มีคนเคยบอกผู้เขียนว่าอยู่เมืองไทยไม่ต้องไปหาของกิน ของกินจะมาหาเราเอง แท้จริงแล้วก็ไม่ผิดนัก ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งของอร่อยที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน เพราะมีของกินให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ของอร่อยริมทางราคาสบายกระเป๋าที่หารับประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมงกับรถเข็นอาหารที่อาจชนคุณบนถนน ไปยันร้านอาหารสุดหรูในโรงแรมห้าดาว
และนี่คือโรงแรมชั้นยอดทั้ง 6 แห่งในเมืองไทยแนะนำโดยผู้ตรวจสอบของมิชลิน ที่นอกจากจะให้คุณนอนพักผ่อนหย่อนใจแล้วยังสามารถไปฝากท้องแบบอร่อยแน่นอนได้ที่ร้านอาหารระดับรางวัลดาวมิชลินที่ตั้งอยู่ในโรงแรมในกรุงเทพฯ และเราแถมภูเก็ตให้ด้วย
อาหารฝรั่งเศสจากวัตถุดิบญี่ปุ่นของร้าน Elements (© Elements, Inspired by Ceil Bleu)
ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
การตกแต่ง: คลาสสิกร่วมสมัยบรรยากาศ: มีชีวิตชีวา
โรงแรมตกแต่งอย่างคลาสสิกเรียบง่าย ตั้งอยู่ใกล้แยกเพลินจิตใจกลางความวุ่นวายของเมืองฟ้าอมรอย่างกรุงเทพมหานคร มีทั้งกลิ่นอายและฉาบด้วยจิตวิญญาณความเป็นแดนอาทิตย์อุทัย โดดเด่นด้วยที่ตั้งและทำเล บวกกับห้องพักที่เริ่มต้นที่ชั้น 26 ชวนรู้สึกราวกับลอยอยู่บนฟ้า ทั้งยังเดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต และอยู่ไม่ไกลห้างสรรพสินค้า นอกจากนั้นยังเป็นบ้านของร้านอาหาร Elements, Inspired by Ceil Bleu (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566) ที่ตั้งอยู่บนชั้น 25 เหมาะสำหรับนัดพิเศษกับคนรู้ใจ ชมวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราและโมเดิร์น อาหารกำกับดูแลโดยเชฟที่ผ่านชั่วโมงครัวมาจากร้าน Ciel Bleu รางวัลสองดาวมิชลิน ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม นำเสนอศิลปะอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงเข้ากับอิทธิพลอาหารญี่ปุ่น Tasting Menu มีให้เลือก 3 แบบ คือ 4, 6 และ 8 คอร์ส อย่าพลาดชิม Kamichiku Satsuma Wagyu ที่ย่างจนอร่อยสมบูรณ์แบบ ที่ผู้ตรวจสอบของมิชลินแนะนำ หากไม่อยากจิบแอลกอฮอล์ทางร้านก็มีคอมบูชะหมักเองเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมถ้าต้องการเพิ่มโพรไบโอติก
พิกัด: ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0 2687 9000
อย่าลืมลองเซตเมนู Heritage แนะนำโดยผู้ตรวจสอบของมิชลิน (© Sansith Koraviyotin/ Nahm)
โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ
การตกแต่ง: นำสมัยบรรยากาศ: มีชีวิตชีวา
โรงแรมน้องสาวในเครือ Como จากกรุงลอนดอนที่ตั้งอยู่ในสาทรต้อนรับคุณด้วยพนักงานในชุดสีดำแลดูเนี้ยบ ห้องพักที่แลดูน้อยแต่มากประดับด้วยภาพวาดสีขาวและไม้สีดำที่เห็นได้ทั่ว แม้ทำเลจะตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ตอนใต้ แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบ และสะดวกแก่การชอปปิงยามกลางวัน ทั้งยังออกไปย่ำราตรีต่อได้ไม่ยาก หากอยากรับประทานอาหารไทยที่ปรุงอย่างเอร็ดอร่อยติดดาว เรามีห้องอาหารน้ำ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566) ที่ชั้นล่างของโรงแรม ซึ่งสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และความใส่ใจในรายละเอียดของเชฟ มีทั้งเซตเมนูและจานเดี่ยว ถ้าเลือกไม่ถูก ผู้ตรวจสอบของมิชลินแนะนำให้สั่ง Heritage Set Menu ที่นำเสนอเมนูเด่นแสนอร่อยอันน่าประทับใจของทางร้าน มีตั้งแต่คานาเป จานหลัก จนถึงของหวาน มียำผักย่างแบบทวายที่หารับประทานยาก และเนื้อผัดพิโรธรสเข้มจัดจ้านสมชื่อ
