.jpg)
หลายคนรู้จักกับอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะที่ตั้งของท่าเรือที่จะข้ามไปยังเกาะสมุย เกาะยอดนิยมอันสวยงามของไทย หากบริเวณปากคลองดอนสักที่ไหลลงสู่ท้องทะเลอ่าวไทยที่ซึ่งลมทะเลพัดเอื่อยเย็นสบายยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมง และมีร้านอาหารทะเลพื้นบ้านเก่าแก่ตั้งอยู่
และนี่คือเรื่องราวของร้าน “ป้าทิ้ง” ที่เก่าแก่กว่า 50 ปี และบุกเบิกโดยหญิงเก่ง จนกลายเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อในดอกสักที่ผู้ตรวจสอบมองว่าอร่อยคุ้มราคาจนได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568
กิจการร้านอาหารของครอบครัวที่ก่อตั้งโดยหญิงแกร่งสู้ชีวิต
“ร้านป้าทิ้งก่อตั้งขึ้นในปี 2510 โดย นางบุญทิ้ง เพชรศรี คุณแม่ของดิฉันเอง จริง ๆ สมัยก่อนท่านทำอะไรมาหลายอย่าง เคยเป็นทั้งช่างเย็บเสื้อผ้า ช่างเสริมสวย ทำเรืออวนลาก ผลิตกุ้งแห้งก็เคย แต่ทำไปแล้วขาดทุน ก็เลยมาเปิดร้านขายของชำอยู่ตรงท่าเรือ แล้วก็ทำร้านอาหารจานเดียว ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ให้ผู้คนที่สัญจรโดยเรือเมล์ เพื่อหาเลี้ยงลูก ๆ อย่างพวกเรา จนย้ายร้านมาอยู่ยังที่ตั้งปัจจุบันนี้เมื่อปี 2512 คุณแม่ก็เปลี่ยนมาขายอาหารทะเล เพราะเวลามีคนมานั่งที่ร้านซึ่งอยู่ติดกับปากน้ำบรรยากาศวิวทะเลงาม ๆ ก็มักจะถามหาอาหารทะเลกินกัน ด้วยความที่ท่านเป็นคนเก่งที่ทำอะไรได้หลายอย่าง แล้วก็ชอบคิดชอบริลอง คุณแม่ก็เลยเปลี่ยนมาขายอาหารทะเลพื้นบ้าน โดยมีลูก ๆ อย่างพวกเราคอยช่วยงาน ทีแรก ๆ ร้านเรายังไม่มีชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่คนเขาก็มักจะเรียกกันจนติดปากว่า 'ร้านป้าทิ้ง' ก็เลยกลายเป็นชื่อของร้านเราไปโดยปริยาย”
คุณฉวีวรรณ พรหมทอง ลูกสาวคนหนึ่งที่สืบต่อร้านมาจากป้าทิ้งผู้ล่วงลับไปนานแล้วเป็นผู้เล่าถึงประวัติของร้าน ข้างในครัวยังมีบรรดาคุณป้าพี่สาวของผู้เล่าคอยทำหน้าที่เป็นแม่ครัวอยู่หน้าเตา กิจการร้านอาหารของครอบครัวแห่งนี้ยังคงสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ป้าทิ้งคนเก่งจะลาโลกนี้ไปนานแล้วก็ตาม
สั่งอะไรดี
ใครที่อยากลิ้มรสอาหารrพื้นถิ่นปักษ์ใต้แท้ ๆ ร้านป้าทิ้งแห่งนี้คือพิกัดที่ควรค่า ความที่ตั้งอยู่ริมทะเลปากน้ำดอนสัก จึงใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของทะเลที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์“เราใช้วัตถุดิบจากในสุราษฎร์ฯ นี่แหล่ะค่ะ อย่างใบชะครามที่ขึ้นอยู่ตามป่าชายเลนริมทะเล ปูม้าแถวนี้ก็ดีสดเนื้อหวานมากนะคะ ปลาดุกทะเลด้วย ส่วนหอยนางรมก็เอามาจาก อ.กาญจนดิษฐ์ พวกของทะเลนี่เราเอามากจากละแวกดอนสัก และกาญจนดิษฐ์ ในทะเลสุราษฎร์ฯ นี้ทั้งหมด ไม่ได้เอามาจากที่อื่นเลย”
