ทานอาหารนอกบ้าน 5 minutes 24 มิถุนายน 2022

การมาเยือนของร้านนอร์ดิกชื่อดัง, เชฟคนใหม่ของ Saawaan และอัปเดตแวดวงร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’

นี่คือความเคลื่อนไหวของร้านอาหาร และการขยับตัวของเชฟแถวหน้าในเมืองไทยที่คุณไม่ควรพลาด

เมื่อพรมแดนประเทศและแถบเพื่อนบ้านเปิด ก็เรียกได้ว่าตอนนี้วงการอาหารคึกคักถึงขีดสุด ทั้งโปรเจกต์ค้างคารอเปิดที่ซุ่มเตรียมงานมาอย่างยาวนานก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รวมถึงการขยับตัวเคลื่อนย้ายของหัวเรือร้านระดับดาวมิชลินที่ทั้งวงการจับตามอง และแน่นอนว่าเหล่าพ่อครัวแม่ครัวยังคงพัฒนาเมนูอย่างต่อเนื่องให้นักกินไม่มีเบื่อ

และนี่คือความเป็นไปล่าสุดที่พร้อมรอให้คุณไปลิ้มลองด้วยตัวเองแล้ว

บ้านหลังใหญ่กับการปักหมุดหมายล่าสุดของเครือ Frantzén (© Villa Frantzén)
บ้านหลังใหญ่กับการปักหมุดหมายล่าสุดของเครือ Frantzén (© Villa Frantzén)

Villa Frantzén ได้ฤกษ์เปิดตัวแล้ว
ถือเป็นร้านอาหารจากแดนหนาวที่ถูกจับตามองมาร่วมปีจากคนในวงการ ด้วยทำเลที่ตั้งในบ้านหลังใหญ่ในซอยเย็นอากาศ 3 ไม่ไกลจากร้านอาหารเยอรมันดีกรีสองดาวมิชลิน ซึ่งตอกย้ำว่าทำเลนี้เป็นทำเลทองที่กำลังคึกคักแบบที่ไม่รู้ว่าย่านเย็นอากาศเป็นหมุดหมายใหม่ของชาวยุโรปแถบเหนือหรือไร ร้านอาหารนอร์ดิกสมัยใหม่ของอดีตนักบอลชาวสวีเดน บียอร์น ฟรันท์เซน (Björn Frantzén) นี้แตกหน่อมาจาก Frantzén ร้านอาหารระดับรางวัลสามดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับสวีเดน ประจำปี 2565 ที่ขยับขยายความสำเร็จมาสู่เอเชีย โดยร้าน Zén ที่ประเทศสิงคโปร์ของเขาเพิ่งคว้ารางวัลสามดาวมิชลินมาครองในคู่มือปกแดงฉบับสิงคโปร์ ประจำปี 2564 ล่าสุด

Villa Frantzén แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนร้านอาหารที่อยู่ในตัวบ้านหลังใหญ่ 2 ชั้น แบ่งเป็น 3 ห้องในบ้านหลังอบอุ่น ตรงกลางเป็นครัวเปิดขนาดใหญ่ ตบแต่งสไตล์ไม้ มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดทางให้แสงธรรมชาติและวิวสีเขียวของต้นไม้ในสวนได้เป็นดาวเด่นทางสายตาโชว์ความเรียบง่าย และผนังที่เรียงรายไปด้วยขวดโหลของหมักดองอันเป็นเทคนิคขึ้นชื่อของยุโรปตอนเหนือ โดยมีเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ มาร์ติน เอนสตรอม (Martin Enström) เป็นผู้นำทีมคู่กับเอ็กเซ็กคูทีฟซูเชฟ นิลาส คอร์เนเลียสเซน (Nilas Corneliussen) เสิร์ฟอาหารเซตเมนูที่เน้นความสบายตัวมากกว่าไฟน์ไดนิ่ง พร้อมใส่ความเป็นเอเชียเข้าไปผ่านวัตถุดิบเพื่อนำเสนอรสชาติที่นักกินในไทยยังไม่คุ้นเคย

