สนใจวัฒนธรรมสีรุ้งและอยากร่วมเฉลิมฉลองควาามหลากหลาย ต่อไปนี้คือเหตุผลพร้อมกิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ ที่เราอยากชี้เป้าในช่วงปีนี้

ชมขบวนพาเหรด Bangkok Pride “Born This Way”
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่สุดใน Pride Month ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นี่คือจุดที่ผู้คนจะแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในตัวเอง ร่วมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสิทธิ คุณจะได้ชมและร่วมสนุกไปกับ Pride Parade ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่าหลักแสน จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยปีนี้มาพร้อมกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่มีผลบังคับใช้แล้วในประเทศไทยขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในวันแรกของเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายนี้ โดยเริ่มต้นที่สนามกีฬาแห่งชาติและสิ้นสุดที่สี่แยกราชประสงค์ พบกับกิจกรรมมากมายและเวทีไพรด์สุดอลังการที่เต็มไปด้วยการแสดง ความตื่นเต้น และช่วงเวลาอันน่าประทับใจภายใต้ธีม “Born This Way” อันได้แก่ ขบวนแห่งความรักที่แสดงถึงพลังแห่งการ “เลือกที่จะรักอย่างไร้ขีดจำกัด” ขบวนแห่งการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง เลือกที่จะเป็นตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ ขบวนแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่นำศิลปิน นักแสดง คนในวงการบันเทิง ศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบมาร่วมกันสนับสนุนความหลากหลาย ขบวนแห่งสันติภาพ และขบวนแห่งการตระหนักด้านสุขภาวะทั้งกายและใจ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนเข้าใจและกลับมาดูแลตนเองทั้งภายใน ภายนอก รวมถึงสิ่งแวดล้อม รับรองว่าเต็มไปด้วยสีสันความสนุกตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน

เพลินกับ Bar Hopping ที่สีลมซอย 2
สีลมซอย 2 ถือเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม LGBTQ+ แห่งสำคัญในกรุงเทพฯ ซึ่งผู้คนที่หลากหลายมารวมตัวกัน คุณจะได้พบกับบรรยากาศอบอุ่น ยอมรับ และเปิดกว้าง ย่านนี้มีบาร์มากมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นบาร์สไตล์ดั้งเดิมหรือคลับโมเดิร์น หลายบาร์มีการแสดงสดอย่าง Drag Show ที่สนุกสนานเต็มไปด้วยสีสัน ผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับการเต้นรำ พบปะมิตรภาพใหม่ ๆ สำหรับร้านที่แนะนำอย่างยิ่ง ได้แก่ DJ Station คลับที่ยังคงเป็นตำนานและเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลายในหมู่ชาว LGBTQ+ หรือจะเป็น Beef BKK ธีมบาร์ซน ๆ ตกแต่งคล้ายกับเซานา รวมถึง G.O.D คลับที่มีโชว์สนุก ๆ เต้นรำคึกคักได้ตลอดทั้งคืน
ชอปปิงได้ไม่รู้จบ
กรุงเทพฯ ยังโดดเด่นเรื่องสวรรค์แห่งการชอปปิง มหานครแห่งนี้เต็มไปด้วยแหล่งชอปมากมาย หากคุณกำลังมองหาแหล่งชอปปิงศูนย์รวมของดีไซเนอร์ไทยดาวเด่นที่งานดีไซน์สวยเก๋ไม่แพ้ที่ไหน รวมถึงต้องการสัมผัสสีสันของความหลากหลาย จิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ และไลฟ์สไตล์อันมีชีวิตชีวาในกรุงเทพฯ ลองปักหมุดที่ย่านสยามซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า และเต็มไปด้วยร้านค้าจากดีไซเนอร์ไทยมากมาย ส่วนอีกหนึ่งตลาดที่พลาดไม่ได้คือตลาดนัดสวนจตุจักรอันกว้างใหญ่ที่เปิดทุกสุดสัปดาห์ เป็นแหล่งรวมของสินค้าแทบทุกชนิด มีให้เลือกชอปกันแบบละลานตา
