บ้านเทพาตั้งอยู่ภายในบ้านหลังเก่าของตระกูลรุ่นที่สามของเชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ สถานที่แห่งนี้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม มอบประสบการณ์รับประทานอาหารไทยอันแสนจะมีเอกลักษณ์ โดยสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็นบ้านของท่านผู้หญิงสุวรี เทพาคำ ผู้เป็นทั้งแม่ครัวผู้เก่งกาจ และยังเป็นคุณย่าของเชฟตาม บ้านหลังอบอุ่นของครอบครัวแห่งนี้ได้ถูกปรับโฉมให้กลายเป็นร้านอาหาร โดยประกอบไปด้วยสามส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ครัวเทพา สวนเทพา และตัวบ้าน
ฝ่าฟันการจราจรอันติดขัดของกรุงเทพฯ
ด้วยความที่บ้านเทพาตั้งอยู่ในย่านรามคำแหงของกรุงเทพฯ การเดินทางจากใจกลางเมืองไปยังร้านเปรียบเสมือนการผจญภัยขนาดย่อมสำหรับผู้ตรวจสอบของเราก็ว่าได้“มันเป็นเย็นวันศุกร์ที่รถติดมาก ทีแรกเราคิดว่าจะไปถึงร้านทันที่จองไว้ตอน 19.00 น. แต่การจราจรในกรุงเทพฯ ไม่เป็นใจเท่าไหร่ ทำให้มาถึงช้าไปหนึ่งชั่วโมง ถึงแม้จะลำบากสักหน่อย แต่ก็เป็นการเดินทางก็คุ้มค่า” พนักงานของที่ร้านอายุยังน้อยและเต็มไปด้วยพลังสดใสทักทายผู้ตรวจสอบของเราอย่างอบอุ่น “พวกเขาใจดีมาก แถมยังบอกเราด้วยว่าเก็บโต๊ะที่จองเอาไว้ให้ และเข้าใจดีถึงการจราจรอันขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ”
บ้านของครอบครัวที่อบอวลไปด้วยความอร่อย
ผู้ตรวจสอบของเราเล่าถึงบรรยากาศที่เชื้อเชิญของร้าน “บ้านเก๋สไตล์คลาสสิกในยุค 1980 นี้เป็นวิลล่าทรงโคโลเนียลที่สร้างได้งดงามน่ามอง ทันทีที่ก้าวเข้าไปข้างในจะเห็นอิฐสีสดใสให้ความรู้สึกเร่าร้อนและเพดานสูง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากบรรยากาศภายนอก” ส่วนหลักในบ้านของครอบครัวหลังนี้เป็นสไตล์วินเทจสมัยใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์จากยุคทศวรรษที่ 1980 ได้รับการบูรณะใหม่ให้คงรูปลักษณ์เดิม แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ตรวจสอบของเรากลับไม่ใช่ห้องอาหาร “ห้องน้ำที่นี่สวยและน่าจดจำมาก ต่างจากหลายร้านที่เราไป เพราะยังคงการตกแต่งล้อไปกับห้องอาหาร แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่น่าชม”มื้ออาหารระดับสองดาวมิชลิน
ห้องกินข้าวของที่นี่คึกคักมีชีวิตชีวา แต่ความน่าตื่นเต้นของจริงเริ่มด้วยการเยี่ยมชมห้องครัวขณะจิบเครื่องดื่มต้อนรับ พร้อมกับความเป็นมืออาชีพของทีมงานที่ฉายแววออกมาให้เห็น “ห้องครัวของที่นี่ชวนนึกถึงครัวในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นตามาก เรายังทึ่งกับบรรดาอาหารกระป๋องที่เรียงรายที่เชฟพูดติดตลกว่าเปรียบเสมือน 'ลูกน้อย' ของเธอ”ด้วยความที่เชฟตามมีพื้นฐานการทำงานมาจากสหรัฐอเมริกามาก่อน นั่นจึงช่วยเพิ่มกลิ่นอายความทันสมัยให้กับรสชาติไทยแบบดั้งเดิม “เชฟตามมีทักษะที่น่าทึ่งและเธอใส่ความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดผ่านเมนูอาหารไทยร่วมสมัยของทำออกมา เรายังสังเกตเห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องเทศที่เก่งกาจอีกด้วย” เซ็ตเมนูอาหารจำนวนเก้าคอร์สอันประณีตที่ผู้ตรวจสอบของเราได้ลิ้มลองเปรียบได้กับการเดินทางตามฤดูกาลผ่านภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย การนำเสนอยังกระชับ และมุ่งเน้นการชูโรงวัตถุดิบจากแต่ละภูมิภาคเป็นหลัก