นอกจากนี้ยังมีส่วนบาร์ Villa Frantzén Cocktail Bar ที่สร้างขึ้นจากอดีตโรงเพาะเห็ด นำเสนอค็อกเทลล้ำ ๆ (อย่าง Chlorophyll Highball ที่ทำจากน้ำส้มสายชู) รสชาติไกลตัวผ่านมุมมองศาสตร์การปรุงจากสายตานอร์ดิก นำโดยมิกโซโลจิสต์และผู้จัดการบาร์ กาเบรียล วัลเดส (Gabriel Valdés) ทั้งยังสั่งอาหารรับประทานเล่นมารับประทานที่มุมบาร์ก็ได้เช่นกัน

ราคาอาหารเทสติ้งเมนู 5 คอร์สอยู่ที่ 3,500 บาท++ ต่อคน และตอนนี้โต๊ะจองเต็มยาวไปถึงเดือนกรกฎาคมเรียบร้อยแล้ว

พิกัด: 7 ซอยเย็นอากาศ 3 แขวงช่องนนทรีย์ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ โทร. 08 7344 8222


เชฟเอิร์ท หัวเรือคนใหม่แห่งร้านอาหารไทยรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน (© Saawaan)
เชฟเอิร์ท หัวเรือคนใหม่แห่งร้านอาหารไทยรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน (© Saawaan)

Saawaan เปิดตัวเชฟคนใหม่ พร้อมเมนูใหม่
ร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เปิดตัวหัวเรือคนใหม่ เอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ เอิร์ท-ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร เชฟชาวภูเก็ตที่ประจำอยู่ที่ร้านนิธาน ร้านที่ได้รับการแนะนำในคู่มือฉบับนี้ที่ภูเก็ตและเคยปรากฏกายในรายการแข่งขันทำอาหารมาก่อนหน้า โดยเชฟเอิร์ทนำความรู้เรื่องการหมักมานำเสนอผ่านเมนูอย่างซอสไตปลาทรงเครื่องตำรับใต้แท้ ๆ เชฟยังดึงแรงบันดาลใจมาจากการทำอาหารของคุณยายอย่างต้มกะทิเนื้อเค็มที่ใช้เนื้อชาโรเลจากฝรั่งเศส เขายังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการค้นคว้าพริกหลากชนิดที่เข้ากับสูตรพริกแกงเขียวหวานในแบบของเขาที่สุดเช่นกัน และตบท้ายด้วยขนมหวานของเชฟเปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล แห่งร้าน Ici ที่ได้รับการแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดเช่นกัน ซึ่งมารังสรรค์เมนูโอเปร่าเค้กที่ผสมกับความเป็นขนมชั้นแบบไทย

พบกับเมนูนี้ได้ที่ร้าน Saawaan โดยสนนราคาเทสติ้งเมนูอยู่ที่ 2,490 บาท++ และ 1,990 บาท++ สำหรับไวน์แพริง และ 850 บาท++ สำหรับเมนูเครื่องดื่มสร้างสรรค์จากน้ำผลไม้

พิกัด: 39/19 ซอยสวนพลู ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0 2679 3775

เชฟอันเดรียกับโต๊ะเชฟส์เทเบิลที่เขาและทีมเล่นสนุกกับวัตถุดิบที่อยากอวดให้คุณมาลิ้มลอง (© Riva Del Fiume)
เชฟอันเดรียกับโต๊ะเชฟส์เทเบิลที่เขาและทีมเล่นสนุกกับวัตถุดิบที่อยากอวดให้คุณมาลิ้มลอง (© Riva Del Fiume)

A Tavola คอนเซปต์ใหม่อยู่ใกล้เชฟจาก Riva del Fiume
เอ็กเซ็กคูทีฟเชฟชาวอิตาเลียน อันเดรีย อัคคอร์ดี (Andrea Accordi) กับทีมงานของเขาอยากชวนคุณมาเที่ยวเล่นในสวนสนุกแห่งรสชาติภายในห้องอาหาร Riva del Fiume ที่ได้รับการแนะนำอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ด้วยการเปิดคอนเซปต์ใหม่ A Tavola ที่เขาย้ำว่านี่ไม่ใช่ไฟน์ไดนิ่ง แต่เป็นเชฟส์เทเบิลน้อย ๆ ขนาดสำหรับ 10-12 ท่าน ที่เสิร์ฟบนโต๊ะยาวหน้าเตาพิซซ่าหน้าครัว นำเสนออาหารอิตาเลียนปรุงด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลจากทั่วโลกที่แตกต่างไปจากเมนูปกติของร้าน เช่น เนื้อ Mayura (ที่ไม่ใช่ชื่อนักแสดงไทยยุคก่อน แต่แปลว่าดินแดนแห่งต้นเฟิร์น) จากฟาร์มวากิวระดับมือรางวัลส่งตรงจากตอนใต้ของออสเตรเลียที่วัวในฟาร์มกินช็อกโกแลตนมเป็นอาหาร ซึ่งหารับประทานได้แห่งเดียวในประเทศไทย

