เมื่อกล่าวถึงกรุงเทพฯ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงรสอร่อยของอาหารริมทาง ด้วยความที่เมืองหลวงของไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแห่งอาหารการกินที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นไม่แปลกใจถ้าร้านโปรดของคุณอาจเป็นร้านในตึกแถว หรือไม่ก็แผงลอยริมถนน
หากอยากใช้เวลาในกรุงเทพฯ ได้อย่างอิ่มอร่อยคุ้มค่าที่สุด ลองตามแผนที่ลายแทงร้านอร่อยสำหรับทริป 2 วันของเราถัดจากนี้มาได้เลย รับรองว่าจะคุณได้รู้จักกับร้านอาหารอร่อย ๆ และโรงแรมใน ‘มิชลิน ไกด์’ ที่ช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่าย แถมยังประทับใจ โดยไม่ต้องเสียแรงเสียเวลาค้นหาข้อมูลเองด้วย
วันที่ 1
เกาะรัตนโกสินทร์ ย่านเมืองเก่าสำคัญของกรุงเทพฯ อันเป็นที่รักของทั้งคนถิ่นและนักท่องเที่ยว ด้วยเหตุผลซึ่งไม่เพียงแค่เป็นที่ตั้งของมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ยืนยาวที่สุดของเมืองเท่านั้น ตั้งแต่พระบรมมหาราชวังไปจนถึงวัดโพธิ์ซึ่งมีพระพุทธไสยาสน์งดงามโดดเด่น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมสารพัดอาหารริมทางอันมีเอกลักษณ์ น่าตื่นเต้น และรสชาติเยี่ยมที่สุดอีกด้วยเราแนะนำให้พักอยู่ละแวกย่านนี้สักคืน ตระเวนใช้เวลาสำรวจผ่านตรอกซอกซอยและตลาดริมถนนเพื่อค้นหาอัญมณีรสอร่อยที่ซ่อนอยู่ หากคุณไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ขอแนะนำว่าโรงแรมคลาสสิกร่วมสมัยอย่างเดอะ สยามเป็นตัวเลือกสุดเยี่ยม ที่นี่ถูกยกให้เป็นโรงแรมบูติกหรูหราชั้นนำที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจและการตกแต่งสไตล์โบราณร่วมสมัยที่ครอบครัวของผู้เป็นเจ้าของคัดสรรมาตามรสนิยมส่วนตัว ซึ่งทำให้ที่พักนี้มีบุคลิกและบรรยากาศน่าชื่นชม
ทว่าหากคุณต้องการที่พักสไตล์คลาสสิกมากกว่า ลองพิจารณาโรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ห้องสวีททั้ง 357 ห้องของที่นี่มีจำนวนห่างกันเยอะ เมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักเพียง 39 ห้องที่เดอะสยาม หากแต่ละห้องได้รับการตกแต่งอย่างดี สะอาด ทันสมัย แถมทำเลที่ตั้งก็ยังอยู่ในเขตบางรัก ซึ่งใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เจริญกรุง เยาวราช และเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นสุดยอดทำเลซึ่งไม่มีที่ไหนจะเทียบได้
มื้อเช้า
หลังจากที่คุณได้ดื่มด่ำกับ “โอเลี้ยง” (กาแฟดำสไตล์ไทยโบราณ) จากร้านกาแฟเก่าแก่ริมถนนซึ่งใกล้ที่สุดแล้ว ให้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารที่คุณน่าจะไม่เคยลองที่ ป.โภชยา ร้านรางวัลบิบ กูร์มองด์ ประจำปี 2567 ใน ‘มิชลิน ไกด์’ ซึ่งเปิดมานานถึงกว่า 50 ปี ปัจจุบันบริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลผู้ก่อตั้งแม้ว่าไข่เจียวปูและอาหารไทย-จีนจานพิเศษ อาทิ เนื้อผัดใบยี่หร่าอาจฟังดูไม่ใช่ "อาหารเช้า" สำหรับทุกคน แต่ขอให้มั่นใจได้เลยว่าทุกจานนั้นเป็นอาหารเช้าที่รับประทานกันในประเทศไทย เช่นเดียวกับไม่ว่าจะเป็นซาลาเปาไส้สังขยาหรือข้าวราดแกงก็ตาม
มื้อกลางวัน
ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการตระเวนชิมอาหารข้างทางในกรุงเทพฯ คือมีโอกาสมากมายในการชิมของเรียกน้ำย่อยระหว่างมื้ออาหารที่วางขายริมทาง เช่น ระหว่างที่คุณกำลังไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือย่านและศาลเจ้าที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ก็ระหว่างเดินหลบแดดยามสายขณะมุ่งหน้าไปยังแซ่พุ้นแม้ว่าร้านบะหมี่รางวัลบิบ กูร์มองด์ ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2469 แห่งนี้จะย้ายจากที่ตั้งเดิม หากยังคงให้บริการอาหารสูตรดั้งเดิมจานเด็ดพลาดไม่ได้อย่างบะหมี่กรอบหน้าสตูว์ไก่ ซึ่งได้รับการสืบทอดจากครอบครัวมาหลายชั่วอายุคน และหากคุณรู้สึกหิวมากหน่อย อย่าลืมสั่งเกี๊ยวกุ้งเพิ่มอีกอย่างด้วย
