ท่องเที่ยว 3 minutes 15 กุมภาพันธ์ 2022

เช็กอินถิ่นกรุงเก่า “อยุธยา” กับสำรับอาหารที่ครบรสตั้งแต่เวียงวัง คาเฟ่ ไปจนถึงสตรีตฟู้ดและของฝาก

เปิดของดีราชธานีเก่า แดนของอร่อยอย่างพระนครศรีอยุธยา

หากเอ่ยถึงเมืองที่มีมรดกวัฒนธรรมด้านอาหารที่ตกทอดสืบต่อกันมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์นั้น แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” ราชธานีเก่าแก่กว่า 600 ปีของไทยติดลิสต์มาด้วย ซึ่งถ้าย้อนไปในอดีตจะพบว่าความรุ่งเรืองด้านการค้าที่ดึงดูดเรือพาณิชย์จากทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตกทำให้อยุธยากลายเป็นเมืองที่มีความผสมผสานด้านวัฒนธรรมอาหารมาแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีน โปรตุเกส ญี่ปุ่น อินเดีย มุสลิม และสำรับจากในรั้วในวัง ล้วนผสมผสานจนกลายเป็นเอกลักษณ์ความกลมกล่อมเฉพาะของอยุธยา และสำหรับใครที่ต้องการปักหมุดเมนูห้ามพลาดประจำกรุงเก่าอยุธยา เรามีเช็กลิสต์ให้ได้ตามรอยโดยแยกเป็นประเภทอาหารที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอยุธยาได้อย่างครบถ้วน

ขนมหวานแบบไทยที่ผสานเทคนิคตะวันตกมาแต่ช้านาน และร้านบ้านป้อมเพชรกับบรรยากาศริมน้ำที่มีเสิร์ฟทั้งอาหารคาวและหวานร่วมสมัย ซึ่งติดโผร้านที่ได้รับรางวัลในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุด (© Shutterstock / Baan Pomphet)
ขนมหวานแบบไทยที่ผสานเทคนิคตะวันตกมาแต่ช้านาน และร้านบ้านป้อมเพชรกับบรรยากาศริมน้ำที่มีเสิร์ฟทั้งอาหารคาวและหวานร่วมสมัย ซึ่งติดโผร้านที่ได้รับรางวัลในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุด (© Shutterstock / Baan Pomphet)

ขนมไทยตำรับอยุธยา
เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์อาหารของอยุธยา แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่นึกถึงตำนานท้าวทองกีบม้า หรือมารี กีมาร์ เดอ ปินา (Maria Guyomar de Pinha) สาวลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นที่มีหลักฐานปรากฏอยู่จริงและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน หลายคนรู้จักท้าวทองกีบม้าในฐานะต้นตำรับผู้คิดค้นขนมฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด หนึ่งในซิกเนเจอร์ของเมนูขนมหวานไทยที่เลื่องชื่อ จากเดิมที่เป็นเพียงขนมในรั้วในวังสำหรับรับแขกบ้านแขกเมืองก็กลายเป็นขนมที่ประชาชนทั่วไปนอกรั้ววังนิยมทำกันในงานเทศกาล ประเพณีต่าง ๆ

ด้วยความที่อยุธยาเป็นต้นกำเนิดขนมหวานตำรับไทย ทำให้ที่นี่มีร้านขนมหวานของฝาก รวมทั้งมีคาเฟ่ขนมหวานอยู่หลายแห่ง ซึ่งคาเฟ่ขนมหวานที่อยุธยานั้นก็มีให้เลือกทั้งคาเฟ่วิวโบราณสถาน เช่น เจดีย์เก่าวัดราชบูรณะ คาเฟ่กลางทุ่งนา ไปจนถึงคาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตกแต่งสวยเก๋ และที่มากไปกว่าความสวยงามของสถานที่ก็คือ ตอนนี้ขนมไทยในคาเฟ่ของพระนครศรีอยุธยาล้ำไปถึงการจับคู่ขนมหวานแบบไทยเดิมคู่กับเครื่องดื่มร่วมสมัย และล่าสุดก็มีบาร์ขนมไทยในคอนเซปต์ใหม่จัดเสิร์ฟเป็นคำจับคู่กับเครื่องดื่มทั้งม็อกเทล ค็อกเทล ซึ่งแต่ละคำก็จะได้ประวัติศาสตร์อาหารการกินของอยุธยาเสิร์ฟคู่กันไปด้วย


ขนมไทยโบราณที่ถูกนำมาเล่าใหม่จนกลายเป็นเทรนด์คาเฟ่ยอดนิยม และตลาดน้ำอโยธยาที่เต็มไปด้วยของกินแสนอร่อย (© Shutterstock)
ขนมไทยโบราณที่ถูกนำมาเล่าใหม่จนกลายเป็นเทรนด์คาเฟ่ยอดนิยม และตลาดน้ำอโยธยาที่เต็มไปด้วยของกินแสนอร่อย (© Shutterstock)

