วันนี้ผู้ตรวจสอบมิชลินชาวไทยและต่างชาติ จะมาช่วยคุณปักหมุดร้านอาหารที่ห้ามพลาด ในคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2563 เรามาดูกันว่า 5 เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่พวกเขาประทับใจมากที่สุดคืออะไร
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของผู้ตรวจสอบมิชลินได้ที่นี่
5 เมนูซิกเนเจอร์แนะนำโดยผู้ตรวจสอบมิชลินชาวไทย
กุ้งแม่น้ำเผาผ่าเสิร์ฟโดยยังคงความสดและรสธรรมชาติได้อย่างดี ราดด้วยซอสต้มยำเปรี้ยวเผ็ดแบบกลมกล่อม ผสมมันกุ้งเพื่อเพิ่มรสชาติให้มีมิติขับรสชาติความสดของเนื้อกุ้ง เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมข้าวออร์แกนิก และกะปิ โดยมีซอสหมูสามชั้นรสหวานเค็ม และมะม่วงดิบหั่นเป็นลูกเต๋า ช่วยเพื่มความสมดุลของรสชาติ เรียกได้ว่าเป็นความลงตัวที่สมบูรณ์แบบยอดเยี่ยม
2. Redbox เชียงใหม่ (รางวัลมิชลินเพลท) - Siam Ruby Thai Twisted Dessert
ไอศกรีมมะพร้าวของร้าน Redbox เป็นไอศกรีมที่อร่อยที่สุดแห่งปีเลย แม้จะเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไปไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในไทย แต่ความพิเศษของไอศกรีมที่นี่คือการเลือกสรรมะพร้าวจากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เสิร์ฟใส่ชามรองด้วยทองม้วนกรอบ ขนมโสมนัส น้ำเชื่อมที่เคี่ยวเองจากน้ำตาลปีบมาเลเซีย (Gula Melaka) แต้มด้วยแผ่นทองทาบนไอศกรีม
3. เลอ นอร์มังดี กรุงเทพฯ (รางวัลสองดาวมิชลิน) - Cochon de Lait
หมูหันเนื้อนุ่ม ที่หมักและย่างเสิร์ฟอย่างพิถีพิถัน เทคนิคการรังสรรค์และคุณภาพวัตถุดิบไม่เป็นรองใคร ผสานกันแล้วกลายเป็นอาหารไร้ที่ติ
4. Chef’s Table กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) - Seared Foie Gras
เมื่อสัมผัสคำแรกก็รับรู้ถึงความประณีต ฟัวกราชิ้นหนาย่างไฟสุกกำลังดี มีความกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อม citrus mosaic ซอสแครอท และเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่จัดเตรียมและปรุงมาอย่างพิถีพิถัน เมื่อนำมาจัดรวมกันแล้ว อาจจะดูเรียบง่าย แต่ทานแล้วต้องบอกว่าเป็นฟัวกราที่อร่อยที่สุด!
5. พรุ ภูเก็ต (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) - Carrots cooked in the soil they came from
ฟังดูอาจเรียบง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ชิ้นแครอทห่อใบตองแล้วกลบดิน ก่อนปิดทับด้วยถ่านไม้ยูคาลิปตัสนานกว่า 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาราดด้วยซอส hollandaiseใช้แครอทบดแทนน้ำส้มสายชู กัดแล้วรู้สึกได้ถึงความหวานตามธรรมชาติของชิ้นแครอท พร้อมด้วยกลิ่นจางๆ ของไม้และดิน เป็นเมนูที่ไม่เหมือนใคร และควรค่าแก่การจดจำ
5 เมนูซิกเนเจอร์แนะนำโดยผู้ตรวจสอบมิชลินชาวต่างชาติ
1. Upstairs กรุงเทพฯ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) – Tuna Tartar with Beets, Capers and Parmesan
ทูน่าให้เนื้อสัมผัสเหมือนรีซอตโต ราดด้วยซอสข้นทำจากบีทรูท หวานกำลังดี แถมแฝงไปด้วยรสชาติอันล้ำลึกถึงใจ โรยด้วยแผ่นเวเฟอร์ที่ทั้งกรอบและสวยงาม ตามด้วยใบร็อกเก็ต และครีมฮอสแรดิชที่ช่วยเพิ่มความมันและให้รสเผ็ด ทานแล้วสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่คำแรก เสิร์ฟพร้อมซุปเนื้อที่ช่วยดึงรสชาติเมนูที่อร่อยอยู่แล้วให้อร่อยได้อีกระดับ ถือว่าเป็นหนึ่งใน tuna tartar ที่อร่อยไม่ลืม
2. เมธาวลัย ศรแดง กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) – แกงเผ็ดเป็ดย่าง
แกงเผ็ดเป็ดย่างของที่นี่ มีความละเมียดละไม ด้วยเนื้อเป็ดย่างนุ่มๆ สไลด์บางๆ และสับปะรดที่หวานกำลังดีตัดกับความมันของเนื้อเป็ด กลิ่นหอมของพริกแกงและกะทิชวนให้ลิ้มลอง ทางร้านใส่ใบมะกรูดและพริกเพื่อรสชาติอันร้อนแรง
3. Gaa กรุงเทพฯ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) – Organic Burnt Coconut Sugar Ice cream and Pork Floss
ที่สุดของไอศกรีมแสนอร่อย เนื้อเนียน เข้มข้นด้วยรสคาราเมล หมูหยองที่เส้นละเอียดดั่งสายไหม เนื้อสัมผัสและรสชาติสุดยอด เป็นเมนูที่ไม่มีใครเหมือน โดดเด่น แม้ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความพิถีพิถัน
4. Sühring กรุงเทพฯ (รางวัล 2 ดาวมิชลิน) – Omas Eirlikör; Süssigkeitenbox
ทาร์ตจิ๋วรังสรรค์อย่างประณีต อัดแน่นด้วยครีมวานิลลาเนื้อเบา โรยด้วยบลูเบอร์รีหวานฉ่ำ เอ๊กน็อกสูตรคุณย่าที่มาด้วยกันก็แสนอร่อยและเข้มข้น ทานคู่กันแล้วให้รสชาติน่าหลงใหล และประทับใจไปอีกนาน
5. แมกโนเลีย เชียงใหม่ (รางวัลมิชลินเพลท) – ข้าวเหนียวทุเรียนราดน้ำกะทิ
ขนมหวานรังสรรค์จากราชาผลไม้ ทุเรียนสุกสีเหลืองทองนี้ให้รสหวานมัน ผสานความอร่อยจากข้าวเหนียวมูน แล้วราดด้วยน้ำกะทิรสละมุน อร่อยจนอยากกลับมากินที่ร้านอีกครั้ง
*เมนูที่กล่าวถึงข้างต้นอาจไม่ตรงตามรูปภาพ