ไม่ได้มีแต่ “ผัดไทย” หรือ “ต้มยำ” ที่เป็นอาหารประจำชาติขึ้นชื่อของไทย หารู้ไม่ว่าจานด่วนอย่าง “ผัดกะเพรา” ต่างหากที่คนท้องถิ่นเรียกหาไม่ว่าจะมื้อไหน ๆ ด้วยรสชาติที่แสนอร่อย เผ็ดร้อน หอมกรุ่นใบกะเพรา และใช้เวลาทำไม่นาน เมื่อตักราดข้าวสวยคดร้อน ๆ โปะด้วยไข่ดาวสักฟอง แค่นี้ก็ชวนให้คนหิวยิ้มแก้มปริ
“ผัดกะเพราที่เสิร์ฟที่ร้านเป็นผัดกะเพราที่ผมชอบที่สุด และส่วนตัวเป็นคนชอบกินผัดกะเพราแบบนี้ครับ แม้อาจจะไม่ถูกปากทุกคน แต่รับรองว่าไม่เหมือนใครในโลกแน่นอน” เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร แห่งร้านบ้าน (มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567) ร้านอาหารไทยสไตล์ครอบครัวที่เป็นน้องเล็กของร้าน Le Du (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) รวมถึงร้านนุสรา หลานยาย และร้านสมุทรในภูเก็ต บอกถึงผัดกะเพราของเขาอย่างมั่นใจ
ผัดกะเพรายอดนิยมนั้นมีตั้งแต่กะเพราหมู กะเพราไก่ กะเพราทะเล ไปจนถึงกะเพรามังสวิรัติ หรือยกระดับด้วยสารพัดความฟิวชั่นไม่มีจบ แต่ผัดกะเพราที่เป็นเมนูเด่นของร้านบ้านนั้นชูเนื้อวัวเป็นพระเอก “เราใช้เนื้อวัวดรายเอจ 30 วันอย่างดีที่สุดของไทยมาบด ผัดในกระทะไฟแรง ๆ พร้อมน้ำปรุงสูตรลับแบบไม่ใส่ผงชูรส” เชฟต้นเผยกับมิชลิน ไกด์ พร้อมกับแง้มเคล็ดลับของกลิ่นพิเศษที่ไม่เหมือนใคร “เราใช้เครื่องเทศสองชนิดที่เป็นความลับ แต่เราจะบอกกับมิชลิน ไกด์ว่ามันคือยี่หร่าและลูกผักชีนั่นเอง”
นี่เป็นเมนูแนะนำของร้านบ้านที่ใครมาเป็นต้องสั่ง และเชฟต้นบอกเคล็ดลับจานร้อนสูตรพิเศษมาฝากให้ทำกันที่บ้านแล้ว ดังนี้
เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม
เนื้อสับ 120 กรัม
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลือง ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนชา
กระเทียมสับ 5 กรัม
พริกขี้หนู 5 เม็ด
ใบกะเพรา 10 กรัม (เต็มหยิบมือ)
ลูกผักชีคั่ว และยี่หร่าป่น (สำหรับโรยหน้า)
น้ำมันปรุงอาหาร
ข้าวสวย 1 จาน
ไข่ 1 ฟอง
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะร้อน
2. ผัดพริกและกระเทียมในน้ำมันจนขึ้นสีอ่อน ๆ
3. ใส่เนื้อสับและผัดต่อจนสุก 75%
4. ใส่เครื่องปรุงรสแล้วผัดให้เข้ากัน
5. ใส่ใบกะเพราท้ายสุด คลุกให้เข้ากันดีแล้วปิดเตาทันที
6. ทอดไข่ดาวโดยเลือกความสุกตามใจชอบ
7. นำข้าวสวยใส่จาน ราดด้วยผัดกะเพรา แล้วตบท้ายด้วยไข่ดาวที่เตรียมไว้
8. โรยหน้าด้วยลูกผักชีคั่วและยี่หร่าป่น
