เมื่อพูดถึงของหวานยอดนิยมของไทย ข้าวเหนียวมะม่วงคือจานเด็ดระดับโลกที่ทุกคนรู้จัก แต่รู้ไหมว่าถ้าเปลี่ยนมาใช้ผลไม้อีกชนิดหนึ่งซึ่งได้รับยกย่องให้เป็น “ราชาแห่งผลไม้ไทย” ก็จะได้ลิ้มรสชาติที่แตกต่างแถมอร่อยไม่แพ้กันเลยทีเดียว และผลไม้ชนิดนั้นก็คือ “ทุเรียน” นั่นเอง
เชฟหนุ่ม-ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านอาหารไทยเจ้าของรางวัลหนึ่งดาวมิชลินถึง 2 แห่ง ทั้งร้าน Chim by Siam Wisdom ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 และ Chim by Chef Noom ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกัวลาลัมเปอร์และปีนัง ประจำปี 2568 เฉลยให้เราฟังถึงความน่าสนใจของ “ราชาแห่งผลไม้ไทย” พร้อมเปิดสูตรข้าวเหนียวทุเรียนฉบับง่ายให้ทุกคนได้ลองนำไปทำกินเองได้ไม่ยาก ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันได้เลย
ทำความรู้จัก “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้ไทย
ทุเรียนไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะผลไม้ซึ่งมีเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นและรสชาติที่จัดจ้าน พร้อมเนื้อสัมผัสหลากหลายเท่านั้น แต่ยังฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมการกินอยู่ของชาวไทยอย่างแน่นแฟ้น ทุเรียนสามารถปลูกได้ทั่วประเทศไทย อีกทั้งแต่ละแหล่งผลิตและแต่ละสายพันธุ์ยังมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป ซึ่งถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวในการรับประทานทุเรียน ตามความเห็นของเชฟหนุ่ม“ชาวไทยเราให้ความสำคัญกับความหลากหลายของเนื้อสัมผัสทุเรียนมาก เช่น ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือชะนี ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยความสมดุลระหว่างเนื้อเนียนนุ่มและรสสัมผัสที่บางเบา หอมอ่อน ๆ อย่างที่คนไทยชื่นชอบ ต่างจากมูซังคิงของมาเลเซียที่มีกลิ่นและรสชาติเข้มข้นกว่า เมืองไทยเรามีทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์และแหล่งผลิต เช่น ทุเรียนนนท์ที่ขึ้นชื่อ แต่หากพูดถึงพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนที่มีปริมาณมากและถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตทุเรียนไทยก็ต้องยกให้ภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองผลไม้อย่างระยอง จันทบุรี และชลบุรี เพราะภูมิศาสตร์ของพื้นที่นี้ประกอบด้วยเนินเขา ลมทะเล ดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากลำธาร น้ำตก และสภาพอากาศโดยรวมที่เอื้ออำนวย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของผลไม้ ช่วยเนรมิตให้ทุเรียนมีกลิ่นหอมสมดุล รสชาติเข้มข้น และเนื้อเนียนนุ่ม”
เชฟหนุ่มเสริมอีกว่าจังหวัดชายทะเลภาคตะวันออกซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่างชลบุรีที่ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทยเพิ่งขยายพื้นที่ไปถึงนั้นเป็นภูมิภาคที่แม้จะเจริญขึ้นมากแต่ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางทางอาหารที่หลอมรวมประเพณีการปรุงอาหารไทยแบบท้องถิ่นดั้งเดิมเข้ากับสมัยใหม่เอาไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์น่าสนใจ และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมคือ “ข้าวเหนียวทุเรียน”
“ในขณะที่ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ข้าวเหนียวทุเรียนก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภูมิปัญญาอาหารไทย ผมว่าข้าวเหนียวทุเรียนสะท้อนถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งกับประเพณีท้องถิ่นในอดีตของชาวไทยภาคตะวันออกที่ได้พัฒนาวิธีการทำอาหารขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของทุเรียน ถือเป็นการยกระดับรสชาติด้วยการผสมผสานทุเรียนเข้ากับกะทิและข้าวเหนียว”
สำหรับผู้มาเยือนประเทศไทย เชฟหนุ่มแนะว่าการได้ลองลิ้มรสทุเรียนนานาชนิดและข้าวเหนียวทุเรียนแสนอร่อยถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด “นี่ไม่ใช่แค่การได้ลิ้มลองผลไม้ แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอีกด้วย ทั้งกลิ่นหอม รสสัมผัส และความภูมิใจในท้องถิ่น โดยเฉพาะในดินแดนภาคตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกทุเรียนสำคัญของประเทศขวานทองของเรา” เชฟหนุ่มเผย
ข้าวเหนียวทุเรียนสูตรเด็ด (สำหรับ 2 ที่)
วัตถุดิบและส่วนผสม:- กะทิ 1,000 มล.
