5 เคล็ดลับผสมสไปซ์รัมไทยจากเหล่าบาร์เทนเดอร์ชั้นนำ สู่แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ค็อกเทลสูตรเด็ด

นพดล ธรรมส่องหล้า
ผู้ก่อตั้ง & บาร์เทนเดอร์ ร้าน POUR

มุมมอง: “เหล้าของไทยเรา โดยเฉพาะแม่โขง ทั้งคุณภาพและรสชาติไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล้าของชาติอื่นเลย ที่โดดเด่นก็คือเอกลักษณ์ของความเป็นไทย แม่โขงนั้นมีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน มีทั้งกลิ่นเครื่องเทศ ความเผ็ดร้อน และความหวาน มีความสมดุลแต่ซับซ้อนในรสชาติ ทว่าในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย ผมชื่นชมที่เครื่องดื่มแบรนด์ไทยของเรามีทั้งรสชาติและคุณภาพไปได้ไกลถึงระดับโลกแบบนี้”

ค็อกเทลแก้วโปรด: “...'Klin' เป็นค็อกเทลที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยใช้เหล้าแม่โขง น้ำเชื่อมดอกเก๊กฮวย น้ำมะนาว น้ำแตงโมสด ปลาแห้ง และนำไปรมควันเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมด้วย ผมได้ไอเดียในการสร้างสรรค์ค็อกเทลแก้วนี้มาจากอาหารไทยโบราณดับร้อนอย่างแตงโมปลาแห้ง”

เคล็ดลับการชงเหล้ารัม: "สำหรับผมแค่คุณเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องมีเคล็ดลับอะไร แต่ทั้งนี้เราต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบ ถ้ารู้จักวัตถุดิบเป็นอย่างดีคุณจะรู้เองว่าควรนำอะไรไปผสมกับอะไร แต่การจะทำค็อกเทลที่ดีออกมาได้สักแก้วนั้นคนทำต้องนำเสนอค็อกเทลที่มีลายเซ็นเป็นของตัวเองออกมาให้ได้ และมีความเหมาะสมกับผู้ดื่มแต่ละคนด้วย"

สหรัฐ แก้วคง
ซีเนียร์บาร์เทนเดอร์ ร้าน #FindTheLockerRoom

มุมมอง: "แม่โขงเป็นเหล้าคุณภาพของไทยที่ได้รับการยอมรับมายาวนานว่ามีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับเหล้ารัมอื่น ๆ ปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่ให้การยอมรับแม่โขงกันมากขึ้น พวกเขามักตื่นเต้นถ้าเรานำแม่โขงมาสร้างสรรค์เป็นค็อกเทลที่ดื่มง่าย ในขณะเดียวกันก็ชูรสชาติของแม่โขงให้โดดเด่นได้ด้วย เมื่อเรานำเสนอด้วยค็อกเทลที่ผ่านการคิดมาอย่างสร้างสรรค์และมีความสมัยใหม่มากขึ้น ก็ทำให้พวกเขาเห็นถึงคุณค่าของสุราไทยมากขึ้นเช่นกัน"

ค็อกเทลแก้วโปรด: “ค็อกเทลชื่อว่า 'Kang’ ซึ่งผมใช้แข่งขันในงาน Mekhong The Spirit Competition 2020 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “สิ่งที่ถูกลืม” ตอนที่ผมคิดค็อกเทลแก้วนี้ออกมานั้นกระแส Zero Food Waste กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในประเทศไทย ผมจึงคิดว่าถ้านำก้างปลาที่เหลือมาทำค็อกเทลได้ก็น่าจะเป็นคอนเซปต์ที่ดีมาก ผมเลือกใช้ก้างปลาทูซึ่งเป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และนึกถึงอาหารไทยอย่างแกงกะทิสายบัวปลาทู ก็เลยนำก้างปลาทูมากลั่นให้เป็นน้ำที่มีกลิ่นหอมอูมามิ แล้วก็ใช้กะทิกับมะขามเปียก นอกจากนี้ยังมีน้ำกลั่นที่ทำจากกะปิ เติมความหวานด้วยน้ำตาลปาล์ม และเหล้ารัมของแม่โขงซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนกับเครื่องแกงให้ค็อกเทลแก้วนี้มีมิติความสมบูรณ์ในรสชาติมากขึ้น รสชาติออกมาคล้ายกับ Piña Colada แต่มีกลิ่นหอมของปลาและเครื่องเทศของแม่โขง”

