ภูเก็ตไข่มุกแห่งอันดามันไม่ได้หมายถึงจุดหมายของคนรักชายหาดและทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ของนักเดินทางสายอาหารที่ชอบเสาะแสวงหาเมืองที่มีอัตลักษณ์เฉพาะด้านอาหารการกิน แน่นอนว่าอาหารภูเก็ตนั้นผสมผสานทั้งวัฒนธรรมไทย จีน มลายู จนกลายเป็นความอร่อยเฉพาะถิ่นตำรับครัวเปอรานากัน
ทว่ามากไปกว่ารากวัฒนธรรมอาหารการกินที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนและโดดเด่นออกมาจากจังหวัดภาคใต้อื่น ๆ คือภูเก็ตยังมีวัตถุดิบสดใหม่จากท้องทะเลที่เป็นเหมือนสูตรลับของความอร่อย ซึ่งหากไปภูเก็ตแล้วอยากตามหาวัตถุดิบจากท้องทะเลสดใหม่ควรต้องจะไปที่ไหน เชฟหน่อย-ธรรมศักดิ์ ชูทอง ผู้ก่อตั้งร้านสวย (สาขาเชิงทะเล) ร้านอาหารแนะนำในจังหวัดภูเก็ตซึ่งติดโผคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566 จะพาไปซอกแซกดุจไกด์ท้องถิ่นที่ภูเก็ต พร้อมเปิดแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่นักท่องเที่ยวเองอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน
เที่ยวตลาดแบบเชฟ
“หลายคนอาจรู้จักย่านอาหารการกินภูเก็ตว่าต้องไปที่ตัวเมืองเก่า แต่สำหรับผมซึ่งเป็นคนพังงาที่ย้ายมาอยู่ภูเก็ต มาเปิดร้านอาหารที่ภูเก็ต มองว่าอำเภอถลางเป็นพื้นที่ที่ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทยเองยังเข้าไม่ถึง แต่กลับมีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะตัวตลาดที่เป็นคนในท้องถิ่นจริง ๆ ไปจับจ่ายกัน ดังนั้นจึงไม่ได้มีแค่ปลาทะเลที่คุ้นเคยกันในร้านอาหาร แต่ยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลที่ตามร้านอาหารอาจไม่ได้นำมาเสิร์ฟ”เชฟหน่อยเริ่มต้นแนะนำเสน่ห์ของภูเก็ตที่ขยายตัวมาจากเขตเมืองเก่าสู่อำเภอถลาง ซึ่งนอกจากหาดสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใส หาดทรายขาวละเอียดแล้ว ถลางยังมีตลาดชุมชนเล็ก ๆ ชื่อตลาดบ้านพอน หรือชื่อเต็มคือตลาดโก้เบ๋งบ้านพอน เปิดสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ตั้งแต่บ่ายแก่ ๆ ไปจนถึงเย็นย่ำ จุดเด่นของตลาดแห่งนี้อยู่ที่วัตถุดิบท้องทะเลจากประมงพื้นบ้าน โดยเฉพาะในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ จะมีแม่ค้าจากเรือนำของทะเล ปู ปลาสด ๆ มาขาย เรียกว่าขึ้นจากเรือก็ตรงมาที่ตลาดเลย
“ผมชอบเดินตลาดชุมชนมาก ทำร้านอาหารมากว่า 13 ปีก็เดินไปซื้อของในตลาดเองมาตลอด พอขยายร้าน แม้มีซัปพลายเออร์ส่งวัตถุดิบให้ส่วนหนึ่ง แต่ก็จะให้เชฟและพนักงานออกไปเดินตลาดในท้องถิ่นอยู่ตลอด ผมว่านี่เป็นสิ่งที่เชฟควรต้องทำ ซึ่งตลาดบ้านพอนอยู่ไม่ไกลจากร้านเรา พอไปเดินก็จะเห็นอะไรใหม่ ๆ ได้แรงบันดาลใจและความสร้างสรรค์กลับมา”