A Tavola เปิดเฉพาะมื้อเย็น 2 วันต่อเดือนเท่านั้น โดยเสิร์ฟตั้งแต่อาหารกินเล่นช่วงพระอาทิตย์ตกแบบอิตาเลียน (Aperitivo) ตั้งแต่ 18.00-19.00 น. และมื้อเย็นจำนวน 7 คอร์สที่เริ่มตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป ในราคา 7,000 บาท++ ต่อท่าน และ 3,800 บาท++ สำหรับไวน์แพริง ส่วนเมนูเนื้อ Mayura นี้ยังมีให้บริการในแบบ a la carte ที่ร้านจนถึง 2 กรกฎาคม 2565 นี้ด้วย

พิกัด: ชั้น G โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 300/1 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0 2032 0888


อยากกินไคเซกิ ขอเชิญที่นี่ (© Yamazato)
อยากกินไคเซกิ ขอเชิญที่นี่ (© Yamazato)

Yamazato เปิดตัวเมนูไคเซกิตามฤดูกาลล่าสุด
ห้องอาหาร Yamazato ร้านอาหารแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ที่นำโดยเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) ปล่อยเมนูใหม่ “Fumitsuki Kaiseki” เปิดตัวมื้ออาหารตามฤดูกาลที่มีทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น โดยนำเสนอวัตถุดิบช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นอย่างเป็ดรมควันกับหอยเชลล์จี่ในกระทะร้อน หรือจะปลาแมกเคอเรลจากสเปนกับมายองเนสข้าวโพด และยังมีข้าวสไตล์ฟุคากาวะกับหอยอาซาริ เป็นต้น

มื้ออาหารกลางวันเสิร์ฟในราคาท่านละ 1,700 บาท++ และมื้อเย็นท่านละ 4,700 บาท++ พร้อมให้บริการตั้งแต่ 1-31 กรกฎาคม 2565

พิกัด: ชั้น 24 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2687 9000

เมนูปูหน้าตาสวยงามของร้าน Mia (© Mia)
เมนูปูหน้าตาสวยงามของร้าน Mia (© Mia)

Mia ปล่อยเมนูฤดูร้อนล่าสุด
เชฟท็อป รัสเซลล์ (Top Russell) และเชฟมิเชลล์ โกห์ (Michelle Goh) แห่งร้าน Mia ที่ได้รับคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เปิดตัวเทสติ้งเมนูล่าสุดต้อนรับฤดูร้อน โดยนำเสนอเมนู 7 คอร์สที่รวมเอาจานซิกเนเจอร์ยอดฮิตมาไว้อย่างหอยนางรม Ostra Regal ทาร์ตกุ้งล็อบสเตอร์ ส่วนเมนู Taramasalata กับไข่ปลาก็ยังคงนำกลับมาเสิร์ฟในรอบนี้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีแก้มหมูย่าง โรเมสโก เยลลีพริก และฟัวกรากับไวน์หวานและลูกพรุน เมนูของสองเชฟยังคงอัดแน่นไปด้วยอาหารทะเลไม่ต่างจากเมนูก่อน โดยครั้งนี้มีปูจากทะเลเหนือเสิร์ฟกับ ajo blanco แบบสเปน เสิร์ฟกับองุ่นฝานบาง ๆ ส่วนจานหลักแน่นอนว่าเชฟท็อปยังคงเสิร์ฟจานเด็ด เป็ดที่เอจกับฟาง ที่เขานำกลับมาเสิร์ฟอีกครั้ง หรือจะเลือกเป็นเนื้อสันในวากิว A5 จากฮอกไกโดก็ได้เช่นกัน ปิดท้ายด้วยขนมหวานฝีมือเชฟมิเชลล์ที่เริ่มด้วยไอศกรีมเชอร์เบตลิ้นจี่กับผักชีลาวและมาสคาร์โปเน เพื่อเปิดโสทประสาทสู่เมนูขนมหวานถัดไปที่เราเคยเขียนถึงอย่าง Cereal Bowl กับนมช็อกโกแลตมอลต์ และครีมชีสเค้กกับรูบาร์บที่เธอนำเสนอต่างกันถึง 4 แบบด้วยกัน

