นอกเหนือจากรายชื่อบรรดาร้านอาหารชั้นยอดที่โดดเด่นเข้าตาผู้ตรวจสอบของเราจนได้รับรางวัลจาก ‘มิชลิน ไกด์’ แล้ว อีกหนึ่งธรรมเนียมและสีสันประจำงานประกาศรางวัลดาวของ ‘มิชลิน ไกด์’ ในทุกปีซึ่งแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานต่างตั้งตารอที่จะได้สัมผัสรสชาติก็คือเครื่องดื่มที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมเสิร์ฟภายในงานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว แน่นอนว่างานประกาศคู่มือประจำปี 2568 ซึ่งเป็นทั้งงานประกาศรางวัลดาวพร้อมกับการเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 ครั้งนี้ก็มีค็อกเทลแก้วเด่นที่เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน “Mekhong The Spirit Competition 2024” สด ๆ ร้อน ๆ มาเสิร์ฟให้แขกผู้มีเกียรติในงานปีนี้ได้ลิ้มรสกัน
สำหรับการแข่งขัน “Mekhong The Spirit Competition” ที่จัดเป็นประจำทุกปีโดยแบรนด์เหล้าไทยชั้นนำคุณภาพระดับโลกอันมีเอกลักษณ์อย่าง “แม่โขง” นั้นนอกจากจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนและพัฒนาวงการบาร์เทนเดอร์ของไทยให้ก้าวขึ้นสู่มาตรฐานระดับโลกแล้ว ยังเพื่อเฟ้นหาค็อกเทลที่สมศักดิ์ศรีสำหรับเสิร์ฟในงานประกาศรางวัลของ ‘มิชลิน ไกด์’ อีกด้วย ซึ่งในแต่ละปีก็มีค็อกเทลแก้วเด็ด ๆ ที่สุดยอดทั้งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์เช่นเดียวกับค็อกเทลชนะเลิศที่จัดเสิร์ฟในงานปีนี้ แต่ถึงคุณจะไม่ได้ไปร่วมงานประกาศรางวัลดาวของเราก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะบาร์เทนเดอร์คนเก่งผู้ชนะเลิศจะมาเผยแนวคิด แรงบันดาลใจ พร้อมสูตรลับสุดสร้างสรรค์เบื้องหลังค็อกเทลเด่นแก้วนี้ซึ่งปรุงโดยใช้สไปซ์รัมอันเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติให้ได้ลองนำไปชงกันเองที่บ้าน

“2484” ค็อกเทลแก้วเด่นชนะเลิศ ดีกรีแชมป์ Mekhong The Spirit Competition 2024
จากจำนวนบาร์เทนเดอร์ที่เข้าร่วมการแข่งขันนับร้อยชีวิต “บอมบ์-นพดล ธรรมส่องหล้า” ผู้ลงแข่งขันในนามของ Margarita Bar และยังทำงานเป็น Bar Consultant ให้กับบาร์ชั้นนำอีกหลายแห่งคือสุดยอดบาร์เทนเดอร์ที่เข้าตาจากการเฟ้นหาภายในงาน Mekhong The Spirit Competition 2024 ด้วยค็อกเทลที่มีชื่อว่า “2484” ซึ่งเจ้าตัวผู้คิดค้นได้เผยถึงแรงบันดาลใจของเครื่องดื่มอันน่าทึ่งนี้ให้ฟังว่า“สำหรับการแข่งขันแม่โขงในปีนี้โจทย์คอนเซปต์คือ 'One & Only Thai Spiced Rum' ซึ่งก็คือการสร้างสรรค์ค็อกเทลที่มีกลิ่นอายเอกลักษณ์ไทยโดยใช้แม่โขงเป็นส่วนผสมหลัก เป็นค็อกเทลรสชาติไทยที่บอกเล่าและสามารถเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม นำเสนอความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน”
ธีมการแข่งขันดังกล่าวจุดประกายให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้เปี่ยมพรวรรค์คนนี้นึกถึงปี พ.ศ. 2484 ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยในหลายแง่ โดยนอกจากเป็นปีที่สุราประจำชาติไทยแบรนด์แม่โขงถือกำเนิดแล้วยังเป็นปีที่อาหารประจำชาติอย่างผัดไทยถือกำเนิดด้วย ทั้งยังเป็นปีที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกเปิดกิจการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทยและญี่ปุ่น มีความน่าสนใจควรค่าแก่การบอกเล่า เขาจึงนำองค์ประกอบและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวมาผสมผสานอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของค็อกเทลแก้วนี้
“สีทองอำพันของค็อกเทลแก้วนี้นอกจากเป็นสีของเครื่องดื่มแม่โขงซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักแล้วยังสะท้อนถึงสีของลำน้ำแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านดินแดนแห่งวัฒนธรรม หล่อเลี้ยงวิถีชุมชน จนเกิดเป็นประวัติศาสตร์และความงอกงามของไทย การออกแบบและการเลือกใช้วัตถุดิบจึงมีความหมายที่ลึกซึ้งเชื่อมโยงกับความเป็นไทยอย่างชัดเจน ผมยังนำส่วนผสมอย่างเต้าหู้ซึ่งเป็นตัวแทนของผืนแผ่นดินที่ลำน้ำโขงไหลผ่าน และไชโป๊ซึ่งมีอยู่ในผัดไทยมาใส่ไว้ด้วย ส่วนแตงโมทรงกลมที่ใช้ตกแต่งแก้วเป็นตัวแทนสื่อถึงอาทิตย์อุทัยอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ก็เพื่อสื่อถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันอันดีที่สองชนชาติมีร่วมกัน”

สำหรับรสชาติ “2484” นั้นมีทั้งความซับซ้อนและหลากหลาย ค็อกเทลแก้วนี้นำผู้จิบเดินทางผ่านประสาทสัมผัสแห่งรสชาติโดยเริ่มต้นจากรสหวานสดชื่นจากแตงโมในช่วงแรก หลังจากที่รสชาติของแตงโมเริ่มจางลงก็จะสัมผัสได้ถึงความซับซ้อนจากเต้าหู้โฮมเมดที่มอบกลิ่นและรสอันเป็นเอกลักษณ์จากการนำเต้าหู้ไปอินฟิวส์กับเพสโต ให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย ช่วยเพิ่มมิติให้กับสปิริตแม่โขงได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วยการค้นพบรสชาติในลำดับที่สอง นั่นคือรสอูมามิของสาหร่ายคอมบุ มิริน และไชโป๊ กับสมดุลของรสชาติหวานปนขมโดยธรรมชาติของน้ำผึ้งดอกสะเดา เพิ่มเติมเสน่ห์ด้วยกลิ่นหอมของใบเนียมซึ่งทำให้ค็อกเทลแก้วนี้มีความน่าสนใจและมีมิติในการดื่มมากขึ้น ทั้งยังเสริมกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยทับลงไปได้อย่างน่าประทับใจ และนี่คือ One & Only Thai Spiced Rum แก้วเดียวที่โลกจะไม่ลืม
สูตรค็อกเทล “2484”
ส่วนผสม:
- แม่โขง: Premium Thai Spiced Rum The Spirit of Thailand 45 มล.
- อาเปรีติฟบล็องโกเวอร์มุต 10 มล.
- น้ำผึ้งขมดอกสะเดา (น้ำผึ้งไทยจากผึ้งที่กินน้ำหวานเกสรดอกสะเดา ให้ทั้งรสหวานและขมรวมถึงกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ บาร์เทนเดอร์นำมาใช้แทน Bitter) 1 ช้อนชา
- เนื้อแตงโมทรงกลมสำหรับตกแต่ง 1 ชิ้น
- Apple Cordial (น้ำเชื่อมน้ำปรุงที่คราฟต์ขึ้นเองโดยรวมส่วนผสมทั้ง 3 ชาติเข้าด้วยกัน ได้แก่ ญี่ปุ่น (งาขาวคั่ว คอมบุ มิริน) จีน (ไชโป๊) และไทย (โหระพา เปลือกแตงโม ใบเนียม) ซึ่งเป็นวัตถุดิบโบราณที่มีกลิ่นหอมลืมไม่ลงจนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าน้ำหอมพระราม) 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้เพสโต (ทำได้โดยนำเต้าหู้มาปั่น ต้ม และกรอง ผสมกับเพสโต แล้วนำมาขึ้นรูปเป็นเต้าหู้อีกครั้ง) 1 ชิ้น
วิธีทำ
- นำส่วนผสม ได้แก่ แม่โขง อาเปรีติฟบล็องโกเวอร์มุต น้ำผึ้งขมดอกสะเดา และ Apple Cordial มาผสมรวมกัน
- คนส่วนผสมใส่น้ำแข็ง
- กรองจัดเสิร์ฟในแก้วที่ชิลไว้
- ตกแต่งด้วยเต้าหู้เพสโตและแตงโม
เคล็ดลับจากบาร์เทนเดอร์
- บอมบ์-นพดล ธรรมส่องหล้า ผู้ลงแข่งขันในนามของ Margarita Bar แนะว่าควรมีสมาธิในระหว่างการชง เนื่องจากค็อกเทลแก้วนี้มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้ได้รสชาติละเอียดอ่อนและน่าสนใจ
- ชิมระหว่างการผสมเพื่อปรับรสชาติให้เหมาะสม โดยเฉพาะในขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อจัดสมดุลให้ได้รสชาติที่ต้องการ
- ในการคนส่วนผสมใส่น้ำแข็งนั้นควรคนโดยให้มีอัตราการละลายของน้ำแข็งอยู่ที่ 25-30 เปอร์เซ็นต์ โดยอาจจับเวลาในการคนอยู่ที่ 12-15 วินาทีก็เพียงพอ
อ่านต่อ: 5 เคล็ดลับผสมสไปซ์รัมไทยจากเหล่าบาร์เทนเดอร์ชั้นนำ สู่แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ค็อกเทลสูตรเด็ด
ภาพเปิด: © Mekhong
