ทานอาหารนอกบ้าน 5 minutes 03 เมษายน 2018

ลิ้มรสวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสและยุโรปอันเลิศรส

ดื่มด่ำกับอาหารฝรั่งเศสและยุโรปรสเลิศ จาก 7 ร้านอาหารที่ 'มิชลิน ไกด์' แนะนำพร้อมสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตซิตี้

การเปิดตัวของ มิชลินไกด์ ฉบับ กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานนี้ ได้สร้างความคึกคักให้กับแวดวงอาหารในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมาก และไม่ใช่แค่เพียงรางวัลที่ไกด์บุ๊คอันทรงเกียรตินี้มอบให้เท่านั้น ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น แต่มิชลินไกด์ยังสนับสนุนให้เกิดความคิดริเริ่มและความร่วมมือกันระหว่างเหล่าเชฟยอดฝีมือ ดังตัวอย่างที่สำคัญ ก็คือ มิชลิน ไกด์ ไดน์นิ่ง ซีรี่ส์ ซึ่งเชฟระดับดวงดาวได้มาจับมือกัน เพื่อสร้างสรรค์สุดยอดมื้ออาหารอันน่าประทับใจมิรู้ลืม


สำหรับซีรี่ส์แรกนั้น เป็นการจับคู่กันระหว่าง เชฟ Arnaud Dunand Sauthier แห่งห้องอาหาร Le Normandie (2 ดาวมิชลิน) และเชฟ Ryuki Kawasaki แห่ง ห้องอาหาร Mezzaluna (2 ดาวมิชลิน) ทั้งคู่ได้ร่วมมือกันจัดมื้ออาหารสุดพิเศษ 2 ค่ำคืน ที่แสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์ของอาหารฝรั่งเศสทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย


กิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27-28 มีนาคม และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณเหล่านักชิมทั้งหลาย และผู้ให้การสนับสนุนงานนี้ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติของบัตรเครดิตซิตี้ที่มาร่วมงาน และต่างกลับไปด้วยความประทับใจกันถ้วนหน้า ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดของงาน ไดน์นิ่ง ซีรี่ส์ ครั้งหน้า ได้ทางเว็บไซต์ ของ มิชลิน ไกด์


เหตุผลหนึ่งที่ทำให้มิชลินไกด์ได้รับความนิยมไปทั่วโลกก็คือ เพราะเป็นคู่มือนักชิมที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศและในทวีปอันเป็นบ่อเกิดแห่งวิชาการครัวที่มีความล้ำหน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งอาหารฝรั่งเศสและอาหารยุโรปนั้นมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการครัวในโลกสมัยใหม่ทั่วโลกอย่างไร ดังนั้นการทำความคุ้นเคยกับอาหารประเภทนี้ จึงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นต่อการทำความเข้าใจและชื่นชมอาหารที่มีความซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศสที่เข้มข้น หรืออาหารจานเมดิเตอร์เรเนียนที่เบาสบาย ยุโรปคือชัยภูมิทางการครัวซึ่งเหล่านักชิมสามารถสำรวจค้นหารสชาติได้อย่างน่าสนุก


ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ปรนเปรอตัวคุณเองด้วยรสชาติของอาหารฝรั่งเศสและยุโรปแท้ๆ พร้อมสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากบัตรเครดิตซิตี้ ซึ่งคุณสามารถชมรายละเอียดได้ที่นี่ http://citi.asia/2HZxwkb ดูล่ะ และต่อไปนี้คือ 7 ร้านอาหาร ที่ได้รับการบันทึกในมิชลินเพลท พร้อมสิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้เท่านั้น

1. Artur

ตั้งอยู่ในซอยต้นสนอันแสนร่มรื่น ร้านอาหารแห่งนี้ ของ เชฟ Artur Kluczewski พ่อครัวผู้มีประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินในปารีส เปิดให้บริการอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 เชฟอาเธอร์ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการปรุงอาหาร และใช้เฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะนำเข้าจากต่างประเทศ หรือเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพ นอกจากเชฟอาเธอร์ที่ยังคงมีไฟในการทำอาหารอยู่เสมอ เขายังได้เชฟ Hugo Blandin พ่อครัวชาวฝรั่งเศสที่มีแบ็คกราวน์ประวัติคล้ายๆ กันมาเป็นผู้ช่วย เมนูไฮไลท์ซึ่งเป็นที่เลื่องลือของที่นี่คือ Canard à l'Orange หรือเป็ดซอสส้มที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และ Côte de Bœuf เมนูขึ้นชื่อของเชฟอาร์เธอร์ ซึ่งลูกค้าที่สั่งอาหารจานนี้จะได้เพลิดเพลินชมการหั่นเสิร์ฟกันถึงข้างโต๊ะ และบางครั้งมาสเตอร์เชฟอาเธอร์ก็จะเป็นคนที่หั่นเสิร์ฟลูกค้าด้วยตัวของเขาเอง