สำหรับตลาดอาหารทะเลที่ภูเก็ตนั้นเชฟหน่อยแนะนำว่า รอบเช้าถ้าเข้าไปตลาดในเมืองจะมีอาหารทะเลคุณภาพดีที่มาจากเกาะสิเหร่ส่งตรงมาขาย เช่น ตลาดดาวน์ทาวน์ ตลาดเกษตร ซึ่งเป็นสองตลาดใหญ่ที่มีของทะเลสดใหม่มาลงตั้งแต่ตีสามตีสี่ ส่วนฝั่งเชิงทะเลอย่างตลาดบ้านพอนก็จะเป็นช่วงบ่าย ความสนุกในการเดินตลาดท้องถิ่นของเชฟหน่อยคือการไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวันนี้จะเจอวัตถุดิบอะไร แต่เชฟจะสามารถเห็นถึงฤดูกาลความเปลี่ยนแปลงของท้องทะเลในแต่ละเดือน
“วัตถุดิบตามฤดูกาลของภูเก็ตที่มีอยู่ในตลาดบ้านพอน เช่น ปลาทราย ปลามง ปลาหัวทราย ปลาเก๋าดี ๆ ปลาเก๋าแดงก็หาได้ในตลาด ทูน่าจับจากอันดามัน สแนปเปอร์ มีสาหร่ายพวงองุ่น ผักเหนียง ผักกูด ผักพื้นบ้าน แม้แต่ภูเก็ตล็อบสเตอร์หรือกุ้งมังกรเจ็ดสีที่ขึ้นชื่อของภูเก็ตก็มี โดยเฉพาะภูเก็ตล็อบสเตอร์เป็นวัตถุดิบที่อยากให้คนไทยได้มาลองกินกัน ตัวอาจไม่ใหญ่อย่างกุ้งมังกรต่างประเทศ แต่เนื้อแน่น สด คุณภาพดีแน่นอน อย่างที่ร้านก็นำมาทำข้าวผัดแบบสเปนหรือข้าวปาเอยาสไตล์ภูเก็ต”
อีกตลาดเล็ก ๆ แต่มีอาหารพื้นถิ่นและอาหารทะเลขาย คือ ตลาดวัดม่าหนิก ในอำเภอถลาง ซึ่งชุมชนบ้านม่าหนิกเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่ยังคงมีวิถีท้องถิ่นของภูเก็ตดั้งเดิมให้ได้เห็น โดยเฉพาะตัวตลาดที่มีขนาดเล็ก ๆ ซึ่งเชฟหน่อยบอกว่าปริมาณวัตถุดิบอาจไม่ได้มาก แต่เด่นที่ซีฟูดสดใหม่ ที่สำคัญเป็นประมงพื้นบ้านจากคนในชุมชน
เสน่ห์ภูเก็ตไม่เสื่อมคลาย
"เสน่ห์ภูเก็ตสำหรับผมแล้ว ภูเก็ตเป็นเมืองที่ครบเครื่องทั้งธรรมชาติ ทะเล หาดส่วนตัว หาดสาธารณะ มีความสะดวก มีโรงแรมห้าดาวและมีหลายราคาให้เลือก อาหารก็ครบทั้งร้านท้องถิ่น ร้านมิชลิน บีชคลับ บาร์ มีความหลากหลาย มีเสน่ห์ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้หลายสไตล์ และที่ผมอยากชวนให้มาเดินตลาดท้องถิ่นเพิ่มเติมจากแหล่งท่องเที่ยวหลักเพราะเห็นว่าแต่ละชุมชน แต่ละตำบลก็มีตลาดที่เด่นไม่แพ้กัน อาจเป็นตลาดเล็ก ตลาดใหญ่ ปกตินักท่องเที่ยวมักเลือกตรงไปที่ตัวเมืองเก่าภูเก็ต ถนนคนเดินหลัก ๆ แต่อยากให้ได้ลองมาเดินตลาดเล็ก ๆ แบบนี้ดูบ้าง แล้วจะหลงรักภูเก็ตมากขึ้น”หากต้องการอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ TAT Call Center เบอร์ 1672 หรือเฟซบุ๊ก TAT Contact Center กันได้เลย
ภาพเปิด: © ชหัสชัย ลิมป์ศุภฤกษ์/ MICHELIN Guide Thailand
จองโรงแรมกับ 'มิชลิน ไกด์' กันได้เลย
