เมื่อร้านอาหารกลับมาเปิดอย่างเต็มที่ เหล่าเชฟต่างก็ขยับตัวเคลื่อนไหวไม่มีหยุด ทั้งร้านน้องใหม่จากเชฟแถวหน้าของวงการอาหารที่ได้ฤกษ์เปิดตัวเสียที ตลอดจนไลน์อาหารเดลิเวอรีแบบใหม่เพื่อปรับเข้ากับสถานการณ์ และแน่นอนเหล่าเชฟเตรียมปล่อยเมนูล่าสุดที่พวกเขาคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดในช่วงที่ผ่านมากันออกมาอย่างไม่มียั้ง
และนี่คืออัปเดตล่าสุดที่พร้อมรอให้คุณไปลิ้มลองด้วยตัวเองแล้ว
Indigo ปรับโฉมใหม่
ร้านอาหารฝรั่งเศสร้านโปรดของชาวต่างชาติในไทยและคนไทยที่มองหาบรรยากาศฝรั่งเศสสบาย ๆ แบบดั้งเดิม Indigo ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2564 กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากปิดชั่วคราวพร้อมด้วยโฉมใหม่ การปรับโฉมครั้งนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร ไปเยี่ยมชมพร้อมลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิกรับลมเย็น ๆ กันได้ที่ซอยคอนแวนต์
พิกัด: 6 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2235 3268
พ่อครัวฝาแฝด Sühring ร่วมกับเชฟ Gaggan Anand เปิดร้านกาแฟ
หลังจากซุ่มเงียบทำบาร์บีคิวและพาสตากับภรรยาอยู่นาน เชฟโทมัส (Thomas) และเชฟมาทิอัส ซูห์ริง (Mathias Sühring) แห่ง Sühring ร้านอาหารเยอรมันรางวัลสองดาวมิชลิน และเชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) แห่งร้าน Gaggan Anand ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ก็ประกาศเปิดตัวร้านกาแฟและอาหารไลฟ์สไตล์ โดยทั้งสามร่วมงานกับแบรนด์รองเท้าและเสื้อผ้าสตรีตสายเลือดไทยอย่าง Carnival จนเกิดเป็น CDGRE ที่มีทั้งโซนกาแฟในแบบของเชฟกากั้น อนันต์ ซึ่งถ่ายทอดความมีใจรักในกาแฟออกมาในแบบของเขาโดยเฟ้นหาวัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วโลกมาใส่ในแก้วกาแฟ และแน่นอนว่าสองพี่น้องฝาแฝดยังคงไม่หลุดคอนเซปต์การถ่ายทอดความทรงจำวัยเด็กออกมาเป็นอาหารว่างสไตล์เยอรมันแบบ Brotzeit Picknick หรือ “Bread Time” สำหรับคนกรุงในรูปแบบล้ำ ๆ ที่มีทั้ง Crispy German Pork Knuckle หรือ Creme Brulee Berliner รวมถึง Sneakers Strietzel แวะไปชิมกันได้ที่ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน
พิกัด: G15, ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน, 991 ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 6 1269 6711
เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจรผุดร้านหลานยาย ต่อยอดอาหารไทยรุ่นหลาน
เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร แห่งร้าน Le Du (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน), ร้านบ้าน และร้านนุสรา ที่ติดโผล่าสุดในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2564 ยังคงขยันต่อยอดอาหารไทยอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก โดยหลังจากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเทพนครที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำไปยังไม่หมาดดี เชฟต้นก็หยิบอาหารไทยตำรับของคุณยายในแบบไทยโบราณกับเทคนิคสมัยใหม่ของร้านนุสรายอดนิยมในย่านเมืองเก่ามาผุดเป็นอาหารไทยในแบบรุ่นหลาน (ที่ถ้ายายได้เห็นอาจถูกเอ็ด) ที่ Baan Turtle ซอยสวนพลู ในบรรยากาศหรูหราคลาสสิกแบบมี “อะไร”