เมื่อถามว่าสูตรอาหารที่ให้บริการในร้านเป็นของใคร สูตรของป้าทิ้งผู้ล่วงลับยังคงมีอยู่หรือเปล่า คุณฉวีวรรณเล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นของดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่รุ่นป้าทิ้ง นอกจากเครื่องแกงทำเอง และสูตรแกงต่าง ๆ ที่ทุกคนติดใจ แล้วก็ยังมีอาหารอีกหลายจานที่พี่สาวทั้งสองคนรวมถึงตัวเธอเองเป็นคนคิดขึ้นมาเพิ่ม
“แม่เขาเก่งนะ สมัยก่อนมีประกวดทำอาหาร แม่เขาก็ไปแข่งทำแกงจนได้รางวัลมาเป็นขันเงิน คือสมัยก่อนแม่เขาไปอยู่กับญาติที่เป็นข้าหลวงในจวนผู้ว่าฯ แม่ก็เลยได้เรียนรู้จากผู้หลักผู้ใหญ่ตรงนั้นมา ด้วยความที่ท่านก็เป็นคนชอบริชอบลอง ก็ทำให้ลูก ๆ ชิมก่อนแล้วพออร่อยก็ค่อยทำให้ลูกค้ากิน แม่เขาทำอาหารอะไรต่อมิอะไรเป็นตั้งเยอะ สมัยเขายังอยู่เราก็ไม่ได้คิดจะอยากรู้หรอก แต่พอนึกอยากจะเรียนขึ้นมาเอาตอนนี้แม่ก็ไม่อยู่สอนเสียแล้ว แต่โชคดีว่าพวกพี่สาวของดิฉันที่อยู่ในครัว ก็ชอบทำชอบลอง ก็เลยมีสูตรอาหารครอบครัวในรุ่นลูก ๆ อย่างพวกเราด้วย”
ในส่วนของสูตรอาหารที่คุณฉวีวรรณคิดค้นขึ้นมาเสริมทัพนั้น มีจานหนึ่งที่ขึ้นแท่นเมนูเด่นประจำร้าน นั่นคือ “ยำปลากุเลาเค็ม” เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ ปลากุเลาเค็มซึ่งผลิตเอง สาเหตุที่เลือกใช้ปลากุเลามาทำเค็ม ก็เพราะมีไขมันแทรกอยู่ทั่วตัว และต้องใช้เฉพาะปลาสด ๆ มาผลิตด้วยการพอกดอกเกลือที่มีรสหวานติดปลายลิ้นเท่านั้น เพราะให้ทั้งความสดมันและหอมอร่อยกว่าอีกทั้งยังไม่เค็มจัดจนเกินไป ทั้งนี้กรรมวิธีในการผลิตปลาเค็มต้องพิถีพิถันในทุกขึ้นตอน เมื่อนำไปทอดแล้วซอยหอมแดงกับพริก รับประทานกับน้ำยำที่มีส่วนผสมของน้ำปลาดีในท้องถิ่นจึงได้รสชาติของท้องทะเล
ส่วนอีกจานที่ขอยกนิ้วให้คือ “หอยขาวต้มตะไคร้” หอยทะเลตัวใหญ่สดเนื้อหวานได้รสธรรมชาติสะอาดของทะเล กรุ่นไปด้วยกลิ่นสมุนไพร กับจานเด็ดสุดหรอยแรงพลาดไม่ได้ นั่นคือ “แกงปูใบชะคราม” ซึ่งเครื่องแกงยังคงเป็นสูตรต้นตำรับสมัยป้าทิ้ง ปรุงมาได้เต็มรสชาติถึงทั้งกะทิและเครื่องแกง แถมเนื้อปูก็สดหวาน และยังมีของทอดอย่างหอยจ๊อปูสูตรเฉพาะที่ทางร้านคราฟท์ทำขึ้นมาเองรับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยได้อย่างเพลิดเพลิน กับอีกหนึ่งเมนูรสดีที่ไม่ค่อยเห็นที่ไหน นั่นคือ “กรรเชียงปูผัดกะทิ” จานนี้ส่วนผสมค่อนข้างแปลกสำหรับเราแต่รสชาติลงตัวมาก กรรเชียงปูเนื้อเน้น ๆ สดหวานเข้ากันได้ดีกับน้ำผัดกะทิหวานมันนุ่มนวล และยังมีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ สดชื่นของผักกาดดองกับต้นหอม
