ท่องเที่ยว 6 minutes 25 พฤศจิกายน 2021

เปิดลายแทงกินเที่ยวฉบับ Road Trip บนเส้นทางขับรถโต้ลมหนาว กรุงเทพฯ-เชียงใหม่

ไปแอ่วเหนือกันไหม

สถานการณ์โรคระบาดอาจทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัดไกล ๆ หรือข้ามภูมิภาคไม่ค่อยสะดวกเท่าที่เคย หลายคนจึงเลือกขับรถส่วนตัวเที่ยวทั่วไทย ซึ่งแม้จะใช้เวลานานขึ้น หรืออาจต้องมีการแวะพักค้างคืนระหว่างทาง แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่อาจไม่ได้มีปลายทางเป็นจุดหมายอีกต่อไป

เช่นเดียวกับเส้นทางขึ้นเหนือจากกรุงเทพฯ ตรงสู่เชียงใหม่ ที่หากไม่เร่งรีบนักก็สามารถจัด Road Trip จัดเต็มกิน เที่ยว ชอปได้หลากหลายบรรยากาศ ทั้งเส้นทางธรรมชาติฝั่งจังหวัดตาก หรือจะจัดทริปใหญ่ไปให้สุดแดนสยามที่เชียงรายแล้วค่อยวนกลับมาชิลที่เชียงใหม่ก็ยังได้ ถ้าพร้อมแล้วเช็กลมยาง เช็กรถ เก็บกระเป๋า แล้วออกเดินทางกัน

ขนมโรตีสายไหม ของอร่อยประจำอยุธยา (© Shutterstock)
ขนมโรตีสายไหม ของอร่อยประจำอยุธยา (© Shutterstock)

พระนครศรีอยุธยา
หลายคนเลือกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้าตรู่ และจุดแรกแสนคลาสสิกที่นักเดินทางหลายคนมักแวะพักกินข้าวเช้าคือย่านวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่นอกจากบรรดาข้าวแกงสไตล์ไทย ๆ ตลอดข้างทางแล้ว หากขับเข้าไปในตัวเมืองไม่ไกลจะพบว่าอยุธยาเมืองเก่าตอนนี้เต็มไปด้วยคาเฟ่บรรยากาศดี กาแฟคุณภาพ แถมยังมีขนมอบอร่อย ๆ เยอะมาก และบางร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะโดยนำขนมไทยตำรับอยุธยามาเสิร์ฟอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ขนมไทยในมุมมองใหม่ บาร์ขนมไทยสูตรอยุธยา และคาเฟ่ขนมไทยที่เสิร์ฟพร้อมวิวเจดีย์เก่าวัดราชบูรณะ หรือใครถามหามื้อหนักท้องฉบับรสท้องถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเมืองเก่าอยุธยา กุ้งแม่น้ำตัวเขื่องเผาที่หลายคนตั้งเป้าไว้ว่าต้องจองโต๊ะไปชิมให้ได้สักครั้งก็มีให้เลือกอร่อยอีกหลายร้าน

กุ้งย่างตัวเขื่องอันขึ้นชื่อของอยุธยาที่นักกินหลงรัก (© Shutterstock)
กุ้งย่างตัวเขื่องอันขึ้นชื่อของอยุธยาที่นักกินหลงรัก (© Shutterstock)

ส่วนที่ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิดมีอาคารเรียน-รู้-เรื่องโขน ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้โขนแห่งเดียวในไทย จัดแสดงทุกเรื่องเกี่ยวกับโขนตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ การทำหัวโขน ไปจนถึงฉากขนาดใหญ่ที่เคยใช้จริงในเวทีโขนศิลปาชีพด้วย ซึ่งบางฉากใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ฉากมีการเคลื่อนไหว ผู้ชมคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงศิลปะการแสดงอันทรงคุณค่าได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น อีกทั้งในพื้นที่เดียวกันยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน รวบรวมงานศิลปะชั้นสูงของไทยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสมบัติของชาติที่ครั้งหนึ่งในชีวิตควรมาชมให้ได้สักครั้ง สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือ 23 สาขาจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ใครกำลังมองหาของฝาก ที่นี่ก็มีร้านขายของที่ระลึกที่นำงานหัตถศิลป์มาใส่ดีไซน์ร่วมสมัยน่าซื้อหาเป็นของฝากมาก ๆ



พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญแห่งวัดม่วงอันศักดิ์สิทธิ์ของคนอ่างทอง (© Shutterstock)
พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญแห่งวัดม่วงอันศักดิ์สิทธิ์ของคนอ่างทอง (© Shutterstock)