พักผ่อนหย่อนใจที่สวนป่าเบญจกิติ
สวนสาธารณะใจกลางกรุงอย่างสวนเบญจกิติแห่งนี้เป็นพื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่กว่า 320 ไร่ ขึ้นชื่อในเรื่องภูมิทัศน์ที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามและเป็นปอดสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่นี่อุดมไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ มีทั้งอัฒจันทร์ขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเดินลอยฟ้า ทางวิ่ง ทางจักรยาน และทางเดินโดยรอบสวนซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคารเดิมซึ่งเคยเป็นโกดังยาสูบให้เป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารกีฬาในร่ม เราจึงสามารถใช้เวลาเดินเล่น ออกกำลังกาย สูดลมหายใจให้เต็มปอด เป็นอีกพิกัดที่จะได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์ของชาวกรุงเทพฯ ในยามที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ
สัมผัสความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรม ชมนิทรรศการและงานศิลปะทั่วกรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันทางวัฒนธรรม ซึ่งไม่เพียงมีวัดวาอารามเก่าแก่อันสวยงามเท่านั้น ในแง่ของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยก็มีหอศิลป์และพื้นที่ทางศิลปะมากมาย อย่าง BACC หรือหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริเวณแยกปทุมวัน ที่มีนิทรรศการน่าสนใจจากทั้งศิลปินไทยและต่างชาติหมุนเวียนจัดแสดง รวมถึงหอศิลป์ของเอกชนอีกไม่น้อย เช่น Galerie Oasis กับ Cinema Oasis ในย่านสุขุมวิท พื้นที่ทางศิลปะที่จัดฉายทั้งภาพยนต์อินดี้ และยังมีแกลเลอรี่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัย และที่น่าสนใจอีกแห่งคือ ‘ท่าพิพิธภัณฑ์’ หรือ Museum Pier พิพิธภัณฑ์เปิดแห่งนี้อยู่ในเขตพระนคร เขตอนุรักษ์เมืองเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง นับเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ล่าสุดบนพื้นที่ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์ ที่จัดแสดงงานศิลปะอย่างหลากหลาย
อิ่มอร่อยกับอาหารและรื่นรมย์กับค็อกเทล
ร้านอร่อยที่นอกจากจะอยู่ในย่านสีลมศูนย์กลางของชาว LGBTQ+ แล้ว Eat Me ยังนำเสนอจานอาหารที่สร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง เหมาะสมที่จะอยู่ในย่าน “Pride Area” อย่างสีลมเป็นที่สุด ที่นี่เป็นร้านโปรดของ Pangina Heals แดร็กควีนตัวแม่ชาวไทยผู้ก้าวสู่ระดับสากล และยังเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในซอยในถนนคอนแวนต์มาตั้งแต่ปี 2541 โดยผสมผสานรสชาติอาหารจากทั่วโลกเข้ากับรสชาติอาหารท้องถิ่นของไทย เริ่มต้นค่ำคืนของคุณด้วยค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารไทยจากบาร์เทนเดอร์ผู้เชี่ยวชาญอย่างป๊อป-บุญธเนศ ดิเรกฤทธิกุล แล้วดื่มด่ำกับอาหารจานเด็ดจากเชฟทิม บัตเลอร์ (Tim Butler) เช่น ซุปหอยลายที่เพิ่มความอร่อยด้วยแหนม แถมด้วยกลิ่นรสสดชื่นจากผักชีและมะนาว เป็นจานเด็ดที่ผู้ตรวจสอบของเราแนะนำ
ล่องแม่น้ำเคล้าเสียงเพลงไปกับ Pride Cruise