ตะลุยชิมอาหารริมทางในตลาดบกและตลาดน้ำ
อีกความสนุกของทริปกินเที่ยวปลายทางอยุธยาคือการตะลุยตลาดบกและตลาดน้ำที่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติความอร่อย เริ่มจาก “ตลาดโก้งโค้ง” ที่โดดเด่นเรื่องขนมหวาน อาหารท้องถิ่น และบรรยากาศอยุธยาย้อนยุคที่พ่อค้าแม่ขายต่างใส่ชุดไทยออกมาต้อนรับ ต่อด้วย “ตลาดหัวรอ” ตลาดสดเก่าแก่แหล่งรวมพิกัดของอร่อยริมทางเจ้าเก่าแก่ที่แต่ละร้านขายกันมาไม่ต่ำกว่า 40-50 ปี ไม่ว่าจะเป็นหอยทอด ผัดไทย เต้าหู้ทอด ก๋วยเตี๋ยว ไอศกรีมกะทิแบบโบราณ ต่อด้วย “ตลาดน้ำอโยธยา” ที่จำลองบรรยากาศการค้าขายริมน้ำของชาวอโยธยาในอดีต เช่นเดียวกับ “ตลาดน้ำวัดท่าการ้อง” ที่ชวนย้อนอดีตไปกับบรรยากาศวิถีไทยแบบก่อนเก่า มีขนมไทย อาหารพื้นบ้าน และสินค้าโอทอปให้ได้เลือกชอปปิง ส่วนยามดึกยังมี “อยุธยาไนท์มาร์เก็ต” ตลาดกลางคืนที่ครบถ้วนด้วยสตรีตฟู้ดและของฝาก จนกลายเป็นอีกจุดเช็กอินด้านการท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในพระนครศรีอยุธยา

กุ้งเผา ของอร่อยที่พลาดไม่ได้เมื่อไปอยุธยา (© Shutterstock)
กุ้งเผา ของอร่อยที่พลาดไม่ได้เมื่อไปอยุธยา (© Shutterstock)

กุ้งเผา ปลาแม่น้ำ อาหารตามฤดูกาลฉบับอยุธยา
ถามว่าสำรับแบบอยุธยาเป็นอย่างไร ยืนหนึ่งต้องเป็นเมนูกุ้งแม่น้ำเผา ซึ่งที่พระนครศรีอยุธยามีร้านที่เสิร์ฟกุ้งแม่น้ำจากหลายแห่งให้บริการนับสิบร้าน รวมทั้งร้านที่ติดลิสต์รางวัลบิบ กูร์มองด์ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2565 อย่างร้านจุ้งบริการ, เรือนไทยกุ้งเผา ส่วนปลาแม่น้ำนั้นแต่ละร้านก็มีให้เลือกหลายชนิดตามแต่ฤดูกาล เช่น ร้านบ้านตะโกราย ที่นอกจากจะมีแสร้งว่ากุ้ง กุ้งเผา และสารพัดเมนูกุ้งแม่น้ำแล้วก็มีทั้งปลาแดงผัดเผ็ด แกงป่าลูกชิ้นปลากราย ปลาซิวทอดกรอบ ที่มีให้กินได้เฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น เช่นเดียวกับอีกเมนูไฮไลต์ของอยุธยาที่ต้องลิ้มรสให้ได้ คือ ปลาย่าง สะเดา น้ำปลาหวาน ซึ่งแต่ละร้านจะเลือกใช้ปลาช่อน ปลาดุก และปลาแม่น้ำมากินคู่กับสะเดาที่จะออกเฉพาะช่วงต้นปีเท่านั้น


โรตีสายไหมอาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ และโรตีสายไหมแม่ป้อม (© MICHELIN Guide Thailand)
โรตีสายไหมอาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ และโรตีสายไหมแม่ป้อม (© MICHELIN Guide Thailand)

โรตีสายไหม ของฝากยอดฮิตติดลิสต์ ‘มิชลิน ไกด์’
ว่ากันว่ามาอยุธยาถ้าไม่ได้ซื้อโรตีสายไหมติดไม้ติดมือกลับบ้านก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะสองข้างถนนในตัวเมืองอยุธยานั้นเต็มไปด้วยร้านโรตีสายไหม ซึ่งเป็นอาหารที่ตั้งต้นมาจากชุมชนมุสลิมในอยุธยาที่ได้คิดค้นการทำสายไหมแทนที่จะเร่ขายแต่โรตีแบบดั้งเดิม ความโดดเด่นของโรตีสายไหมอยุธยาคือการทำแป้งโรตีสดใหม่ แต่ละร้านแข่งกันที่แป้งบางแต่เหนียวนุ่ม ส่วนเส้นสายไหมก็หวานกำลังพอดี หลายร้านมีการพัฒนาสูตรแป้งจากสีขาวของแป้งสาลีเป็นแป้งรสชาติต่าง ๆ และสำหรับร้านโรตีสายไหมที่ติดลิสต์รางวัลบิบ กูร์มองด์ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2565 ได้แก่ โรตีสายไหมอาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ และโรตีสายไหมแม่ป้อม ซึ่งเป็น 2 เจ้าเก่าแก่ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เปิดโผของอร่อยเมืองเก่าเรียบร้อยแล้ว ระหว่างการเดินทางก็ต้องไม่ลืมใส่หน้ากาก ล้างมือ และป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด อีกทั้งควรสังเกตตราสัญลักษณ์ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) อันเป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ที่รับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับสถานบริการด้านการท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในประสบการณ์ที่ปลอดภัยในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการดี ๆ นี้ได้ที่ thailandsha.tourismthailand.org หรือหากต้องการอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวก่อนเดินทาง อย่าลืมให้เราเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ไปกับคุณ สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ TAT Call Center เบอร์ 1672 หรือเฟซบุ๊ก TAT Contact Center



ภาพเปิด: © Shutterstock

ท่องเที่ยว

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