อ่างทอง
ผ่านอ่างทองต้องแวะนมัสการพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญแห่งวัดม่วง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยความสูง 95 เมตรที่ประดิษฐานโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนาสีเขียว ต่อด้วยโปรแกรมไหว้พระนอนแห่งวัดขุนอินทประมูล วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย นอกจากนี้หากมีเวลาแนะนำให้ปักหมุดที่ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง ที่นี่มีการอนุรักษ์กระดาษข่อยแบบโบราณ ใครอยากเห็นขั้นตอนการทำกระดาษข่อยอย่างละเอียด หรือต้องการซื้อสินค้าจากกระดาษข่อย แวะไปได้เลย

สำหรับสายกินต้องตรงไปที่ตลาดศาลเจ้าโรงทอง ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวันวานท่ามกลางบรรยากาศเรือนแถวไม้อายุกว่า 100 ปี และวิถีชาวไทย-จีนที่ยังคงอยู่ ยังไม่นับรวมเมนูเด็ดประจำตลาด โดยเฉพาะขนมไทยโบราณอย่างขนมดอกลำดวน ขนมโสมนัส ขนมดอกดิน ขนมเกสรลำเจียก ฯลฯ ซึ่งมีให้เลือกหลายร้านมาก แต่ละร้านล้วนสืบต่อกิจการมาจากรุ่นบุกเบิกตลาดเลยทีเดียว

อย่าลืมจอดที่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันสุดเท่ที่มีของกินมากมาย (© ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น/ Facebook)
อย่าลืมจอดที่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันสุดเท่ที่มีของกินมากมาย (© ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น/ Facebook)

สิงห์บุรี
สิงห์บุรีจะไม่ใช่แค่เมืองผ่านอีกต่อไป เพราะสิงห์บุรีมีประวัติศาสตร์บ้านบางระจัน ซึ่งได้ต่อยอดมาสู่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน โดยตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ที่ตลาดแห่งนี้คนขายจัดเต็มชุดไทยย้อนยุคและย้อมทั้งตลาดให้เป็นเหมือนหมู่บ้านบางระจัน นอกจากจะขายขนมและอาหารไทยโบราณแล้ว ชาวบ้านยังนำผักผลไม้ตามฤดูกาลในท้องถิ่นหมุนเวียนมาขายด้วย (ตลาดเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์)

สะพานพาสาน จุดชมวิวแห่งล่าสุดที่พลาดไม่ได้ (© Wittaya Poomipaiboonwong/ Shutterstock)
สะพานพาสาน จุดชมวิวแห่งล่าสุดที่พลาดไม่ได้ (© Wittaya Poomipaiboonwong/ Shutterstock)

นครสวรรค์
ตั้งแต่ “พาสาน” ถูกสร้างขึ้น ชุมทางปากน้ำโพก็ไม่ได้มีมังกรที่อุทยานสวรรค์ หรือบึงบอระเพ็ดเป็นภาพจำสุดคลาสสิกอีกต่อไป กลายเป็นว่าหากผ่านไปจังหวัดนครสวรรค์เมื่อใดต้องแวะไปถ่ายรูปกับพาสานให้ได้ ซึ่งนอกจากความโดดเด่นของตัวอาคารที่มีความโค้งเป็นสะพานเชื่อมสู่เกาะยมแล้ว พาสานยังเป็นจุดชมวิวที่เราจะได้เห็นปรากฏการณ์แม่น้ำสองสีที่เกิดจากแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านมาบรรจบกันอย่างชัดเจน โดยไอเดียของชื่อพาสานมาจากคำว่าผสาน หมายถึงความรุ่งเรืองของชุมทางปากน้ำโพที่เกิดจากแม่น้ำทั้ง 4 สาย ปิง-วัง-ยม-น่าน มาผสานกัน กลายเป็นวิถีแห่งลุ่มเจ้าพระยา ด้านในมีห้องจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว มีลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม รวมไปถึงกิจกรรมแสง สี เสียงแสดงถึงวิถีชีวิตผู้คนกับสายน้ำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย

ส่วนสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ตามรอยละครดังแห่งปี “กรงกรรม” ที่อำเภอชุมแสง นักท่องเที่ยวสายละครก็นิยมไปชมสถานที่ถ่ายทำจริงซึ่งเป็นตลาดเก่า และห้องแถวไม้เก่าแก่ หรือสถานีรถไฟของเมืองชุมแสง และถ้าจะให้อินกับบรรยากาศริมน้ำยิ่งกว่า นครสวรรค์ยังมีร้านอาหารเจ้าเก่าในลักษณะแพริมน้ำให้ได้เลือกกันอยู่หลายร้าน รวมทั้งร้านอาหารไทย-จีนเก่าแก่ที่เปิดตำนานคู่นครสวรรค์มาไม่ต่ำกว่า 60 ปี