ไม่ไกลกันนักเพียงเดินถึง มีร้านก. พานิชที่ให้บริการข้าวเหนียวมะม่วงแบบรับกลับ อาหารหวานอันเป็นเอกลักษณ์นี้เลือกใช้ข้าวเหนียวจากจังหวัดเชียงรายที่ขึ้นชื่อ และใช้เฉพาะกะทิคั้นสดกับมะม่วงน้ำดอกไม้สดเนื้อดี หากคุณเป็นผู้โปรดปรานของหวานตัวยงแล้วละก็ อย่าพลาดชิมด้วยประการทั้งปวง
มื้อเย็น
สำหรับมื้อเย็นบนเกาะรัตนโกสินทร์ มีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่ถือเป็น “ร้านเด็ดห้ามพลาด” นัมเบอร์วันของเหล่านักชิม นั่นคือเจ๊ไฝ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567) แม้การจะได้มาซึ่งโต๊ะของร้านนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากเพียงได้ชมการปรุงอาหารริมทางของไทยในกระทะร้อนที่ลุกเป็นไฟของที่นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำลูกค้าแทบทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าเมื่อมาที่นี่ต้องสั่งไข่เจียวปูและราดหน้าทะเล รับรองว่าสองจานเด็ดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของมื้อพิเศษสุดอลังการของร้านอาหารห้องแถวชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ แห่งนี้
พิกัด:
- พระบรมมหาราชวัง: พระบรมมหาราชวัง พระนคร กรุงเทพฯ
- วัดโพธิ์: 2 ถ.สนามไชย พระบรมมหาราชวัง พระนคร กรุงเทพฯ
- โรงแรม เดอะสยาม: 3/2 ถ.ขาว วชิรพยาบาล ดุสิต กรุงเทพฯ
-โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์: 1055/111 สเตททาวเวอร์ ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ
- ป.โภชยา 654-656 ถ.วิสุทธิกษัตริย์ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
- แซ่พุ้น: 112 ถ.มหรรณพ เสาชิงช้า พระนคร กรุงเทพฯ
- ก.พานิช: 431-433 ถนนตะนาว เสาชิงช้า พระนคร กรุงเทพฯ
- เจ๊ไฝ: 327 ถ.มหาชัย สำราญราษฎร์ พระนคร กรุงเทพฯ
วันที่ 2
หลังจากตระเวนชิมของอร่อยทั่วย่านเมืองเก่าแล้ว เราเดาว่าคุณน่าจะต้องอยากเปิดหูเปิดตาสัมผัสอีกมุมหนึ่งของเมืองกันบ้างเป็นแน่ ขอบอกกันว่าการเลือกที่พักใกล้กับรถไฟฟ้า BTS หรือ MRTจะทำให้คุณอยู่ในระยะสะดวกที่จะได้สัมผัสกับแทบทุกอย่างลองพิจารณา โรงแรม So Bangkok ที่มองเห็นวิวสวนลุมพินี ที่พักแห่งนี้มีสไตล์ ทันสมัย ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกใกล้ทั้ง MRT และ BTS นั่นหมายความว่าคุณสามารถออกผจญภัยสู่สุขุมวิท สีลม หรือย่านเมืองเก่าได้ภายในเวลาแค่ 20 นาที
ส่วนโรงแรม InterContinental Bangkok ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณวางแผนที่จะใช้เวลาส่วนมากในย่านสุขุมวิท โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่คึกคัก แถมการเดินทางจากที่นี่ไปยังย่านอื่น ๆ ใกล้เคียงก็เป็นเรื่องแสนง่าย และยังเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้อีกด้วย
มื้อเช้า
ภายใต้เงาของห้างสรรพสินค้าอันหรูของย่านพร้อมพงษ์ คุณจะได้พบกับร้านก๋วยเตี๋ยวหมูรุ่งเรือง (ตั๋ง) ร้านอาหารเรียบง่ายซึ่งได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ เสิร์ฟซุปปรุงรสอย่างพิถีพิถันพร้อมลูกชิ้นปลาและหมูทำเองเด้งดึ๋ง คิวจะแน่นเป็นพิเศษในช่วงมื้ออาหารกลางวัน ดังนั้นอย่าไปเบียดเสียดผู้คนและอากาศร้อน ๆ กันเลย แนะนำให้แวะเข้าไปที่ร้านยามเปิดทำการตอน 9.00 น. จะดีกว่า .