เมนูอาหารค่อย ๆ นำเราข้ามผ่านภูมิภาคต่าง ๆ จากภาคเหนือสู่อีสาน โดยเปลี่ยนจากอาหารทะเลเป็นเนื้อวัว ก่อนจะปิดท้ายลงด้วยเมนูข้าว
“สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อย แทนที่จะเป็นรสชาติปักษ์ใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความจัดจ้าน เชฟเติมกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นลงบนขนมปังที่ทำจากข้าวด้วยส่วนผสมหมักดอง ให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อสัมผัสหวาน เปรี้ยว นุ่ม กรุบกรอบพร้อมรสอูมามิ ให้รสชาติอร่อยที่น่าจดจำตั้งแต่คำแรก
“เราประทับใจเมนูเส้นอีสานที่เรียกว่าด๊องแด๊ง เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากข้าวชิ้นอวบกำลังดี ไม่หนาจนเกินไป มีความเด้งเล็กน้อยแต่ไม่เหนียว เนื้อสัมผัสโดดเด่นและซอสก็เกาะติดกับเส้นได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมของตะไคร้สดที่เข้ากันได้ดี เพิ่มสัมผัสอันคุ้นเคยให้กับเส้นแป้งที่ทำจากข้าว อาหารจานนี้ทั้งงดงามและเรียบง่าย ชวนให้ตกหลุมรักจานนี้ไปเต็ม ๆ
“อีกเมนูเด็ดคือกุ้งแม่น้ำ ด้วยการนำเสนอที่ชวนสะดุดตา ชวนนึกถึงบรรดากุ้งแม่น้ำมากมายที่เราเคยกินมาในประเทศไทย แต่กุ้งแม่น้ำจานนี้พิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยเนื้อกุ้งเคลือบด้วยซอสสีแดง เสิร์ฟบนเปลือกกุ้งที่อยู่ด้านล่าง รับประทานกับซอสมะขาม ส่วนหางกุ้งก็ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างชาญฉลาดด้วยส่วนประกอบของคุกกี้กรุบกรอบ เพิ่มเนื้อสัมผัสควบคู่ไปกับพิวเรจากทาร์รากอน”
การบริการจากทีมงานรุ่นใหม่
การบริการจากทีมที่เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ของบ้านเทพามอบประสบการณ์ที่เป็นกันเองและเอาใจใส่ “พนักงานแวะมาสอบถามหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเราพอใจและดูว่าขาดเหลืออะไรหรือไม่ ในขณะเดียวกันซอมเมอลิเยร์ก็ให้คำแนะนำไวน์ที่เป็นประโยชน์ เรียกว่าทีมงานบริการของบ้านเทพาช่วยทำให้มื้ออาหารของเราน่าจดจำจริง ๆ”แม้ว่าร้านอาหารจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองสักเล็กน้อย แต่ผู้ตรวจสอบของเราก็เชื่อมั่นว่าด้วยการต้อนรับและอาหารอันยอดเยี่ยมจะทำให้เดินทางของคุณนั้นคุ้มค่าแก่การไปเยือนอย่างแน่นอน
เคล็ดลับจากผู้ตรวจสอบของมิชลิน
- เลือกจับคู่อาหารกับค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากรสชาติไทย ๆ ซึ่งเข้ากับรสชาติอาหารและบรรยากาศได้ดีกว่าการดื่มไวน์
- แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน และเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังร้านอาหารสักหน่อย โดยเฉพาะถ้ามาจากใจกลางเมืองในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
- หากมาเป็นกลุ่ม 4-5 คน สามารถจองโต๊ะในห้องส่วนตัว หรือจะเลือกโต๊ะในห้องรับประทานอาหารหลักได้ ทางร้านมีโต๊ะที่ให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมกับมุมที่คุณจะได้ชมครัวเปิดด้วย
อ่านเพิ่มเติม: เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ แห่ง ‘บ้านเทพา’ หญิงไทยคนแรกผู้คว้ารางวัลดาวมิชลินสำเร็จถึง 2 ดวง
ภาพเปิด: © Baan Tepa