กำแพงเพชร
จากนครสวรรค์ หากเลือกมาทางจังหวัดตากจะผ่านจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งปกติคนส่วนใหญ่มักเลือกขับผ่านเลยไปอย่างรวดเร็วเพราะได้พักเติมพลังที่ชุมทางนครสวรรค์กันมาแล้ว แต่สำหรับใครที่จัด Road Trip แบบค่อย ๆ เที่ยวเก็บแต้มไปทุกจังหวัดจนกว่าจะถึงเชียงใหม่ แนะนำว่าไม่ควรมองข้ามกำแพงเพชร ที่นี่มีแหล่งประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เฉพาะโบราณสถานภายในกำแพงเมืองเก่าแห่งนี้มีทั้งสิ้นถึง 20 แห่ง เช่น วัดพระแก้ว วัดพระธาตุ สระมน ศาลพระอิศวร วัดกลางนคร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญที่เชื่อมโยงกับแหล่งมรดกโลก


ความยิ่งใหญ่ตระการตาของเขื่อนภูมิพล เขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย หนึ่งในสิ่งสวยงามน่าชมของจังหวัดตาก (© Tourism Authority of Thailand)
ความยิ่งใหญ่ตระการตาของเขื่อนภูมิพล เขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย หนึ่งในสิ่งสวยงามน่าชมของจังหวัดตาก (© Tourism Authority of Thailand)

ตาก
ตากเป็นจังหวัดชายแดนที่เหมาะกับสายธรรมชาติและแทร็กกิงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเดินป่าตามหาความยิ่งใหญ่ของน้ำตกทีลอซู รวมทั้งน้ำตกปิตุ๊โกรที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวนี้ และจะปิดในช่วงฤดูฝน ยังไม่นับรวมยอดดอยต่าง ๆ ที่มีให้นักถ่ายภาพทะเลหมอกเลือกไปเยือนอีกนับไม่ถ้วน

ส่วนนักท่องเที่ยวสายแวะโฉบที่ไม่มีเวลาเดินป่าหรือขึ้นดอย และสนใจที่เที่ยวที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งปี ที่อำเภอบ้านตาก แนะนำให้ไปนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดสำหรับผู้ที่เกิดปีมะเมีย ณ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ชมเขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้งแห่งเดียวในไทย และที่นี่มีบ้านพักรับรองที่สามารถเข้าพักเพื่อชมเสน่ห์ของสายน้ำและขุนเขาได้ แต่ควรจองล่วงหน้า สำหรับที่เที่ยวในตัวเมืองขอแนะนำสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่สวยที่สุดของจังหวัดตาก โดยเฉพาะยามเย็นตอนพระอาทิตย์ตก เช่นเดียวกับตรอกบ้านจีน ชุมชนเก่าที่ยังคงมีเรือนไม้ บ้านลูกผสมไทย-จีน ก็เป็นอีกแห่งที่สายถ่ายภาพต้องแวะมา ก่อนกลับอย่าลืมแวะชิมผัดไทยแถวตรอกบ้านจีนที่ยังคงใช้น้ำมันจากกากหมูเพิ่มความหอมฉบับผัดไทยโบราณ เสิร์ฟในบรรยากาศบ้านไม้เก่าแก่

ทอดน่องชมวิถีชุมชน เรือนขนมปังขิงแบบตะวันตก ณ กาดกองต้า จังหวัดลำปาง (© amnat30/ Shutterstock)
ทอดน่องชมวิถีชุมชน เรือนขนมปังขิงแบบตะวันตก ณ กาดกองต้า จังหวัดลำปาง (© amnat30/ Shutterstock)

ลำปาง
หากเลือกขับรถยาว ๆ จากกรุงเทพฯ แล้วไม่ได้แวะเที่ยวไหนเป็นพิเศษ จังหวัดลำปางเหมาะจะเป็นจุดแวะเที่ยวที่มีจังหวะวิถีชีวิตอันเนิบช้า สามารถจัดโปรแกรมเที่ยวสายวัฒนธรรมได้แบบจัดเต็มมาก ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่างวัดพระธาตุลำปางหลวง วัดปงสนุกเหนือที่ได้รับรางวัล Award of Merit ด้านการอนุรักษ์จากองค์การยูเนสโก และวัดไหล่หินหลวง วัดโบราณที่มีพระวิหารเก่าแก่ฝีมือช่างเชียงตุง สร้างขึ้นตามศิลปะแบบล้านนาไทยประดับลวดลายงดงามทั้งหลัง โดยเฉพาะส่วนหน้าบันและซุ้มประตูโขงมีความงดงามเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองเหนือ เป็นต้น