Artur – ตั้งอยู่ที่ชั้น G โรงแรมบลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิว , 9 ซอยต้นสน, ถ. เพลินจิต, โทร. 02-658-6288, จันทร์ -อาทิตย์ 11.30 - 14.00 น., 18.00 - 22.00 น.

2. Cocotte Farm Roast & Winery

ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเองแห่งนี้ต้อนรับแขกด้วยอาหารเลิศรสจากเชฟชาวฝรั่งเศส Jeriko Van Der Wolf ทุกๆ เย็นคุณจะได้เห็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่มาแบ่งปันสเต็กเนื้อโทมาฮอร์คชิ้นโต ไก่ย่างทั้งตัว หรือ Cheese Platter ที่อุดมไปด้วยชีสหลากหลายชนิด ทั้งแฮมโคลด์คัทและไวน์ที่ล่อตาล่อใจ ทางร้านมีเตาย่างสไตล์ฝรั่งเศสทางด้านหลังร้าน ซึ่งสามารถเสียบไก่ทั้งตัวหมุนย่างไปเรื่อยๆ หากเลือกเป็นสไตล์ Perigourdin เนื้อไก่จะถูกนำไปอบย่างอย่างพอดิบพอดีจนเกิดเป็นความนุ่มอันแสนโอชะที่ชั้นเนื้อ นอกจากนี้ยังเพิ่มดีกรีความอร่อยด้วยฟัวกราส์ และเห็ดทรัฟเฟิ่ล และสำหรับลูกค้าที่มาปาร์ตี้กันหลายๆ คน ทางร้านยังมีเมนู Rangers Valley wagyu tomahawk เนื้อวัววากิวโทมาฮอร์คชิ้นโตขนาดตั้งแต่ 1.4 กิโลกรัม ไปจนถึง 2 กิโลกรัม รวมถึงโคลด์คัทกับชีสคุณภาพดีบนบอร์ดขนาด 30 นิ้ว ให้รับประทานแกล้มพร้อมจิบไวน์ ระหว่างบทสนทนาดีๆ ในกลุ่มเพื่อนๆ


Cocotte Farm Roast & Winery - โครงการ 39 Boulevard Executive Residence สุขุมวิทซอย 39, โทร. 092-664-6777, จันทร์ - อาทิตย์ 11.30 - 15.00 น. (สั่งอาหารก่อน 14.30 น.) 18.00 - 24.00 น. (สั่งอาหารก่อน 22.30 น.) ศุกร์ - เสาร์ 17.00 - 01.00 น. (สั่งอาหารก่อน 23.30 น.)

3. Lenzi Tuscan Kitchen

โชกโชนไปด้วยประวัติการทำงาน จากทั้งร้านอาหารและโรงแรมชื่อดังระดับแถวหน้ามากมาย เชฟ Francesco Lenzi ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในพ่อครัวอาหารอิตาเลียนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของกรุงเทพฯ ณ ร้านอาหารที่ตั้งตามชื่อของเขา Lenzi เสิร์ฟอาหารสไตล์ Tuscan ซึ่งเชฟฟรานเซสโกนำอาหารจากของแคว้นบ้านเกิดมาปรุงทั้งในสไตล์ดั้งเดิมและประยุกต์ ห้องอาหารบรรยากาศคลาสสิก กระจกใสบานใหญ่เปิดครัวให้เห็นเวลาปรุงอาหาร ทางร้านเคร่งครัดในเรื่องส่วนผสมทุกอย่างตั้งแต่น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ไปจนถึงเนื้อในเตาย่างและเตาอบ เมนูพาสต้าที่โดดเด่นและเป็นเหมือนเป็นลายเซ็นของที่นี่คือ Spaghetti Lenzi ที่ลวกเส้นมาแบบ al dente ใส่กระเทียม พริก หมูรมควัน กุ้งลายเสือ และ Biroldo ไส้กรอกเลือดเนื้อนุ่มที่ทำจากหัวหมู นอกจากนี้ยังมั่นใจได้ว่าโคลด์คัทของที่นี่หลากหลายไม่แพ้ร้านใดในกรุงเทพฯ ทางร้านยังมีผลิตภัณฑ์ Tuscan อื่นๆ อีก เช่น Manzo di Pozza และ Prosciutto Bazzone

