นอกจากรสชาติที่มอบความรื่นรมย์ให้ผ่อนคลายแล้ว ความสนุกและเสน่ห์ที่สุดอย่างหนึ่งของค็อกเทลก็คือความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนผ่านเครื่องดื่มแต่ละแก้วซึ่งมิกโซโลจิสต์บรรจงคิดค้นสร้างสรรค์กันขึ้นมา เช่นเดียวกับ Ruby’s Bar ในโรงแรมรางวัลกุญแจมิชลิน 1 ดอก ประจำปี 2567 Kimpton Maa-Lai Bangkok ซึ่งมีคอนเซปต์ของเครื่องดื่มที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณี
เราชวนบูม-ภูวนนท์ เอกฉมานนท์ บาร์เทนเดอร์คนเก่งแห่ง Ruby’s มารังสรรค์เมนูเครื่องดื่มจากแม่โขง สไปซ์รัมของไทย เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นไทยผ่านศาสตร์การชงค็อกเทล จนเกิดเป็น “Green Sapphire” ซึ่งรับรองว่าทำเองได้ไม่ยากเลย

“ค็อกเทลของ Ruby’s ทุกแก้วได้รับแรงบันดาลใจจากอัญมณี เช่นเดียวกับ Green Sapphire แก้วนี้ ตั้งแต่ชื่อและความหมายแฝงของอัญมณี ไปจนถึงวัตถุดิบที่เราเลือกใช้ ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ และความเป็นไทย” บูมบอกกับเรา “สีเขียวของมรกตสื่อถึงความเขียวชอุ่มของสวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และเรายังใส่ใบเตยซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใส่ในขนมและเครื่องดื่มไทยหลายอย่าง รวมทั้งน้ำเชื่อมก็เป็นน้ำเชื่อมข้าวหอมมะลิอันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทยเกือบทุกมื้อ”
นอกจากนั้นเขายังใช้สปิริตคุณภาพระดับสากลระดับตำนานที่อยู่คู่กับคนไทยมานานนับตั้งแต่ พ.ศ. 2484 จนกลายเป็นความภูมิใจของคนไทยอย่าง “แม่โขง” สไปซ์รัมที่มีรสชาติเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ไทย ผลิตจากวัตถุดิบและเครื่องเทศไทยนานาชนิด “ค็อกเทล Green Sapphire แก้วนี้จึงเป็นเครื่องดื่มแห่งความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยครับ” เขาเสริม

Green Sapphire
วัตถุดิบ- สไปซ์รัมไทยคุณภาพแม่โขง 40 มล.
- ลิเคียวร์เมลอน Midori 15 มล.
- น้ำเชื่อมข้าวหอมมะลิ 5 มล.
- น้ำมะนาวสดแท้คั้น 20 มล.
- น้ำโทนิกกลิ่นแตงกวาและดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ 35 มล.
- แอปเปิลเขียวหั่นชิ้น 3/4 ชิ้น
- ใบสะระแหน่ 3 ใบ
- เนยโกโก้สีเขียว เล็กน้อย
- น้ำแข็งใบเตยที่ทำเอง (ดูวิธีทำด้านล่าง)
อุปกรณ์ที่ใช้
- เชกเกอร์แบบสองชิ้นหรือ Boston Shaker พร้อมกระชอนตาถี่
- แก้วทรงสูงแบบ Highball

วัตถุดิบสำหรับน้ำเชื่อมใบเตย
- ใบเตยซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ 100 กรัม
- น้ำตาล 500 กรัม
- น้ำร้อน 500 มล.
วิธีทำ:
- ต้มใบเตยในน้ำร้อนประมาณ 5 นาที เติมน้ำตาลลงไปจนละลาย ปล่อยให้เย็นสนิทก็พร้อมใช้
- วัตถุดิบสำหรับน้ำแข็งใบเตย
- น้ำเชื่อมใบเตย 150 มล.
- น้ำมะนาว 100 มล.
- น้ำเปล่า 350 มล.
วิธีทำ
- ผสมน้ำเชื่อมใบเตย น้ำมะนาว และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน เทใส่แม่พิมพ์น้ำแข็ง แล้วแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืน
อ่านเพิ่มเติม: เปิดสูตรค็อกเทลรางวัลชนะเลิศจากแม่โขงที่เสิร์ฟในงานประกาศรางวัลดาวมิชลิน ประจำปี 2568

วัตถุดิบสำหรับน้ำมะนาวเข้มข้น (Lemon Clarified)
- น้ำมะนาว 500 มล.
- ผงวุ้น (Agar Agar Powder) 10 กรัม
- น้ำร้อน 100 มล.
วิธีทำ:
- ผสมวัตถุดิบทั้งหมดในชามแล้วคนเบา ๆ ให้ผงวุ้นละลาย
- นำไปแช่เย็นในตู้เย็นประมาณ 8-10 ชั่วโมง จนเซตตัวเป็นวุ้น
- นำมากรองผ่านผ้าขาวบางหรือฟิลเตอร์กาแฟ

วิธีทำค็อกเทล
- ใส่เนยโกโก้สีเขียวลงไปในถ้วยน้ำร้อน ละลายจนเหลว จากนั้นใช้แปรงทาให้เป็นเส้นบนแก้วทรงสูง
- ใส่วัตถุดิบทั้งหมด ยกเว้นน้ำแข็ง ลงในเชกเกอร์ แล้วเขย่าให้เข้ากัน
- ใส่น้ำแข็งตามลงไป ปิดเชกเกอร์ เขย่าต่ออีกประมาณ 8-10 วินาที
- ใช้ตะแกรงตาถี่กรองของเหลวใส่ลงในแก้วไฮบอล เติมน้ำแข็ง คนเบา ๆ สุดท้ายเติมโทนิกแตงกวาหรือโทนิกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์แล้วคนเบา ๆ ให้เข้ากัน
- ตกแต่งด้วยน้ำแข็งใบเตย เป็นอันเสร็จพร้อมดื่ม

เคล็ดลับระดับมือโปรจากบาร์เทนเดอร์
- เติมแอปเปิลเขียวและน้ำเชื่อมใบเตยเพื่อความสดชื่นได้ตามชอบ
- ถ้าหาซื้อน้ำโทนิกกลิ่นแตงกวาและดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไม่ได้ สามารถเปลี่ยนเป็นจินเจอร์เอลได้เลย ซึ่งจะช่วยเติมเต็มกลิ่นรสของขิงในแม่โขงให้ยิ่งชัดเจนขึ้นได้อีกด้วย
แม่โขงเป็นสปิริตคุณภาพของไทยที่มีมาตรฐานในระดับสากล ได้รับการยอมรับอย่างยาวนานว่ามีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ รสชาติอันโดดเด่นของแม่โขงนั้นเกิดจากการใช้วัตถุดิบในประเทศไทย โดยมีเครื่องเทศกว่า 46 ชนิด และปลายข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง 1 เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งทำให้แม่โขงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยรสชาติจัดจ้าน และกลิ่นหอมนุ่มละมุนเหมาะกับการทานคู่กับอาหารไทย และสร้างสรรค์คอกเทลสูตรต่างๆได้อย่างลงตัว จนเป็นที่ยอมรับในบาร์ต่างประเทศในฐานะ The Spirit of Thailand แม่โขงคือเครื่องดื่มที่สะท้อนจิตวิญญาณไทยให้โลกได้สัมผัสอย่างภาคภูมิ
ภาพเปิด: © อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา/ MICHELIN Guide Thailand