หรือถ้ามาช่วงวันสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเช็กอินในโรงแรมบูติกเล็ก ๆ ริมน้ำ เดินเที่ยวกาดกองต้า ถนนคนเดินในช่วงยามเย็น ซึ่งถือเป็นอีกไฮไลต์ของการท่องเที่ยวลำปางเช่นกัน อาจจะเช่าจักรยานขี่รอบเมือง หรือนั่งรถม้าชมเมืองก็มีเสน่ห์คนละแบบ และถือเป็นการท่องเที่ยวที่ช่วยอนุรักษ์รถม้าลำปางให้คงอยู่คู่เมืองต่อไปด้วย นอกจากนี้ที่ลำปางมีอาหารพื้นถิ่นให้เลือกชิมหลากหลาย เช่น ข้าวซอยเกาะคา ข้าวซอยอิสลาม ขนมไทยแม่ประนอม ทั้งยังเป็นแหล่งดินขาวคุณภาพดีระดับโลก จึงมีโรงงานผลิตเซรามิกมากมายให้ได้ชอปสินค้าคุณภาพดีในราคาโรงงาน หรือจะแสดงฝีมือทำชิ้นงานและเพนต์ลายในผลิตภัณฑ์ของเซรามิกด้วยตัวเองให้เป็นผลงานชิ้นเดียวในโลกก็น่าสนใจไม่น้อย


เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกัน (© Sunantha Maidee/ MICHELIN Guide Thailand)
เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกัน (© Sunantha Maidee/ MICHELIN Guide Thailand)

ลำพูน
จังหวัดลำพูนเป็นเหมือนประตูสู่เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในภาคเหนือที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ เคยเป็นที่ตั้งของนครหริภุญชัยในสมัยพระนางจามเทวี เป็นเมืองโบราณมีอายุกว่า 1,300 ปี และถือเป็นศูนย์กลางการทอผ้าไหมยกดอกแหล่งสำคัญของประเทศไทย โดยในตัวเมืองมีโรงทอผ้าไหมให้ได้ชมและเลือกซื้ออยู่หลายแห่ง ที่โด่งดังคือผ้าไหมยกดอกลำพูน สินค้า GI ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์และความรุ่งเรืองของลำพูนในอดีตได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังสามารถถามหาคาเฟ่ร้านดังในบรรยากาศบ้านไม้สีขาว ที่ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะโดยศิลปินท้องถิ่น ชั้นล่างเป็นบาร์กาแฟ ร้านอาหาร เบเกอรี ซึ่งแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นโชว์รูมของฝาก เน้นผลิตภัณฑ์จากลำพูนที่ผ่านการใส่งานดีไซน์ร่วมสมัย

เคล็ดลับก่อนออกเที่ยว

  • จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทางหลัก คือ จากนครสวรรค์สามารถเลือกมาทางตาก ลำปาง หรือไปทางพิษณุโลกก็ได้ หรือจะเลือกไปทางพะเยา เชียงราย ก่อนวนมาเชียงใหม่ แล้วเลือกกลับทางตาก ก็จะเป็นวงกลมรอบใหญ่ให้พักร้อนกันยาว ๆ ได้เลย


การเดินทางท่องเที่ยวอาจเปรียบเสมือนการเรียนรู้ในรูปแบบหนึ่ง หากหน้าหนาวนี้มีแผนท่องเที่ยวขับรถขึ้นเหนือ ลองจอดแวะสัมผัสวิถีของชุมชนพื้นถิ่นในระหว่างเส้นทางก่อนถึงจุดหมาย มั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ พร้อมภาพความทรงจำที่ประทับใจเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน และถือเป็นการช่วยสร้างรายได้กระจายไปในท้องถิ่นโดยตรงอีกด้วย

ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางอย่าลืมใส่หน้ากาก ล้างมือ และป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด และควรสังเกตตราสัญลักษณ์ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) อันเป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ที่รับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับสถานบริการด้านการท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในประสบการณ์ที่ปลอดภัยในการเดินทาง ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการนี้ได้ที่ thailandsha.tourismthailand.org


ท่องเที่ยว

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