พบการรวมตัวของชาวสีรุ้งสุดยอดตัวแม่ ตัวเด็ด ศิลปินชั้นนำ และเหล่าอินฟลูฯ LGBTQ+ ในงาน Pride Cruise Bangkok บนเรือ Bangkok Island นี่คืออีกหนึ่งกิจกรรมเด็ดที่ไม่ควรพลาด รับรองว่าตลอดหลายชั่วโมงที่ล่องเรือปาร์ตี้ไปบนแม่น้ำเจ้าพระยาคุณจะสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเร้าใจทุกนาทีจากการแสดงของแดร็กควีน ดีเจ คาราโอเกะ และแน่นอนว่าได้ขยับร่างกันเต็มที่ แถมยังได้รับลมชมวิวงาม ๆ ของกรุงเทพฯ จากกลางแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
Cafe Street Food & Restaurant Hopping
ถ้าจะบอกว่าย่านในในกรุงเทพฯ ที่กำลังฮิป มีทั้งสีสันความคึกคัก เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ ให้เลือกเสพ น่าเดินเที่ยว เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จะจิบกาแฟละเลียดขนม โซ้ยอาหารริมทางเจ้าเด็ดชื่อดังระดับตำนาน ไปจนถึงร้านไฟน์ไดนิ่งระดับดาวมิชลิน ทรงวาดและตลาดน้อยคือคำตอบที่ครบจบในที่เดียว ที่นี่เป็นย่านเก่าแก่ซึ่งเป็น บ่านรวมพลคนสร้างสรรค์อีกแห่งของกรุงเทพฯ มีทั้งสตรีทอาร์ตกราฟิตีอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่ขัดเขินกับความเป็นชุมชนเก่า แถมยังเต็มไปด้วยร้านรวงทั้งคาเฟ่น่ารักน่านั่งมากมาย หรือถ้าโหยอาหารริมทางเจ้าเด็ดก็มีให้เลือกละลานตา แต่ที่ขอแนะนำที่สุดคือร้านที่ติดอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 อย่าง อุไร ห่านพะโล้ รางวัลบิบ กูร์มองด์ ร้านในตำนานแห่งนี้เสิร์ฟห่านพะโล้เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของครอบครัวมายาวนานกว่าหกทศวรรษ และถ้าหากเดินเล่นกันจนถึงเวลาดินเนอร์แล้วก็อย่าลืมไปเก็บดาวความอร่อยกันโพทง ร้านอาหารไทย-จีน ประณีตหรูหราในอาคารเก่าแก่สไตล์ชิโน-โปรตุกีสของเชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ เชฟหญิงเก่งของเมืองไทย
พักผ่อนแสนสบายในโรงแรมรางวัลกุญแจมิชลิน
หากกำลังมองหาที่พัก เราขอแนะนำโรงแรมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงาน Pride ทั้งยังสามารถเดินทางไปยังย่านชุมชนชาว LGBTQ+ ได้แสนสะดวก แถมแทบทุกแห่งยังมีนโยบาย LGBT Friendly ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสวยมีสไตล์เจ้าของรางวัลกุญแจ 1 ดอกอย่าง SO/ Bangkok, The Standard Bangkok และ Kimpton Maa-Lai Bangkok หรือจะเป็นโรงแรมหรูบริการเยี่ยมรางวัลกุญแจ 2 ดอกอย่าง Park Hyatt Bangkok, Rosewood Bangkok และ The Okura Prestige Bangkok ต่างก็เป็นพิกัดตัวเลือกที่ดีสำหรับการพักผ่อนในช่วง Pride Month ทั้งนี้สามารถดูรายชื่อโรงแรมรางวัลกุญแจประจำปี 2567 ได้ที่นี่
หากคุณกำลังแพลนทริปสัมผัสประสบการณ์สีสันแห่ง Pride Month ที่กรุงเทพฯ และพอมีเวลาเหลือยังสามารถที่จะจัดทริปสั้น ๆ นอกกรุงเทพฯ ได้ ไม่ว่าจะเป็นทริปเช้าไปเย็นกลับไหว้พระชมโบราณสถานที่กรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา หรือจะไปเที่ยวแถบภาคตะวันออกอย่างระยอง ชลบุรี พัทยา เพื่อเล่นน้ำทะเล และนอนพักตากอากาศบนเกาะเสม็ดหรือเกาะช้างสักคืนก็ย่อมได้ เส้นทางการท่องเที่ยวทั้ง 2 สายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านรวงและคาเฟ่ในชุมชน ให้ได้แวะ Hopping แถมยังมีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มรส โดยหลายแห่งนั้นติดอยู่ในลิสต์ของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 (ดูลิสต์ร้านอาหารมิชลินในพระนครศรีอยุธยาได้ที่นี่ หรือรายชื่อร้านมิชลินในชลบุรีได้ที่นี่) และหากต้องการอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมกับ TAT Call Centre เบอร์ 1672 หรือเฟซบุ๊ก TAT Contact Centre กันได้เลย
ภาพเปิด: © Shutterstock
