สิ่งที่น่าสนใจ 3 minutes 31 มีนาคม 2023

แบรนด์ระดับตำนานปลุกปั้นวงการอาหารและเครื่องดื่มอย่างไร?

เปิดตำนานแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มขึ้นชื่อ

เมื่อมีอาหาร เราก็มักเห็นเครื่องดื่มเคียงคู่กัน คุณอาจล้างปากหลังจานหลักด้วยจินโทนิกรสซับซ้อน หรือจิบเบียร์แก้เผ็ดหลังกินแกงแสนอร่อย

การรับประทานอาหารไฟน์ไดนิงจับคู่กับไวน์สามารถสร้างความสำเร็จให้กับร้านได้ ซอมเมอลิเยร์คนเก่งอาจแนะนำไวน์แดงฟูลบอดี้เพื่อรับประทานคู่กับเมนูเนื้อแดงรสเข้มข้น หรือไวน์ขาวรสออกเปรี้ยวสดชื่นเพื่อตัดความเลี่ยนของเมนูปลาที่ปรุงมาอย่างดี น้ำผลไม้หรือเบียร์ก็เข้ากับคอร์สอาหารไทยกลิ่นหอมหวน เช่นเดียวกับรัมชั้นยอดของไทย

(© MICHELIN Guide Thailand)
(© MICHELIN Guide Thailand)

‘มิชลิน ไกด์’: จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่
อ็องเดร (Andre) และเอดูอาร์ มิชลิน (Edouard Michelin) เปิดตัวบริษัทยางในปี 2432 ซึ่งการขับรถยังถือเป็นกิจกรรมสำหรับคนมีเงินเท่านั้น สองพี่น้องชาวฝรั่งเศสมั่นใจว่าพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แทนม้าไม่ใช่แค่กระแสที่คนนิยมเพียงชั่วครู่ แต่ในขณะนั้นมีรถยนต์ทั่วฝรั่งเศสไม่ถึง 3,000 คัน พวกเขาต้องหาทางผลักดันให้คนขับรถท่องเที่ยวเดินทางเพื่อช่วยเพิ่มยอดขายยาง

ทั้งคู่ตัดสินใจจัดทำคู่มือสำหรับนักขับขี่ที่บรรจุรายชื่อโรงแรม ร้านอาหาร อู่ซ่อมรถ และสถานีน้ำมันขึ้นมา พวกเขาเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับปฐมฤกษ์เมื่อกว่า 120 ปีที่แล้ว สองพี่น้องยังแจกจ่าย ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับแรกถึง 35,000 เล่มโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ทั้งบริษัทยางและคู่มือต่างก็เติบโตขึ้นไปพร้อมกัน สองพี่น้องขยายขอบเขตจากฝรั่งเศสเป็นทั่วยุโรป เริ่มตีพิมพ์ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประจำประเทศต่าง ๆ โดยเริ่มจากฉบับประจำเบลเยียมในปี 2447

(© MICHELIN Guide Thailand)
(© MICHELIN Guide Thailand)

มาถึงปี 2463 ข้อมูลร้านอาหารใน ‘มิชลิน ไกด์’ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนสองพี่น้องคัดเลือกผู้ตรวจสอบมิชลินเพื่อออกสำรวจและประเมินร้านอาหารต่าง ๆ โดยไม่เปิดเผยตัวตน 6 ปีผ่านไป เริ่มมีการแบ่งประเภทร้าน และเริ่มมอบรางวัลดาวมิชลินสำหรับร้านฝีมือเลิศ โดยยังมีเพียงระดับ 1 ดาวมิชลิน จนกระทั่งในปี 2474 มีการขยายเป็นระดับ 3 ดาวมิชลิน พร้อมกับเปลี่ยนปกจากสีน้ำเงินเป็นแดง

ในช่วง 70 ปีหลังจากนั้น ‘มิชลิน ไกด์’ ก็ได้ขยายตัวครอบคลุมร้านอาหารทั่วยุโรปและอเมริกา

และแล้วในปี 2556 ได้เริ่มแนะนำอาหารริมทางเป็นครั้งแรกในฉบับประจำฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์ และได้เปิดโอกาสสำหรับฉบับประเทศไทย เมืองสวรรค์แห่งอาหารริมทางในที่สุด

ในช่วงหลายปีต่อมา คู่มือปกแดงได้เพิ่มความหลากหลายทั้งในด้านประเภทร้านอาหารและภูมิภาคที่ตีพิมพ์ มีการนำเสนอร้านรางวัลบิบ กูร์มองด์ ซึ่งนำเสนออาหารคุณภาพในราคาคุ้มค่า และรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกสำหรับร้านที่ใส่ใจในความยั่งยืน ทั้ง 2 รางวัลครอบคลุมกว่า 30 ประเทศ นำเสนอร้านกว่า 16,300 แห่งทั่วโลก


(© Mekhong)
(© Mekhong)

ต้นกำเนิดสปิริตไทย
“แม่โขง” ที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน หยั่งรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณความเป็นไทยจนนานาชาติยอมรับ ไทยสไปซ์รัมยี่ห้อโปรดของชาวไทยแบรนด์นี้ยังเป็นยอดสุราในระดับพรีเมียม จนได้รับเลือกเป็นของฝากแดนสยามที่พลาดไม่ได้มาอย่างยาวนาน

คุณภาพระดับสากลเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของบริษัทแม่อย่างไทยเบฟเวอเรจที่ต้องการผลักดันให้คนตระหนักและเล็งเห็นถึงคุณค่าของโลกแห่งอาหารมากขึ้น ไทยเบฟยังมีวิสัยทัศน์ที่จะช่วยสนับสนุนประเทศไทยให้โดดเด่นโลดแล่นในวงการอาหารระดับโลก

จุดกำเนิดของแม่โขงย้อนกลับไปถึงราวปี 2470 ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยนิยมดื่มสกอตช์ เบอร์เบิน และวิสกี้จากยุโรป เพื่อถ่วงดุลทางการค้า รัฐบาลในสมัยนั้นจึงตัดสินใจรังสรรค์สุราไทยแท้ขึ้น

ในขณะเดียวกันประเทศไทยก็อยู่ในช่วงตึงเครียดทางการเมือง อยู่ระหว่างเรียกร้องดินแดน 4 จังหวัดทางตะวันออกของแม่น้ำโขงคืนจากฝรั่งเศส ซึ่งนำไปสู่กรณีพิพาทอินโดจีน กรมศิลปากรจึงได้ประพันธ์เพลงปลุกใจข้ามโขง ซึ่งกล่าวถึงความเป็นชาติเดียวกันกับไทยของ 4 จังหวัดดังกล่าว เพลงข้ามโขงโด่งดังและปลุกความรักชาติไทยได้อย่างทั่วถึง ในปี 2484 กรมสรรพสามิตจึงตั้งชื่อสุราปรุงพิเศษ 35 ดีกรีว่าแม่โขง เพื่อล้อไปกับกระแสดังกล่าว

(© MICHELIN Guide Thailand)
(© MICHELIN Guide Thailand)

ด้วยสูตรลับที่ผสานสมุนไพรและเครื่องเทศไทยอย่างลงตัว แม่โขงจึงได้รับความนิยมจากชาวไทยอย่างรวดเร็ว ถือเป็นสุราไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ตัวสินค้าที่ขายดีเป็นอย่างมากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้เป็นอย่างดี

ในปี 2544 บริษัทเปลี่ยนฉลากเป็นสีเหลืองเพื่อเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อีก 10 ปีให้หลังจากนั้นก็มีการปรับโฉมให้ดูสดใหม่ทันสมัย พร้อมบุกตลาดนานาชาติ และจัดจำหน่ายสไปซ์รัมของไทยทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายแอลกอฮอล์ทั้งในยุโรปและอเมริกา

(© MICHELIN Guide Thailand)
(© MICHELIN Guide Thailand)

อิทธิพลต่ออาหารและวัฒนธรรมอันไม่มีใครเทียบได้
การจับคู่อาหารเอเชียรสจัดจ้านกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นเรื่องท้าทาย แต่ส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ของแม่โขงเป็นคำตอบที่แสนจะลงตัวสำหรับโจทย์แสนท้าทาย เครื่องดื่มสีอำพันสร้างรสชาติเฉพาะตัวจากการผสานส่าแดง น้ำตาล และเครื่องเทศ เช่น เม็ดผักชี ตะไคร้ กระวาน แต่เดิมนั้นคนมักดื่มแม่โขงคู่กับอาหารท้องถิ่น แต่รัมไทยนี้สามารถพลิกแพลงเป็นส่วนผสมที่เติมเต็มค็อกเทลรสสดชื่น เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้น

และเมื่อ ‘มิชลิน ไกด์’ เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2560 แม่โขงและคู่มือแนะนำปกแดง สองแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานก็เล็งเห็นถึงความคล้ายกันในด้านประวัติศาสตร์ แนวคิด และความมุ่งมั่นในด้านอาหารและเครื่องดื่ม จึงได้จับมือเปิดประตูสู่โอกาสสู่โลกของการกินดื่มไปพร้อมกัน

ทั้งสองแบรนด์ร่วมมือกันนำเสนอสุดยอดอาหารไทยร่วมกันผ่านงานกาลาดินเนอร์และกิจกรรมกินดื่มมากมาย ทั้งการนำเสนอค็อกเทลซิกเนเจอร์ให้ได้ดื่มด่ำกับแม่โขงไทยสบาย หรือค็อกเทลแสนอร่อยที่รังสรรค์โดยแม่โขง เปิดสัมผัสรสชาติสไปซ์รัมของไทยที่ดังไกลระดับโลก ควบคู่กับอาหารชั้นยอดของเชฟระดับนานาชาติ

ในโอกาสที่รัมระดับตำนานของชาวไทยอย่างแม่โขงฉลองครบรอบ 80 ปี ‘มิชลิน ไกด์’ ขอร่วมฉลองสัมพันธภาพของทั้งสองแบรนด์ที่ได้เบ่งบานงอกงาม และฉลองตำนานประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไทยระดับนานาชาติที่มีบทบาทสำคัญในการต่อยอดและพัฒนาวงการอาหารและเครื่องดื่มทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมเช่นกัน โดยทั้งคู่ต่างมีเป้าหมายที่จะสร้างช่วงเวลาพิเศษที่ผู้คนสามารถแบ่งปันและเฉลิมฉลองสืบต่อไป


สิ่งที่น่าสนใจ

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