เทสติ้งเมนู 7 คอร์สนี้ราคา 4,550 บาท++ ต่อคน ส่วนเมนู 5 คอร์สราคา 3,550 บาท++ หรือจ่ายเพิ่ม 2,250 บาท++ เพื่อจับคู่กับไวน์แพริง 5 แก้ว และยังมีเมนูมังสวิรัติ 5 คอร์สราคา 3,150 บาท++

พิกัด: 30 ซอยอรรถกวี 1 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โทร. 0 2080 0080, 0 2258 6745



หนานเป่ยเปิดประตูต้อนรับทุกท่านอีกครั้ง (© Nan Bei)
หนานเป่ยเปิดประตูต้อนรับทุกท่านอีกครั้ง (© Nan Bei)

Nan Bei กลับมาเปิดให้บริการแล้ว
หลังจากปิดบริการมาจนแฟนอาหารจีนคิดถึง เชฟแมตทิว เกง (Matthew Geng) หวนกลับมาสู่ห้องอาหารหนานเป่ยที่ได้รับคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในที่สุด โดยทางร้านเตรียมเมนูพิเศษ “A Taste of Hunan” ที่ให้ลิ้มลองยาว ๆ แบบให้หายคิดถึงตลอด 2 เดือน โดยเมนูนี้แตกต่างจากเมนูเดิม ๆ ตรงที่นำอาหารจีนตำรับภาคเหนือและใต้มานำเสนอ จัดเต็มเรื่องรสชาติจัดจ้านที่เชฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปยังแดนใต้ของจีนในช่วงที่ผ่านมา

พิกัด: ชั้น 19 โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ 1041/38 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2080 0080

อาหารหน้าตาสวยงามของเชฟเจราร์ด (© Elements, inspired by Ciel Bleu)
อาหารหน้าตาสวยงามของเชฟเจราร์ด (© Elements, inspired by Ciel Bleu)

Elements เปิดตัวเมนูใหม่ต้อนรับฤดูร้อน
เชฟเจราร์ด บียาเรต ออร์กาโค (Gerard Villaret Horcajo) เชฟคนใหม่ที่มารับหน้าที่เชฟเดอคุยซีนคนใหม่ของร้าน Elements, Inspired by Ciel Bleu รางวัลหนึ่งดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ยังโชว์ฝีมือสร้างสรรค์ดึงดูดคนให้จับตามองห้องอาหารแห่งนี้เป็นพิเศษในช่วงนี้ โดยล่าสุดเปิดตัว Summer Guestronomic Journey Set Menu ที่มีให้เลือกแบบ 4, 6 และ 8 คอร์ส ซึ่งเขาเน้นรสชาติบางเบาของอาหารให้เข้ากับหน้าร้อน เล่นกับดอกไม้ ผลไม้ และพืชผลสีสันสดสวย จับวัตถุดิบอย่างปลาฮามาจิ ปลาไหลรมควัน ปลาคอดนอร์เวย์ ไล่ไปจนถึงเนื้อวากิว A5 จากซัตสึมะ

เมนู Summer Guestronomic Journey Set Menu เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2565 โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Ku-Ki Experience (4 คอร์ส) ราคา 3,800 บาท++ ต่อท่าน, Chikyu Experience (6 คอร์ส) ราคา 4,600 บาท++ ต่อท่าน และ Mizu Experience (8 คอร์ส) ราคา 5,900 บาท++ ต่อท่าน นอกจากนี้ยังมีเมนูจานเดี่ยวให้เลือกอย่างฟัวกรา หอยเชลล์ฮอกไกโด หรือชูโทโร สั่งเพิ่มในราคาจานละ 800 บาท++ ด้วย

พิกัด: ชั้น 25 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2687 9000



ภาพเปิด: © Villa Frantzén

ทานอาหารนอกบ้าน

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