Lenzi Tuscan Kitchen - 69 / 1-2 ถนนเรืองรอง 2, ถนน วิทยุ ,โทร. 02-001-0116 จันทร์ - อาทิตย์ 11.45 - 14.00 น. (สั่งอาหารก่อน 13.45 น.), 18.00 - 22.45 น. (สั่งอาหารก่อน 22.30 น.)

4. Quince

ร้านอาหารบรรยากาศเป็นมิตรที่เสิร์ฟอาหารตลอดทั้งวัน และเหมาะสำหรับทุกคน แต่งร้านในบรรยากาศสบายๆ หน้าต่างหลายบานปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องลอดเข้ามาในร้านดูสวยงาม ห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณกลางร้าน ถัดเข้าไปด้านหลังร้านเป็นสวน เมนูเด่นที่เป็นเหมือนลายเซ็นที่สะท้อนจิตถึงวิญญานของควินซ์ คือ สลัดบรีทรูท ที่มีส่วนผสมได้แก่ ผลเบอร์รี่ กราโนล่า เฟต้าชีส และมะม่วงหิมพานต์ ให้รสสัมผัสที่หลากหลายน่าสนใจ เช่นเดียวกับอาหารจานอื่นๆ ที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงคุณภาพอันดีเยี่ยมของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูทานเล่น จานเรียกน้ำย่อย ไปจานถึงอาหารจานหลัก อย่าง พาสต้า หรือเนื้อย่างเตาถ่าน และหากคุณมาที่ร้านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็สามารถเพลิดเพลินกับบรันช์ ซึ่งรวมไปถึงเมนูประเภทไข่กับขนมปัง และไวน์ชั้นดีรสเลิศ เครื่องดื่มค็อกเทลที่สามารถเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารแสนอร่อยของคุณ

Quince สุขุมวิทซอย 45, โทร. 02-662-4478, จันทร์ - ศุกร์ 11.30 น. - 24:00 น. (สั่งอาหารก่อน 22.30 น.), เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 01.00 น. (สั่งอาหารก่อน 23:30 น.)

5. Scarlett Wine Bar & Restaurant

แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพของเมืองและการตกแต่งที่ทันสมัย ห้องอาหารสการ์เล็ตมอบบรรยากาศสบายๆ ที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์ ระเบียงกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ จากชั้นที่ 37 ของที่นี่นับเป็นจุดชมวิวที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงห้องอาหารแห่งนี้ดูแลโดยพ่อครัวชาวฝรั่งเศส เชฟ Sylvain Royer ผู้เชี่ยวชาญอาหารฝรั่งเศสสไตล์คลาสสิก ปรุงจากวัตถุดิบนำเข้าที่คัดสรรมาอย่างดี ซีเล็กชันไวน์ของที่นี่มาในราคาที่สมเหตุสมผล ช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้กับอาหารมื้อพิเศษได้อย่างแสนวิเศษ และจะยิ่งดื่มด่ำขึ้นเมื่อได้ลิ้มรสจิบพร้อมกับโคลด์คัทและชีส AOC ที่นำเข้าโดยผู้เชี่ยวชาญด้านชีสชาวฝรั่งเศส Gerrard Poulard ซึ่งคัดสรรชีสชั้นดีมาไว้กว่า 80 ชนิด


Scarlett Wine Bar & Restaurant- ชั้น 37 Pullman Bangkok Hotel G 188 ถนนสีลม โทร. 02-352-4000 จันทร์ - อาทิตย์ 18.00 น. - 01.00 น. (สั่งอาหารก่อน 23.00 น.)