มื้อกลางวัน
หลังจากอุ่นเครื่องกันด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสแซ่บของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูรุ่งเรือง (ตั๋ง) แล้วก็แนะนำให้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกสู่ย่านเอกมัยเพื่อชิมความอร่อยของร้านดีกรี บิบ กูร์มองด์อีกแห่ง ย่านที่พักอาศัยแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่กินดื่มอันยอดเยี่ยม และหนึ่งในนั้นคือร้านเฮียให้ ผู้คนต่างต่อคิวกันแต่เช้าเพียงเพื่อจะซื้อข้าวผัดปูของทางร้าน และการรอคอยความอร่อยนั้นก็สมเหตุสมผล แม้ว่าจะเป็นอาหารริมทางที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ปริมาณก็เยอะและวัตถุดิบต่าง ๆ รวมถึงอาหารทะเลที่ยกมาสด ๆ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ช่างคุ้มค่า คุณจะได้กลิ่นหอมผัดกระทะชัดเจนในทุกคำที่ตักอาหารเข้าปาก
มื้อบ่าย และมื้อเย็น
เมื่ออิ่มแล้วก็เดินทางข้ามไปยังย่านบรรทัดทอง ถนนสายอาหารที่ร้อนแรงที่สุดสายหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเรียงรายไปด้วยอาคารพาณิชย์ที่เสิร์ฟเมนูบะหมี่รสอร่อย อาหารไทย-จีนและอื่น ๆ อีกมากมายแม้ว่าคุณจะพบกับตัวเลือกต่าง ๆ มากมาย แต่แนะนำให้ลองตรงดิ่งไปที่ร้านตั้งซุ่ยเฮงโภชนา (ถนนบรรทัดทอง) ที่เพิ่งเข้าวินติดในลิสต์ ‘มิชลิน ไกด์' ประจำปี 2567 ร้านที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวแห่งนี้ให้บริการอาหารตำรับดั้งเดิม รวมถึงเป็ดตุ๋นอบหม้อดิน พร้อมไส้ เลือด และตีนเป็ด รสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ (แน่นอนว่าเครื่องในและตีนเป็นแค่ตัวเลือก) คุณยังสามารถชิมอาหารจานเด็ด อย่าง ข้าวหน้าเป็ดหรือห่านตุ๋นกับบะหมี่ได้อีกด้วย อย่าลืมมาถึงในเวลาที่เหมาะสม เพราะเมื่อถึงกลางคืน อาหารอาจหมดเกลี้ยง
มื้อค่ำ
หลังอาหารเย็น แวะโค้งสุดท้ายกันที่เยาวราช ย่านไชน่า ทาวน์ ของกรุงเทพฯ แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องเต็มไปด้วยร้านอาหารริมทางแสนอร่อย อย่างไรก็ตาม หากต้องการตัวเลือกชัวร์ที่สุด แนะนำลิ้มเหล่าโหงว (สาขาเยาวราช) ปัจจุบันร้านมีหลายสาขาทั่วเมือง แต่สาขาดั้งเดิมนี้อยู่ที่ถนนทรงสวัสดิ์ ซึ่งเป็นย่านริมแม่น้ำที่กำลังบูม และอยู่ห่างจากเยาวราชเพียงไม่ถึง 5 นาทีโดยการเดิน เมนูเด็ดคือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ร้านราคาย่อมเยาแห่งนี้ไม่ใช้แป้งผสมลูกชิ้นปลา รับประกันว่าเนื้อสัมผัสจะเด้งพอดี อีกทั้งเส้นบะหมี่และเกี๊ยวก็เหนียวนุ่ม น้ำซุปรสเช็งกลมกล่อม รับประกันความอร่อยที่ลงตัว ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการได้ลิ้มรสอาหารริมทางแสนอร่อยเจ้าดังเช่นนี้อย่างแน่นอนพิกัด:
- โรงแรม So Sofitel Bangkok: 2 ถนนสาทรเหนือ บางรัก กรุงเทพฯ
- โรงแรม InterContinental Bangkok: 973 ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ
- ก๋วยเตี๋ยวหมูรุ่งเรือง (ตั๋ง): 10/3 ซอยสุขุมวิท 26 คลองตัน คลองเตย กรุงเทพฯ
- เฮียให้: 112/1 ซอยสุขุมวิท 63 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
- บรรทัดทอง: แขวงวังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
- ตั้งซุยเฮง (ถนนบรรทัดทอง): 649 ถนนบรรทัดทอง วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
- ลิ้มเหล่าโหงว (สาขาเยาวราช) : หน้าอาคารเลขที่ 299-301 ถนนทรงสวัสดิ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