อาหารของ Lahnyai Nusara (หลานยายนุสรา) คือการจำลองยุคถัดมาของอาหารไทยใส่เทคนิคฝรั่งเศสที่เชฟต้นถนัดเป็นพิเศษ เพิ่มสีสันด้วยวัตถุดิบตำรับตะวันตกยอดนิยม ตั้งแต่หอยเชลล์ฮอกไกโด ไข่ปลาคาเวียร์จากหัวหิน และเห็ดทรัฟเฟิลขาวจากอัลบาราคาชวนตาโต ร้านหลานยายฯ นำทีมครัวโดยเชฟนุช-นงค์นุช แซ่อิ้ว ผู้เคยผ่านร้านอาหารไทยระดับรางวัลหนึ่งดาวมิชลินอย่าง Paste มาก่อนหน้า ส่วนเมนูที่โดดเด่น ได้แก่ แตงโมปลาแห้งหน้าตาสะสวยที่ใส่เยลลีดาชิและส้มซ่าโรยด้วยไข่ปลาอิกุระดองน้ำปลาหวาน แกงนางลอยรสจัดที่ใช้เป็ดไล่ทุ่งโดยนำส่วนสะโพกมากงฟีก่อนนำไปรมควันชานอ้อยจนหอมและได้รสชุ่มฉ่ำ รวมถึงขนมอย่างช่อผกากรองน้ำกะทิที่เลือกโรยทรัฟเฟิลขาวจากอัลบาเป็นออปชันเสริมได้หากกระเป๋าหนัก ละเลียดคู่กับไวน์ที่คัดสรรโดยตาม-ชัยสิริ ทัศนาขจร น้องชายคนเล็กของเชฟต้นผู้เป็นซอมเมอลีเยร้านบ้านและนุสรานั่นเอง สำรองที่นั่งกันได้แล้วในแบบ 14 คอร์ส ราคาเริ่มต้นที่ 3,590 บาท
พิกัด: 31 ซอยสวนพลู 2 เขตสาทร กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 6 2242 5966
ร้าน Blue by Alain Ducasse กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
ร้านอาหารฝรั่งเศสรางวัลหนึ่งดาวมิชลินที่นำทีมโดยเชฟวิลฟริด อ็อกเก (Wilfrid Hocquet) และทีมงานพร้อมต้อนรับทุกคนกลับมาสู่ห้องอาหารแสนสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยากันอีกครั้งรับช่วงกินดื่มและเทศกาลเฉลิมฉลอง ใครที่คิดถึงอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยกับหน้าตาอาหารที่วิจิตรตั้งแต่จานแรกจนจานสุดท้าย สำรองที่นั่งกันได้เลย
พิกัด: ยูนิต L101 ชั้น 1 ไอคอนสยาม 299 ซอยเจริญนคร 5 ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2005 9412 หรือ enquiries@blue-alainducasse.com
เชฟ Alain Roux แห่งร้านรางวัลสามดาวมิชลิน Waterside Inn รับช่วงต่อ Le Normandie
หลังจากเดินตามรอยคุณพ่อมิเชล รูซ์ (Michel Roux) โดยปลุกปั้นและทำให้ร้าน Waterside Inn ที่เบิร์กเชียร์ในประเทศอังกฤษกลายเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสนอกประเทศที่รักษารางวัลสามดาวมิชลินได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ปี ควบกับการที่คุณพ่อของเขาได้ร่วมงานกับ Le Normandie หลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 1985 ในที่สุดเชฟอะแล็ง รูซ์ (Alain Roux) ก็ทำความฝันของคุณพ่อในการร่วมงานกับห้องอาหารรางวัลสองดาวมิชลิน Le Normandie ให้เป็นจริง
เขาปรับโฉมห้องอาหารฝรั่งเศสระดับตำนานของกรุงเทพฯ โดยรับไม้ต่อจากเพื่อนเชฟรุ่นน้อง อาร์โนด์ ดูน็องด์-โซทีเยร์ (Arnaud Dunand-Sauthier) (ผู้ออกเดินทางต่อบนเส้นทางอาหารฝรั่งเศสในแบบของเขากับร้าน Maison Dunand) ซึ่งเชฟอะเล็ง รูซ์บอกกับเราว่าเขาตั้งใจนำเสนออาหารฝรั่งเศสดั้งเดิมในสูตรของครอบครัวรูซ์ ซึ่งเป็นตระกูลที่โด่งดังด้านงานครัว เพื่อยกประสบการณ์การรับประทานอาหารริมน้ำแบบ The Waterside Inn ที่อังกฤษมาไว้ถึงริมน้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯ จึงเกิดเป็น Le Normandie by Alain Roux โดยมีหัวหน้าพ่อครัว เชฟฟิล ฮิกแมน (Phil Hickman) ผู้จัดการห้องอาหาร เฟเดริโก เดอ ลูกา (Federico de Luca) และทีมงานดั้งเดิมของห้องอาหารพร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกคนกลับมาเยือนอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นี้ กับเมนูคลาสสิกอย่างเป็ดอบ Challandais Duck ที่มาปรุงถึงโต๊ะ หอยนางรมจากบริตตานี รวมถึงรถเข็นชีสนานาชนิด หรือขนมหวานอย่างซูเฟลประจำวันที่ทำมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ
พิกัด: ชั้น 5 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2659 9000
ติดตามบทสัมภาษณ์พิเศษกับเชฟอะแล็ง รูซ์ ก่อนใครได้เร็ว ๆ นี้
เชฟไรลีย์แห่งร้าน Canvas กับเมนูที่เขาตื่นเต้นที่สุด
หลังจากติดล็อกดาวน์จนหันมาผุดไอเดียสร้างสรรค์งานศิลปะจากวัตถุดิบลงบนผืนผ้าที่เขาโพสต์อวดในอินสตาแกรม เชฟไรลีย์ แซนเดอร์ส (Riley Sanders) แห่งร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน Canvas พร้อมกลับมาครั้งใหม่กับอาหาร 18 เมนูในราคา 4,500 บาท ที่เขาตั้งใจทำที่สุดและอยากให้ทุกคนได้ลองจนแทบอดใจไม่ไหว ซึ่งครั้งนี้เชฟจากเทกซัสพาคุณออกเดินทางสู่โลกของเทศกาลแห่งสีสันงานปรุง กับจินตนาการอันบรรเจิดของเขาที่ถ่ายทอดผ่านวัตถุดิบจากทั่วประเทศไทย เช่น เนื้อลูกแกะจากปากช่อง จากฟาร์มที่ผลิตจำนวนจำกัด นำมาปรุงจนนุ่มชุ่มฉ่ำและโรยหน้าด้วยสะตอลวกอย่างไม่มีเคอะเขิน รับประทานคู่กับซอสจากวัตถุดิบ 6 ชนิดรวมกัน หรือหัวใจเป็ดที่ดูราวกับลูกอม ไปจนถึงจานรวมพลผัก ที่รวมเอาผักตามฤดูกาลถึง 50 ชนิดทั่วไทยมาจัดแต่งเรียงสีวัตถุดิบลงในจานที่สาดด้วยซอสสีสันสดใสราวกับภาพวาดสีรุ้งสมชื่อร้าน เชฟไรลีย์ยังเผยกับเราว่า “เมนูนี้เป็นเสมือนเรื่องราวส่วนตัว เพราะผมปาดสีแต่ละจานโดยใช้ความรู้สึกเดียวกับที่ทำบนผืนผ้าใบ มันสนุกและเป็นประสบการณ์ที่เล่นกับคนที่มากิน การได้เห็นคนกินอร่อยและสนุกไปกับอาหารและงานศิลปะทำให้ผมมีความสุข มันเข้าคู่กันเหมือนเวลาจับคู่ไวน์กับอาหาร แต่สำหรับผมคืออาหารกับศิลปะ”
พิกัด: 113, 9-10 ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 9 9614 1158
มื้อสายแบบสเปนที่ Uno Mas
อิ่มหนำกับรสชาติอาหารสเปนสุดอลังการทั้งอาหารทะเลอย่างก้ามปูยักษ์ ล็อบสเตอร์ กุ้งลายเสือ หอยนางรมนานาชนิด และไข่ปลาคาเวียร์ รวมถึงอาหารสเปนที่คัดเมนูยอดนิยมมาให้ได้รับประทานตามใจชอบโดยจัดเสิร์ฟถึงโต๊ะเหมาะกับทุกคนในบ้านในราคา 3,955 บาท++ ต่อท่าน เสิร์ฟพร้อมแชมเปญขวดแม็กนัม หรือขวดใหญ่ขนาด 1.5 ลิตร รวมถึงไวน์หลากชนิดที่มีให้ได้เลือกสรรแบบไม่อั้น เปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน เวลา 11.30-14.30 น. ที่ห้องอาหาร Uno Mas
พิกัด: ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ 999/99 ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2100 6255
Saawaan เปิดประตูต้อนรับการกลับมา พร้อมปล่อยเมนูใหม่
เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เจ้าของรางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award แห่งร้าน Saawaan (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเชฟเปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล นำเสนอการเดินทางที่เก็บตัวไปเรียนรู้และพัฒนาฝีมือจนออกมาเป็น เมนู 8 คอร์สเมนูใหม่ที่ัชูความโดดเด่นของอาหารไทยและวัตถุดิบไทยเช่นเคย โดยครั้งนี้มีการหยิบกะปิมาเล่นทั้งเรื่องรสชาติและการนำเสนอที่มอบเกล็ดความรู้ไปพร้อมกัน รวมถึงของหมักอย่างขนมจีนที่หมักในซอสถั่วลิสงและถั่วเขียว ออกมาเป็นเส้นหนึบเส้นอร่อย แต่จานเด่นที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือสิงห์เหนือเสือใต้ เมนูพิเศษที่เชฟอ้อมเสิร์ฟที่งานกาล่าของการประดาศดาวมิชลินเมื่อปีก่อนหน้าที่ได้รับคำชมอย่างมากมาย เธอหยิบกระบวนการคิดเดียวกันของการหยิบเครื่องแกงแบบเหนือและแบบใต้มาผสานกัน แล้วเล่าใหม่โดยใช้หมูไอเบนิโกรมควันที่เผ็ดร้อนและหอมขึ้นใจ ส่วนเชฟเปเปอร์นำทับทิมกรอบมานำเสนอใหม่หน้าตาน่าชม เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมมะพร้าวรมควันโฮมเมดและวุ้นมะพร้าวเคลือบคาราเมลปิดท้าย และถามหาแพริ่งกับน้ำผลไม้ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน ราคา 1,980 บาท++ ต่อท่าน และ 850 บาท++ สำหรับแพริ่งน้ำผลไม้
พิกัด: 39/19 ซ.สวนพลู ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2679 3775
“รวยมิตร” ข้าวต้มกุ๊ยน้องใหม่จากสุพรรณิการ์
เครือบ้านสุพรรณิการ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยเข้าใจง่ายอย่างร้านส้มตำเด้อ และสุพรรณิการ์ ยังคงพัฒนาอาหารไม่ต้องคิดเยอะแต่อร่อยออกมาอีกครั้งต่อจากร้านสุดคั่วที่เน้นเมนูคั่ว ๆ แสนอร่อย จึงเกิดเป็น “รวยมิตร” กับคอนเซปต์ข้าวต้มกุ๊ยที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีราวกับนั่งกินที่ร้านย่านทองหล่อ ซึ่งเปิดเป็นป๊อปอัปอยู่ในร้านสุพรรณิการ์สาขาทองหล่อ ทั้งยังมีเมนูแบบไทยจีนที่ง่ายต่อการจัดส่งมากมาย เช่น หอยลายผัดน้ำพริกเผา น่องเป็ดตุ๋นฟักมะนาวดอง หมูสับหนำเลี้ยบ กะหล่ำปลีผัดปลาเค็มไฟแดง ฯลฯ โดยจะเลือกเป็นชุดเล็กกับกับข้าว 3 อย่าง หรือจะเลือกเป็นกับข้าว รับประทานกับข้าวหอมมะลิหรือข้าวต้มหอมมะลิใบเตยก็ได้เช่นกัน สามารถนั่งรับประทานที่ร้านหรือสั่งผ่าน Grab Food ได้ตามสะดวก ดูรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก
พิกัด: 160/11 ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2714 7508
Mia กับเทสติงเมนูล่าสุดรับฤดูหนาว
หลังจากยุ่งอยู่กับการปรุงลักซาในช่วงล็อกดาวน์ เชฟทอป รัสเซลล์ (Top Russell) และเชฟมิเชลล์ โกห์ (Michelle Goh) แห่งร้าน Mia กลับมาพร้อมกับเทสติงเมนูประจำฤดูหนาวจำนวน 7 คอร์ส โดยทั้งสองดึงแรงบันดาลใจมาจากสีสันของธรรมชาติซึ่งนำเสนอผ่านเทคนิคการทำอาหารที่เก็บเกี่ยวมาจากการฝึกปรือฝีมือที่ร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินทั้งในยุโรปและเอเชีย หน้าหนาวของเชฟทอปและเชฟมิเชลคือการดึงความอร่อยของหอยเชลล์ฮอกไกโดที่เสิร์ฟกับแอปเปิลรสเปรี้ยว และไอศกรีมซอร์เบต์รสผักชีลาวสีเขียวสวยงามอันเป็นเทคนิคถนัดมือของเชฟมิเชลล์ รับประทานคู่กับเดรสซิงโยเกิร์ตที่ทั้งสดชื่นและหอมละมุน สามารถเลือกโปะด้วยคาเวียร์ก็ได้ และหากใครคิดถึงซุป “บรั่นดี” เป็ดจากเมนูก่อน ครั้งนี้ก็มีเมนู Pork 4 Ways ที่เชฟทอปเสิร์ฟบรั่นดีจากน้ำซุปหมูให้ได้ชิมพอให้หายคิดถึงกัน โดยมีให้เลือกแบบ 5 คอร์ส ราคา 2,850 บาท++ และ 7 คอร์ส ราคา 3,550 บาท++ หรือจ่ายเพิ่ม 990 บาท++ เพื่อจับคู่กับไวน์ 3 แก้ว และเพิ่ม 1,890 บาท++ สำหรับไวน์ 5 แก้ว
พิกัด: 30 ซอยอรรถกวี 1 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 2080 0080, +66 2258 6745
ภาพเปิดรูปอะแล็ง รูซ์: © อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา / MICHELIN Guide Thailand