- น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำ ½ ถ้วย
- เนื้อทุเรียนแกะ 500 กรัม
- เนื้อทุเรียนบด 100 กรัม
- ใบเตย 4 ใบ (ผูกเป็นปม)
- ข้าวเหนียวมูน 500 กรัม (อ่านวิธีทำข้าวเหนียวมูนได้ที่นี่)
- ทุเรียนทอดกรอบ ปริมาณตามชอบ
วิธีทำ:
- ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ผสมกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำ คนให้ละลายเข้ากัน
- ใส่ใบเตยลงไปแล้วลดไฟต่ำ เพื่อให้กลิ่นหอมใบเตยซึมอยู่ในน้ำกะทิ
- คนให้เข้ากันแล้วใส่เนื้อทุเรียนบด
- ค่อย ๆ ใส่เนื้อทุเรียนแกะแล้วลงไป คนเบา ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อทุเรียนแตก
- เสิร์ฟร้อน ๆ กับข้าวเหนียวมูนตามต้องการ โรยด้วยชิ้นทุเรียนทอดกรอบเพื่อเพิ่มรสสัมผัส
เคล็ดลับจากเชฟหนุ่ม:
- เลือกทุเรียนหมอนทองที่สุกเต็มที่ เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ดีที่สุดที่เข้ากันกับข้าวเหนียว ทุเรียนพันธุ์อื่นก็ใช้ได้ ลองสนุกกับการค้นหารสชาติของทุเรียนในแบบที่คุณชอบ- เพื่อรสชาติที่ลงตัว ทำน้ำกะทิให้มีรสเค็มเล็กน้อยจะช่วยขับเน้นความหวานละมุนตามธรรมชาติของทุเรียน
ทราบสูตรและเคล็ดลับการทำข้าวเหนียวทุเรียนฉบับง่ายจากเชฟหนุ่มแล้วอย่ารอช้า นำไปลองทำตามที่บ้านกันได้เลย แต่ถ้าอยากลิ้มรสทุเรียนท้องถิ่นไทยแท้ ๆ ขอแนะนำให้แพลนทริปไปเที่ยวจังหวัดภาคตะวันออกของไทย เช่น ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี อันเป็นเมืองผลไม้สำคัญของประเทศ ที่นั่นมีผลไม้ตามฤดูกาลให้ลิ้มรสมากมาย รวมถึงราชาแห่งผลไม้ไทยอย่างทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ คุณจะได้สนุกกับการชิมผลไม้นานาชนิดที่สวนผลไม้ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม รวมถึงตลาดสดท้องถิ่นที่อุดมไปด้วยผลไม้ และแน่นอนว่ามีข้าวเหนียวทุเรียนให้ชิมด้วยเช่นกัน
อย่าลืมแวะชิมของอร่อย ๆ กันที่ร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในเขตจังหวัดชลบุรี และพักผ่อนสบายในโรงแรม ‘มิชลิน ไกด์’ โดยดูรายชื่อโรงแรมทั้งหมดในชลบุรีของเราได้ที่นี่ ทั้งนี้หากต้องการอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมกับ TAT Call Centre เบอร์ 1672 หรือเฟซบุ๊ก TAT Contact Centre กันได้เลย
ภาพเปิด: © อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา/ MICHELIN Guide Thailand