6. Tables Grill

บรรยากาศหรูหรามีระดับสมกับเป็นห้องอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรมระดับห้าดาว Grand Hyatt Erawan เช่นเดียวกับจุดเด่นคือการปรุงอาหารกันแบบนาทีต่อนาทีข้างๆ โต๊ะของลูกค้า ซึ่งเป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่ ทั้งยังมีบริกรดูแลคุณเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด หัวใจสำคัญอีกอย่างคือวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่มีทั้งอาหารทะเลที่จับมาด้วยกรรมวิธีประมงอย่างยั่งยืนจากทั่วโลก ตามนโยบายรักษ์โลกของทางโรงแรม รวมถึงหอยนางรมจากประเทศไอร์แลนด์ หอยเชลล์จากสหรัฐอเมริกา และปลาค็อดจากนอร์เวย์ อาหารจานเด่นขึ้นชื่อของที่นี่ได้แก่ ซุปข้นกุ้งหรือล็อบสเตอร์บิส ที่ปรุงด้วยเหล้าคอนญักแบรนด์ดังอย่าง Hennessy และริซอตโตแบล็คทรัฟเฟิ่ลใส่แชมเปญ คลุกชีสพาร์เมซาน ซึ่งทั้งสองเมนูดังกล่าวเชฟจะมาปรุงให้ชมกันจะๆ ถึงข้างโต๊ะ เพิ่มเติมความอร่อยด้วยไวน์ในไวน์ลิสต์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี หรือจะให้เก๋กว่านั้น เพื่อประสบการณ์ดื่มด่ำสุดยอดแนะนำให้เลือกรับประทานกันในห้องไพรเวทที่อยู่ในไวน์เซลลาร์ หรือแวะไปที่ร้านในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อเพลิดเพลินกับแชมเปญบรันช์จัดเต็ม


Table’s Grill - 494 ถนนราชดำริ โทร. 02-254-1234 จันทร์ - อาทิตย์ 18.00 - 22.00 น. (สั่งอาหารก่อน 21.45 น.) เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 - 13.00 น. และ 18.00 - 22.00 น.

7. Whale’s Belly

ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายเด็กเรื่องคลาสสิกชื่อดัง อย่าง 'Adventures of Pinocchio' โดย Carlo Collodi การตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Whale's Belly ตีความมาจากภายในท้องวาฬยักษ์ที่กลืนกินทรัพย์สมบัติและ Gepetto เข้าไป นอกเหนือจากมุมมองภาพพาโนรามา 180 องศาผ่านหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานของห้องอาหารหลัก ร้านอาหารยังแบ่งสัดส่วนให้มีห้องส่วนตัวอีกหลายห้อง ตกแต่งโดยใช้โทนสีเขียวหัวเป็ด ของตกแต่งอย่างโมเดล รูป และอื่นๆ ทำให้นึกถึง คอนเซ็ปต์หลักในการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าเรากำลังอยู่ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ที่นี่เสิร์ฟอาหารยุโรปร่วมสมัย เลยไปถึงบางจานที่เสริมกลิ่นอายของเอเชียเข้าไป ซึ่งเราแนะนำว่าอย่าพลาดจาน Yuzu tuna cold cappellini ซึ่งทำให้ทางร้านเป็นผู้ชนะจากรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เมื่อปี 2014 พาสต้าเส้นบาง ที่เสิร์ฟแบบเย็น กับเนื้อปลาทูน่าสดๆ ซึ่งกลิ่นหอมอะโรมาของส้มยูซุและทรัฟเฟิ่ลนั้นสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับอาหารจานนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และมอบความสุขให้กับผู้รับประทาน


Whale's Belly - ชั้น 2, 39 Boulevard Tower, สุขุมวิทซอย 39,โทร. 064 - 082 - 2188, อังคาร - อาทิตย์ 14.00 - 23.00 น.( 22.30 น.), เสาร์ - อาทิตย์ 12.00 - 14.30 น. (บรันช์), 18.00 น. - 23.00 น. (สั่งอาหารก่อน 22:30 น.)

เนื่องจากอาหารฝรั่งเศสและยุโรปนั้นเป็นอาหารดั้งเดิม ซึ่งทุกคนสามารถเพลิดเพลินกันได้อย่างง่ายๆ และข้อเสนอของบัตรเครดิตซิตี้ก็ยิ่งเชิญชวนให้การรับประทานมื้ออร่อยนั้นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิตซิตี้ กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.citibank.co.th

#ทุกมื้อต้องจัดด้วยบัตรซิตี้

LINECiti Line

ทานอาหารนอกบ้าน

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