พิกัด: 27 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0 2625 3333
เมนูเป็ดของเชฟอะแล็ง รูซ์ (Alain Roux) ที่ห้องอาหาร Le Normandie by Alain Roux (© Anuwat Senivansa Na Ayudhya/ MICHELIN Guide Thailand)
แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
การตกแต่ง: คลาสสิกร่วมสมัยบรรยากาศ: มีชีวิตชีวา
บ้างก็ว่านี่เป็นโรงแรมที่คนไปเกร่อที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่คนทั้งโลกกลับหลงรักแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ แห่งนี้ เพราะเป็นโรงแรมจากยุคอาณานิคมที่งดงามขึ้นชื่อที่นักประพันธ์ชื่อก้องโลกต่างหลงรัก เช่น โจเซฟ คอนราด (Joseph Conrad), แกรห์ม กรีน (Graham Greene) และวิลเลียม ซอเมอร์เซต มอห์ม (W. Somerset Maugham) ที่ต่างเคยมาหลับใหลที่นี่ รวมถึงไอคอนระดับตำนานแห่งอดีตกาลอย่างเจ้าหญิงเกรซ เคลลี (Grace Kelly), เอลิซาเบท เทย์เลอร์ (Elizabeth Taylor) หรือโนล โควาร์ด (Noël Coward) ที่ต่างมาซึมซับบรรยากาศคลาสสิกของอดีตกาลที่แมนดาริน โอเรียนเต็ลเช่นกัน ด้วยการตกแต่งที่ชวนมองตั้งแต่พัดลมเพดาน ระเบียงแกะสลักที่ประดับด้วยไม้เลื้อย หน้าต่างบานเกล็ดยุคเก่า เตียงสี่เสาที่ตกแต่งอย่างประณีต และสถานที่ยังอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้เขตร้อน ให้ได้เอนหลังมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้คนสัญจรไปมาทางเรืออันเป็นเสน่ห์ของเมืองหลวงของสยามประเทศ นอกจากนั้นคุณยังชมวิวนี้ได้จาก Le Normandie by Alain Roux (รางวัลสองดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566) ที่นำเสนออาหารฝรั่งเศสชั้นสูงสำหรับนักกินในกรุงเทพฯ และเมื่อได้เชฟระดับโลกอย่างอะแล็ง รูซ์ (Alain Roux) มาดูแลจึงยิ่งทวีความโดดเด่นจากรายละเอียด ตั้งแต่เทคนิคการปรุงแสนละเมียดละไม รสชาติอันซับซ้อน รวมไปถึงการจัดเสิร์ฟที่สวยงามสมบูรณ์แบบ ผู้ตรวจสอบของเราชมไม่หยุดถึง Pan-fried Canadian Lobster Medallion ที่เสิร์ฟพร้อมผักซอยเส้นปรุงรสขิงกรุ่นกลิ่นหอม และซอสพอร์ตไวน์ขาว
พิกัด: 48 ซอยโอเรียนเต็ล อเวนิว แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2659 9000
จานอาหารสุดวิจิตรของเชฟจากร้านอาหารรางวัลสองดาวมิชลินที่ Chef's Table และ Mezzaluna (© Chef's Table, Mezzaluna)
เลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์
การตกแต่ง: ทันสมัยบรรยากาศ: มีชีวิตชีวา
หนึ่งในโรงแรมของกรุงเทพฯ ที่โดดเด่นเห็นชัดแห่งย่านสีลม สาทร คือเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ ด้วยตึกสูงสง่ากับระเบียงโค้งมนเรียงรายชวนมองจากภายนอกที่ดึงดูดให้เดินเข้าไป ห้องพักยังสะอาดและตกแต่งอย่างโมเดิร์นเรียบง่ายด้วยไม้เนื้อแข็ง จากระเบียงอวดวิวย่านตอนใต้ของกรุงเทพฯ ที่เผยให้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและความสวยงามของแสงสียามค่ำคืน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่กู่ร้องถึงความหรูหรา ทั้งทีวีจอแบน เก้าอี้ทำงานจาก Eames และผลิตภัณฑ์อาบน้ำชั้นยอด ที่นี่ยังมีร้านอาหารถึงสองร้านที่ได้รับรางวัลสองดาวมิชลินจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566 ได้แก่ Mezzaluna ที่ตั้งอยู่บนชั้น 65 กับมื้ออาหารค่ำสไตล์ยุโรปร่วมสมัยแบบเซตเมนู 7 คอร์ส ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นจากทีมเชฟยอดฝีมือกับฝีมือสุดเนี้ยบ ผู้ตรวจสอบยกนิ้วให้เมนูเซอร์ไพรส์ที่ล้วนมีความลงตัวของรสชาติด้วยเทคนิคการปรุงชั้นสูง นอกจากนี้ยังมีไวน์ลิสต์ให้เลือกหลายราคา หรือจะร้าน Chef’s Table ร้านอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงจากเชฟชาวฝรั่งเศสมากประสบการณ์ ที่บรรจงออกแบบและคัดสรรองค์ประกอบเพื่อสร้างความประทับใจ ตั้งแต่ห้องรับประทานอาหารกับครัวเปิดสีทอง และยกวิวตระการตามาถึงที่จากชั้น 61 ด้วย
