สำหรับคนไทย ไม่ว่ามื้อเย็นหรือมื้อค่ำก็เป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญของวัน เติมพลังหลังเลิกงานก่อนกลับบ้าน รับประทานอาหารกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หรือแม้กระทั่งมื้อดึกหลังจากสังสรรค์เรียบร้อยแล้ว บางคนอาจรับประทานอะไรง่าย ๆ หรือเลือกที่จะข้ามมื้อเย็นไป
แต่ผู้คนอีกจำนวนหนึ่งกลับเลือกที่จะใช้เวลานี้ในการผ่อนคลายหรือกินในสิ่งที่อยากกิน เช่นเดียวกับข้าวต้ม อาหารสไตล์จีนที่เรียบง่ายและอยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน จนกลายเป็นหนึ่งในอาหารสุดโปรดของหลายคน คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ จะขอพาผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับ กอชุนฮวด ร้านข้าวต้มเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2509 ที่สืบต่อความอร่อยจากรุ่นพ่อสู่รุ่นหลาน และได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566
เปิดประวัติของร้าน
ที่มาของกอชุนฮวดหากเริ่มต้นนับกันจริง ๆ คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2503-2513 ช่วงที่คุณพ่อ (กอชุนฮวด) เป็นลูกมืออยู่ร้านอาหารเลี่ยงเซ้งแถวเยาวราช จนกระทั่งอายุประมาณ 20 ปีก็แต่งงานมีครอบครัว และออกจากงานปัจจุบันไปลงหลักปักฐานตั้งตัวอยู่แถวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินเมื่อปี 2509 พร้อมกับซื้อตึกแถวหนึ่งคูหา และเริ่มต้นธุรกิจร้านข้าวต้มของตัวเองตั้งแต่นั้นมา โดยสั่งสมความรู้และเทคนิคมาจากร้านเดิมที่เคยทำงาน ประกอบกับพรสวรรค์ในการทำอาหารที่รสมือถูกใจทุกคนในบ้านจนกระทั่งปี 2535 เมื่อคุณพ่อจากไป ธุรกิจร้านข้าวต้มกอชุนฮวดจึงตกทอดสู่มือของลูกสาว พร้อมด้วยทีมครัวและพนักงานเสิร์ฟที่หลายคนยังคงทำงานอยู่ที่นี่จนทุกวันนี้
ปัจจุบันกอชุนฮวดอยู่ภายใต้การดูแลของทายาทรุ่นที่สอง คุณพรเพ็ญ นพรัตนวงศ์ และคุณเพ็ญศรี นพรัตนวงศ์ โดยเมนูอาหารและรสชาติยังคงเป็นไปตามตำรับที่สืบทอดมาจากคุณพ่อกอชุนฮวด จึงทำให้ที่นี่เป็นร้านข้าวต้มยอดนิยมสำหรับชาวฝั่นธน รวมไปถึงคนกรุงเทพฯ ผู้ชื่นชอบการรับประทานข้าวต้มรอบดึก และผู้คนจำนวนหนึ่งที่เกิดและเติบโตในละแวกนี้มาก่อน แล้วแยกย้ายไปใช้ชีวิตที่ย่านอื่นของเมืองหลวง ก็ยังแวะเวียนมาสัมผัสรสชาติความอร่อยแห่งวันวานกันอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่พระอาทิตย์โพล้เพล้ไปจนถึงดึกดื่น
ร้านข้าวต้มมีความจุกจิกกว่าร้านอาหารประเภทอื่นตรงที่ใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะและหลากหลาย รวมถึงการรับมือกับความท้าทายของโจทย์การทำกับข้าวแทบทุกวัน เพราะลูกค้าสั่งพลิกแพลงกันเยอะ และต้องทำให้อาหารมีรสชาติดี น่ารับประทาน ในขณะเดียวกันก็ต้องแข่งกับเวลา เพราะจำนวนออร์เดอร์ที่ทยอยเข้าครัวตลอดเวลา
จุดเด่นของกอชุนฮวดคือการรักษาคุณภาพของการทำอาหารและรสชาติที่คงที่สม่ำเสมอตั้งแต่รุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นหลาน ยังไม่รวมถึงอาหารหลายจานที่หากินได้ยาก และบรรยากาศชวนย้อนรำลึกถึงวันวานในวัยเยาว์ของใครอีกหลายคน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนสร้างมนตร์เสน่ห์ให้กับร้านข้าวต้มตึกแถวแห่งนี้จนผู้คนแวะเวียนมาลิ้มลองความอร่อยกันอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงตีสอง
สั่งอะไรดี
พลิกเล่มเมนูเจออาหารสารพัดรายการที่เหมาะแก่การรับประทานพร้อมข้าวต้ม หรืออาจเรียกได้ว่าอาหารที่กอชุนฮวดนั้นออกแบบสำหรับกินกับข้าวต้มมากกว่าข้าวสวยเสียอีก อีกทั้งยังสืบทอดสูตรเดิมจากคุณพ่อนับตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปัจจุบัน มั่นใจรสมือได้อย่างแน่นอนความอร่อยของกอชุนฮวดเริ่มตั้งแต่การใส่ใจกับข้าวต้ม ที่นี่ใช้เฉพาะข้าวหอมมะลิอย่างดี ผสมข้าวเหนียวในสัดส่วนที่พอเหมาะ แล้วตั้งไฟต้มในน้ำสะอาด ไม่ปรุงเกลือเพิ่ม ใช้ไฟแรง พอเดือดจึงค่อยยกตักใส่แต่ละชามก่อนที่จะเสิร์ฟถึงโต๊ะลูกค้า
จานเด็ดประจำร้านคงหนีไม่พ้นหมูต้ม ที่คัดเฉพาะเนื้อสันนอกติดมัน ต้มไฟเบา ๆ และใช้เวลาค่อนข้างนาน พอได้ที่แล้วยกขึ้นมาแล่บาง กินกับน้ำพริกเต้าเจี้ยวเพลินแน่นอน
เสริมทัพกับข้าวอีกสักสองสามอย่าง เป็ดซีอิ๊ว เมนูบ้าน ๆ แต่รสชาติประทับใจ เป็ดทอดรวนซีอิ๊วจนเข้าเนื้อ แทะกินเล่นหรือคีบกินพร้อมข้าวต้มก็เข้าทั้งสองแบบ
ปลาผัดพริก ฟังดูเหมือนไม่เข้ากับข้าวต้ม แต่อยากให้ลองสั่งแล้วจะพบว่าเข้ากันได้ดิบดี ปลาผัดพริกสูตรกอชุนฮวดคัดเฉพาะเนื้อปลากะพงล้วนเลาะก้าง ผัดพริกเผาสไตล์ครัวจีน ผัดจนกระทั่งปลามีความกรอบและแห้ง จากนั้นโรยด้วยใบโหระพา
อีกหนึ่งเมนูแกล้มข้าวต้มที่หากินได้ยากคือ ผัดจับฉ่าย ปกติคุณอาจเห็นต้มจับฉ่ายตามร้านอาหาร ส่วนที่นี่เลือกที่จะนำเสนอจับฉ่ายในสไตล์ผัดแห้งพร้อมวุ้นเส้นตามสูตรแต้จิ๋ว กินกับข้าวต้มแล้วถูกปากแน่นอน
ภาพเปิด: © อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา / MICHELIN Guide Thailand
Bib Gourmand • ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา
