เมื่อผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจในสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เทรนด์การกินรักษ์โลกที่เน้นอาหารจากพืชผักก็เติบโตขึ้นไปพร้อมกัน ไม่ว่าคุณจะมีวิถีการกินรูปแบบใด กำลังคุมอาหารเพื่อรักษาสุขภาพ หรือตั้งเป้ากินผักให้มากขึ้น แต่รสชาติความอร่อยและคุณภาพวัตถุดิบย่อมต้องไม่เป็นที่ประนีประนอม
ไม่ว่าจะเป็นโอกาสพิเศษหรือมื้อธรรมดาระหว่างวันก็เอร็ดอร่อยและมีความสุขได้ง่าย ๆ กับ 5 ร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ซึ่งเสิร์ฟเมนูมังสวิรัติแสนอร่อยที่เราอยากแนะนำ
Aesop’s (ร้านที่ได้รับการคัดเลือก, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565)
ร้านอาหารกรีก-เมดิเตอร์เรเนียนที่เต็มไปด้วยความอร่อยและบรรยากาศสนุกสนาน เพราะคุณสามารถขว้างจานลงพื้นพร้อมตะโกนว่า Opa! ตามสไตล์ชาวกรีก และจะยิ่งสนุกกว่าเดิมหากมากันหลายคน สำหรับอาหารก็ให้ปริมาณเยอะจุใจ และด้วยความที่เป็นร้านเมดิเตอร์เรเนียนจึงมีตัวเลือกทั้งมังสวิรัติและวีแกนให้เลือกสั่งหลายเมนูด้วยกัน ลองสั่งดิปสามอย่าง Tzatziki กรีกโยเกิร์ตดิปใส่แตงกวา กระเทียม และผักชีลาว, Hummus ดิปถั่วลูกไก่ และ Melitxanosalata ดิปมะเขือม่วงรมควัน เพื่อจิ้มกับผักหั่นแท่งและขนมปัง อย่าลืมเผื่อท้องให้กับ Flaming Cheese Saganaki ที่ใช้ชีสสัญชาติกรีกราดน้ำผึ้งกับเลมอนแล้วเบิร์นไฟพร้อมบรั่นดี ส่วนเมนคอร์สลองสั่ง Roasted Cauliflower กะหล่ำดอกย่าง รับประทานคู่ทาฮีนี อัลมอนด์ พาร์สลีย์ และซูแมค ผงเครื่องเทศรสเปรี้ยว
Haoma (ร้านที่ได้รับการคัดเลือก, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565)
ร้านอาหารสไตล์นีโอ-อินเดียนที่ใส่ใจกับรากฐานการทำอาหารอินเดีย นำเสนอการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและชูโรงแนวคิดความยั่งยืน กับคำขวัญ We grow what we cook, we cook what we love ที่สะท้อนผ่านการทำสวนผักและสมุนไพรเล็ก ๆ หลังร้าน และฟาร์มของเชฟที่ปลูกผลไม้และสารพัดพืชพรรณธัญญาหาร เทสติ้งเมนูของเชฟยังคงให้ความสำคัญกับผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติ จึงมีตัวเลือก Vegetarian Experience 10 คอร์ส มีทั้งเคบับ ชีสซันโดะกับปาเต๊ะมันเทศ หรือเมลอนทันดูรี นอกจากนี้ยังสามารถเลือกจับคู่อาหารกับเครื่องดื่มที่ทางร้านครีเอตพิเศษสำหรับอาหารแต่ละคอร์ส
IGNIV (รางวัล 1 ดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565)
ด้วยชื่อร้านที่เด่นสะดุดตา IGNIV อันหมายถึงรังในภาษาโรมานช์ ซึ่งเป็นภาษาแม่ของเชฟแอนเดรียส คามินาดา (Andreas Caminada) โดยเชฟตั้งใจเปรียบร้านเป็นเหมือนรังอันแสนอบอุ่นสำหรับผู้ชื่นชอบอาหารชั้นดีให้มาแวะเวียนรับประทานเสมอ รูปแบบอาหารของ IGNIV นำเสนอในลักษณะแบ่งปันรับประทานจำนวน 4 คอร์ส พร้อมขนมปังและขนมหวาน ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ครีเอตโดยเชฟเดวิด ฮาร์ตวิก (David Hartwig) ทั้งนี้ Sharing Experience ที่เป็นเมนูมังสวิรัติจะต้องแจ้งกับทางร้านอาหารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
Mia (ร้านที่ได้รับการคัดเลือก, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565)
บ้านสองชั้นในย่านสุขุมวิทถูกแปรสภาพให้เป็นร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มีกลิ่นอายยุโรปแต่ใช้วัตถุดิบจากฝั่งเอเชีย โดยเชฟท็อป-พงษ์ชาญ รัสเซลล์ และเชฟมิเชลล์ โกห์ (Michelle Goh) เทสติ้งเมนู Taste of Mia มีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล และแน่นอนว่าผู้รับประทานอาหารทั้งแบบมังสวิรัติและวีแกนก็สามารถเอร็ดอร่อยไปกับ Taste of Mia ในเวอร์ชันที่ปราศจากเนื้อสัตว์แต่ยังคงความโดดเด่นตามแบบฉบับ Mia ได้อย่างครบถ้วน ของกินเล่น 4 คำที่เชฟนำเสนอ คือ เทมปุระมันเทศ เค้กข้าวทอด ถั่วลูกไก่กับมันฝรั่งทอด และแคร์รอตทาร์ตเลต
Thien Duong (เธียนดอง) (รางวัลบิบ กูร์มองด์, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565)
ร้านอาหารเวียดนามเก่าแก่ประจำโรงแรมดุสิตธานีที่เปิดให้บริการมากว่า 30 ปี ในภาษาเวียดนาม เธียนดอง หมายถึงสรวงสวรรค์ จึงมั่นใจได้ว่าใครก็ตามที่มารับประทานอาหารที่นี่จะได้สัมผัสสรวงสวรรค์แห่งรสชาติเวียดนามอย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่ผักสดกรอบและสะอาดสำหรับกินแกล้มอาหาร ต่อด้วยของกินเล่นอย่างข้าวเกรียบงาดำทอด ตามด้วยยำเห็ดรวมห้าสหาย และซุปมะเขือเทศเต้าหู้โหระพา จากนั้นจึงค่อยรับประทานกวยจั๊บแห้งเต้าหู้ย่างใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์