พิกัด: 1055 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2624 9999
การจัดจานสีสันสดใสจากเชฟคู่หูของร้าน J'AIME (© J'AIME by Jean-Michel Lorain)
ยู สาทร กรุงเทพฯ
การตกแต่ง: คลาสสิกร่วมสมัยบรรยากาศ: เงียบสงบ
โรงแรมสไตล์รีสอร์ตที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิสแห่งย่านสาทรอันวุ่นวาย สระว่ายน้ำทอดตัวยาวอยู่กลางโรงแรมแลดูน่าแหวกว่ายและชวนรู้สึกสงบ ห้องพักของที่นี่เกือบทั้งหมดมีระเบียงหรือเฉลียงที่เห็นวิวสระ นอกจากนั้นยังมีห้องอาหารที่ต้อนรับคุณด้วยเปียโนที่แขวนกลับหัวชวนรู้สึกเหมือนกำลังก้าวสู่อีกมิติหนึ่งอย่าง J’AIME by Jean-Michel Lorain (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566) ที่นำเสนอความอร่อยโดยเชฟชาวอิตาเลียนมากประสบการณ์งานครัวฝรั่งเศส ที่นี่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงด้วยความประณีตและฝีมือชั้นสูง ผู้ตรวจสอบของมิชลินแนะนำให้ลอง J'aime Journey Set Menu ที่ออกแบบโดยเชฟฌ็อง-มิเชล โลแร็ง (Jean-Michel Lorain) ผู้โด่งดัง ซึ่งเชฟจะแวะมาเยี่ยมร้านเป็นระยะ แต่วางใจให้ลูกศิษย์เอกสองคนทำหน้าที่ดูแลความสมบูรณ์แบบของมื้อเย็นให้แก่คุณได้เลย นอกจากนั้นที่นี่ยังเลือกใช้วัตถุดิบหลายอย่างที่เป็นของไทย รวมทั้งชีสคุณภาพสูงจากฟาร์มในประเทศ
พิกัด: 105,105/1 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0 2119 4888
เมนูเป็ดจานซิกเนเจอร์ของเชฟแห่งร้าน PRU (© PRU)
ตรีสรา
การตกแต่ง: คลาสสิกร่วมสมัยบรรยากาศ: เงียบสงบ
หากมองหาความเงียบสงบที่ฉาบเนียนไปกับความหรูหราอย่างลงตัวท่ามกลางธรรมชาติบนเกาะสวรรค์ของภูเก็ต ตรีสราคือคำตอบ เพราะรีสอร์ตนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่หลบตัวจากความวุ่นวายของภูเก็ต อยู่กลางอ้อมกอดของแมกไม้ ทุกห้องกว้างขวางและเป็นพูลวิลล่าที่มาพร้อมสระว่ายน้ำไร้ขอบที่ยกวิวอันดามันตระการตาแบบพาโนรามามาไว้ถึงหน้าห้อง มีที่นั่งชมวิว เตียงนอนอาบแดด และห้องอาบน้ำกลางแจ้ง รวมถึงโทรทัศน์ที่ปรับองศาได้ นอกเหนือจากที่พักแล้วที่นี่ยังมีร้านอาหาร PRU ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน และรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งมุมานะเสิร์ฟอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นยอดของไทยจากเกษตรกรทั่วภูมิภาค ทั้งพังงา นครพนม และจาก “พรุจำปา” ฟาร์มออร์แกนิก และเน้นการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนจากปรัชญา “ปลูก-ดูแล-เข้าใจ” เสิร์ฟออกมาเป็นอาหารที่ตกแต่งจานอย่างประณีตและใส่ความสร้างสรรค์ลงไปอย่างมีแนวคิด
พิกัด: 60/1 หมู่ที่ 6 ถนนศรีสุนทร ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โทร. 0 7631 0100
อ่านต่อ: เยี่ยมฟาร์ม “พรุจำปา” เผยความลับที่ดันให้ร้าน PRU คว้ารางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก
ภาพเปิด: © J'AIME by Jean-Michel Lorain
ภาพเปิด: © J'AIME by Jean-Michel Lorain