เคล็ดลับการชงเหล้ารัม: "แนะนำว่าลองนำแม่โขงไปทำ Thai Daiquiri ซึ่งทำง่ายมากครับ ใช้แค่แม่โขง 45 มิลลิลิตร น้ำมะนาว 45 มิลลิลิตร และน้ำเชื่อม 10 มิลลิลิตร นำไปเชกกับน้ำแข็ง ก็จะกลายเป็น Thai Daiquiri ได้อย่างง่ายดาย เรายังสามารถพลิกแพลงโดยเติมผลไม้ เช่น คั้นน้ำสับปะรดใส่ลงไปด้วยก็ได้ หรือจะใส่สมุนไพรอย่างใบโหระพาลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นก็ได้เหมือนกัน"

กิติภูมิ การไมตรีจิตร์
มิกโซโลจิสต์ของแม่โขง

มุมมอง: "แม่โขงเป็นแบรนด์คุณภาพระดับสากล รสชาติที่โดดเด่นของแม่โขงนั้นเกิดจากการใช้วัตถุดิบสมุนไพรและเครื่องเทศของไทยและเอเชียตะวันออกมากกว่า 46 ชนิด เป็นสูตรลับยาวนานกว่า 80 ปี เอกลักษณ์ของแม่โขงคือรสชาติที่เผ็ดร้อน ครบรสคล้ายกับอาหารไทย ตามด้วยอาฟเตอร์เทสต์กลิ่นหอมอะโรมานุ่มละมุน เปรียบได้กับจิตวิญญาณของคนไทยที่มีความนอบน้อมถ่อมตน อันเป็นที่มาของสโลแกนของแม่โขง คือ 'The Spirit of Thailand'...”

ค็อกเทลแก้วโปรด: "ผมชอบ 'Mekhong Thai Sabai' ค็อกเทลสูตรเด่นที่เป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์ของแม่โขง มีส่วนผสม ได้แก่ แม่โขง น้ำมะนาว น้ำเชื่อม และใบโหระพา ชงง่าย ๆ ด้วยสัดส่วนแม่โขง 5 ส่วน น้ำมะนาว 3 ส่วน น้ำเชื่อม 2 ส่วน ใส่ใบโหระพาแล้วนำไปเชกกับน้ำแข็งให้เย็นจัด รินใส่แก้วบรรจุน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยใบโหระพา"

เคล็ดลับการชงเหล้ารัม: "สูตรง่าย ๆ อย่างการนำน้ำมะพร้าวน้ำหอมแช่เย็นจัดมาผสมกับแม่โขงจะให้ทั้งกลิ่นหอมและรสหวานชื่นใจ ให้คุณดื่มด่ำกับแม่โขงได้แบบง่าย ๆ"

ณธีพัฒน์ อริยะธนนันท์
ผู้ก่อตั้ง & บาร์เทนเดอร์ ร้าน The Fool Bar

มุมมอง: "แม่โขงนำเสนอเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยได้เป็นอย่างดี สำหรับนักดื่มชาวต่างชาติการดื่มแม่โขงเป็นการเปิดประสบการณ์รสชาติใหม่ ๆ คนไทยเราอาจคุ้นชินกับแม่โขงมานานจึงมองว่าเป็นสุราธรรมดา แต่สำหรับบาร์เทนเดอร์อย่างผมขอบอกว่าคุณภาพของเหล้าพรีเมียมไทยสไปซ์รัมอย่างแม่โขงสามารถสู้กับเหล้าต่างชาติได้สบายมาก เพียงแต่เราจะนำเสนออย่างไรให้ตรงจุด เพื่อให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้าใจและเห็นถึงคุณค่า"

ค็อกเทลแก้วโปรด: "'...Long River Story' เป็นค็อกเทลที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ในหลาย ๆ จังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขงของประเทศไทย อย่างเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ผมนำจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมาผสมผสานเล่าเรื่องราวในค็อกเทลแก้วนี้ เช่น ลิ้นจี่จากเชียงราย มะขามหวานจากมุกดาหาร ใช้ความหวานของน้ำผึ้งเป็นตัวเชื่อมประสาน และเพิ่มมิติของอาหารอีสานด้วยการเติมข่าและพริกแห้ง ซึ่งผมได้ไอเดียมาจากการใช้วัตถุดิบสองอย่างนี้ในการหมักเหล้าอุ ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองของจังหวัดนครพนม"

เคล็ดลับการชงเหล้ารัม: "ก่อนอื่นต้องเข้าใจถึงรสชาติของรัมที่เราใช้ก่อน เช่น รัมของแม่โขงที่มีรสชาติของเครื่องเทศอย่างอบเชย โป๊ยกั๊ก วานิลลา น้ำผึ้ง ฯลฯ ซึ่งเราสามารถนำรสชาติเหล่านี้มาต่อยอดได้โดยเลือกใช้เครื่องเทศของไทย และบ้านเราก็มีผลไม้เมืองร้อนให้เลือกใช้เยอะเพื่อเติมความหวาน แล้วจึงเติมรสเปรี้ยว ซึ่งเมืองไทยก็มีตัวเลือกมากมายอีกเช่นกันไม่ว่าจะเป็นมะนาว มะขาม ฯลฯ ผมแนะนำให้คุณลองเลือกใช้จากสิ่งที่มีอยู่รอบตัว แล้วสร้างสรรค์รสชาติที่เป็นของตัวคุณเองออกมา"

คงพล มีสุข
ผู้จัดการ ร้านบ้านสุริยาศัย

มุมมอง: "สำหรับผมแม่โขงเป็นเหล้าที่มีเอกลักษณ์มาก ด้วยส่วนผสมของไทยเองซึ่งใช้สมุนไพรหลากหลายชนิดบวกกับกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานทำให้เป็นสไปซ์รัมของไทยที่มีเอกลักษณ์ คนไทยเองอาจคุ้นเคยกับแม่โขงเสียจนลืมมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี แต่ชาวต่างประเทศรู้จักและชื่นชมแม่โขงกันเยอะมาก"

ค็อกเทลแก้วโปรด: "ค็อกเทลชื่อ 'Koon Suek' เป็นแก้วที่ผมได้รับรางวัลจากการแข่งขัน Mekhong Thai Spirit Cocktails 2017 ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักรบไทยในสมัยก่อนที่ต้องดื่มน้ำจัณฑ์เพื่อให้เกิดความฮึกเหิมก่อนออกรบ แก้วนี้มีส่วนผสมของแม่โขง ไวน์แดงที่สื่อถึงเลือด ผมใส่ดรายเวอร์มุทเพื่อเพิ่มความดุดัน และสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือตะไคร้กับใบโหระพา"

เคล็ดลับการชงเหล้ารัม: "ผมมักเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และไม่ว่าจะผสมค็อกเทลอะไรก็แล้วแต่เราต้องเข้าใจถึงบุคลิกของวัตถุดิบที่ใช้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างแม่โขงนั้นเป็นพรีเมียมไทยสไปซ์รัม ย่อมเข้ากันได้ดีกับสมุนไพรไทยอยู่แล้ว เราก็แค่เลือกสมุนไพรที่ไปด้วยกันได้และชูรสให้แม่โขงมีความเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา"

#Mekhong #PremiumThaiSpicedRum #Cocktails #ค็อกเทล

บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากแม่โขง พันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2564 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแม่โขงได้ที่ Facebook: Mekhong Global