แต่ถ้าใครอยากรับประทานจานผัดรสจัดจ้าน แนะให้สั่ง “กุ้งผัดสะตอกะปิ” ที่เนื้อกุ้งสดเด้ง หอมกะปิเนื้อดี เสริมกลิ่นและรสอันเป็นเอกลักษ์ด้วยสะตอซึ่งเป็นพืชผลขึ้นชื่อของทางใต้ ด้าน “หมึกไข่โบราณ” หรือหมึกไข่ผัดน้ำดำซึ่งเป็นเมนูปักษ์ใต้ยอดนิยมของร้านป้าทิ้งก็ถือว่าไม่น้อยหน้าร้านอื่นที่ไหนทั้งนั้น สำรับอาหารทะเลพื้นบ้านที่จัดเสิร์ฟมาทั้งหมดในวันนี้ถือได้ว่าครบรส และมอบสมดุลแห่งรสชาติให้กับมื้อนี้ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคุณภาพและรสชาติเยี่ยม
รสชาติพื้นบ้านหรอยแรงกับชื่อเสียงในฐานะร้านเด็ดแห่งปากน้ำดอนสัก
สำหรับ คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 นั้นเพิ่งมีการขยายพื้นที่สู่เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานีเป็นปีแรก ซึ่งแม้จะมีร้านอาหารที่ติดอยู่ในลิสต์ด้วยกันถึงกว่า 20 แห่ง แต่ที่น่าสนใจคือในละแวกปากน้ำดอนสักนั้นมีร้านป้าทิ้งอยู่เพียงแห่งเดียว ซึ่งผู้สืบทอดรุ่นที่สองอย่างคุณฉวีวรรณ ได้เผยความรู้สึกให้ฟังว่า“ตอนที่รู้ว่าร้านเราได้รางวัลจาก 'มิชลิน ไกด์' ก็มีคนในเมืองสุราษฎ์ฯ เขาส่งข้อความแจ้งมาในกรุ๊ปไลน์ บอกว่าร้านในเมืองในตลาดเขาก็ได้กันหลายร้าน แต่ที่ดอนสักมีแค่ร้านเรา คือปกติลูกค้าร้านเราก็เยอะอยู่แล้ว ยิ่งพอได้บิบ กูร์มองด์มาคนแปลกหน้าก็พากันมาจากไหนอีกเยอะแยะ ความดีใจนั้นก็มีอยู่ แต่ในขณะเดียวกันเราก็นึกกังวลด้วยว่า ถ้าคนเขามากันเยอะ ๆ เราจะรักษาคุณภาพเอาไว้ได้ไหม แล้วถ้าเขามากันไกล ๆ แล้วไม่ถูกปากเขาจะผิดหวังกันไหม พวกป้า ๆ ที่อยู่ในครัวเขาก็พากันเครียด และอยากจะทำกันให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้คนที่มาร้านเราผิดหวัง”
ด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นที่สดใหม่คุณภาพเยี่ยมในท้องทะเลอ่าวไทยอันแสนอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ตรงหน้าร้าน รวมถึงสูตรอาหารที่คิดค้นและสืบทอดส่งต่อกันภายในครอบครัว ประกอบกับการปรุงอย่างพิถีพิถันใส่ใจคนกินและบริการอย่างเป็นมิตรเช่นนี้เอง จึงทำให้ร้านป้าทิ้ง เป็นร้านอาหารทะเลพื้นบ้านปักษ์ใต้หรอยแรงที่เชิดหน้าชูตาชาวดอนสัก ซึ่งหากใครได้มีโอกาสแวะไปเยือน จ.สุราษฎร์ธานี แนะนำว่าไม่ควรพลาดความอร่อยเต็มรสชาตินี้อย่างยิ่ง ป้าทิ้งคนเก่งผู้ล่วงลับคงดีใจมาก หากใครต่อใครได้ลิ้มรสรสชาติอาหารที่ตกทอดมาจากเธอ
ภาพเปิด: © อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา/ MICHELIN Guide Thailand
Bib Gourmand • ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา
