ล็อกดาวน์ที่ยังไม่ปลดล็อกดีทำให้เราออกไปไหนไม่ได้ มั่นใจว่าหลายคนคิดถึงการสังสรรค์กินดื่มนอกบ้าน บรรยากาศอันแสนวุ่นวายในร้านอาหารช่วงหัวค่ำ และบาร์ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนเมื่อถึงสุดสัปดาห์ ชีวิตอยู่บ้านจึงไม่ควรเป็นเรื่องน่าเบื่อ การสรรหาอะไรใหม่ ๆ เพื่อเติมความสุขให้ชีวิตช่วงนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น แน่นอนว่าการสั่งอาหารรสอร่อยหรือเข้าครัวทำเมนูโปรดด้วยตัวเองย่อมสร้างความสุขเล็ก ๆ ได้ แต่จะดีแค่ไหนหากได้ค็อกเทลรสเยี่ยมมาจับคู่กับมื้ออาหาร หรือไว้จิบชิล ๆ ยามบ่ายวันหยุด
การอยู่บ้านจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะ 3 มิกโซโลจิสต์จากร้านอาหารชั้นนำของประเทศไทยร่วมแบ่งปันสูตรค็อกเทล DIY ทำง่าย ๆ ที่บ้านสูตรเฉพาะสำหรับ 'มิชลิน ไกด์' ให้ทุกคนได้สวมบทบาร์เทนเดอร์และสร้างสรรค์ค็อกเทลด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นงานสังสรรค์หรือใช้เวลาส่วนตัวกับเครื่องดื่มแก้วโปรดก็จะมีแต่ความสุขแน่นอน

“Present and Future” โดย Federico Balzarini ร้าน 80/20, La Dotta และ il Fumo
เฟเดริโก บัลซารินี (Federico Balzarini) กรุ๊ปบาร์เมเนเจอร์ของเครือ Foodie Collection ซึ่งประกอบด้วยร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน 80/20 ร้านรางวัลมิชลิน เพลท La Dotta และ il Fumo และบาร์ค็อกเทลขึ้นชื่อแห่งซอยคอนแวนต์ Vesper คิดค้นสูตรค็อกเทลที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก เหมาะสำหรับจิบคลายร้อนหรือเป็นค็อกเทลของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร
อุปกรณ์และส่วนผสม
- จิน 35 มิลลิลิตร
- สาเกยูซุ 15 มิลลิลิตร
- สปาร์กลิงไวน์ เล็กน้อย
- น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร
- ชาคาโมไมล์ 5 กรัม
- หญ้าฝรั่น
- น้ำตาล 30 กรัม
- น้ำมะนาว 15 มิลลิลิตร
- แก้วสำหรับผสมเครื่องดื่มหรือแก้วทรงกระบอก
- แก้วคูปหรือแก้วปากกว้าง
ขั้นตอนการทำ Chamomile & Saffron Sorbet
- ต้มชาคาโมไมล์ 5 กรัมในน้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร พร้อมใส่หญ้าฝรั่นเล็กน้อย
- เมื่อชาได้ที่แล้ว ใส่น้ำตาล 30 กรัม และน้ำมะนาว 15 มิลลิลิตร คนให้เข้ากัน จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งเพื่อทำซอร์เบต์
- นำซอร์เบต์ออกมาคนด้วยส้อมทุก ๆ 35-40 นาที เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน
- เมื่อซอร์เบต์แข็งเรียบร้อย นำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นอาหารประมาณ 2-3 นาที
- เทซอร์เบต์ใส่ในภาชนะโลหะหรือพลาสติก แล้วนำเข้าช่องแช่แข็งอีกครั้ง
- ก่อนเสิร์ฟบนค็อกเทลให้นำซอร์เบต์ออกมาไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 2-3 นาที
ขั้นตอนการทำค็อกเทล
- ใส่จินกับสาเกในแก้วสำหรับผสมเครื่องดื่มหรือแก้วทรงกระบอกที่เตรียมไว้
- คนให้เข้ากันแล้วรินใส่แก้วคูปหรือแก้วปากกว้าง
- ตักซอร์เบต์ที่เตรียมไว้วางบนค็อกเทล
- ท็อปด้วยสปาร์กลิงไวน์เล็กน้อย และตกแต่งด้วยหญ้าฝรั่น
อ่านบทความคล้ายกัน: 5 เคล็ดลับผสมสไปซ์รัมไทยจากเหล่าบาร์เทนเดอร์ชั้นนำ สู่แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ค็อกเทลสูตรเด็ด

“Illusional” โดยชินพงษ์ พลศักดิ์ ร้าน Mia
ดีโด้-ชินพงษ์ พลศักดิ์ มิกโซโลจิสต์จาก Mia ร้านรางวัลมิชลิน เพลท นำเสนอสูตรค็อกเทลสีใสแต่รสไม่ใสอย่างที่คิด เติมความหอมด้วยกลิ่นใบเตยและลูกเล่นที่ได้จากช็อกโกแลต
อุปกรณ์และส่วนผสม
- วอดก้า 45 มิลลิลิตร
- เหล้าหวานกลิ่นเฮเซลนัต 15 มิลลิลิตร
- เหล้าหวานกลิ่นโกโก้ 10 มิลลิลิตร
- น้ำเชื่อมกลิ่นใบเตย 15 มิลลิลิตร
- น้ำมะนาว 10 มิลลิลิตร
- ช็อกโกแลต (สำหรับตกแต่งแก้ว)
- น้ำแข็ง (สำหรับเชกและเสิร์ฟ)
- เชกเกอร์
- แก้วคูปหรือแก้วปากกว้าง
ขั้นตอนการทำน้ำเชื่อมกลิ่นใบเตย
- ต้มน้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร จนเดือด
- ใส่ใบเตย 20 กรัม และน้ำตาล 50 กรัม
- คนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลละลาย
- วางทิ้งไว้ให้น้ำเชื่อมเย็นตัว
ขั้นตอนการทำค็อกเทล
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นน้ำแข็งในเชกเกอร์
- เทส่วนผสมกลับไปมา (แบบเดียวกับการทำชาชัก) 30 วินาที
- รินใส่แก้วคูปหรือแก้วปากกว้าง พร้อมเติมน้ำแข็งเหลี่ยม 1 ก้อน
- ขูดช็อกโกแลตโรยบนน้ำแข็ง
- ตกแต่งด้วยใบเตย
อ่านเสริม: เมื่อเราจีบเชฟจากร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลินมาออกแบบค็อกเทลสุดล้ำจากสไปซ์รัม

“Canvas Spritz” โดยศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ร้าน Canvas
ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ กรุ๊ปบาร์ไดเรกเตอร์แห่ง Watermelon Group ที่มีร้านรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน Canvas รวมถึงบาร์ที่เป็นที่นิยมในกรุงเทพฯ เช่น Rabbit Hole, Crimson Room ฯลฯ ชวนหยิบขวดวิสกี้มาปัดฝุ่นแล้วทำเป็นค็อกเทลรสเยี่ยมให้จิบเพลิน ๆ ที่บ้าน
อุปกรณ์และส่วนผสม
- วิสกี้ 15 มิลลิลิตร
- อิตาเลียน บิตเตอร์ 15 มิลลิลิตร
- ดรายเวอร์มุท 15 มิลลิลิตร
- ชาเอิร์ลเกรย์ 60 มิลลิลิตร
- น้ำโทนิก 90 มิลลิลิตร
- มะเฟืองฝาน 2-3 แผ่น
- เลมอนฝาน 2-3 แผ่น
- แก้วทรงสูง
ขั้นตอนการทำค็อกเทล
- ผสมวิสกี้ อิตาเลียน บิตเตอร์ ดรายเวอร์มุท และชาเอิร์ลเกรย์ในแก้วสำหรับผสมเครื่องดื่ม
- ใส่น้ำแข็งแล้วคนให้เข้ากัน
- รินใส่แก้วพร้อมน้ำแข็ง
- ท็อปด้วยน้ำโทนิกแล้วคนช้า ๆ อีกเล็กน้อย
- ตกแต่งด้วยมะเฟืองและเลมอนฝานเพื่อความสวยงาม
ภาพเปิด: © Foodie Collection, Mia, Canvas