“จุดแข็งของ Thomas คือความมุ่งมั่นและหลงใหลในงานที่ทำ”
“Mathias เหมือนกับผมตรงที่มุ่งมั่น รักในสิ่งที่ทำและงานสร้างสรรค์ แต่เขามีความเป็นเยอรมันมากกว่าผมเยอะ ทั้งยังเจ้าระเบียบ มีแบบแผน และตรงต่อเวลา”
คำบรรยายถึงกันและกันที่พี่น้องฝาแฝดชาวเยอรมันโธมัสและแมทธิอัส ซูห์ริง (Thomas & Mathias Sühring) เคยเอ่ยกับเราไว้เมื่อปี 2561 ตอนที่ได้รางวัลสองดาวมิชลินมาครองใหม่ ๆ ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2561 ยังคงตอกย้ำถึงใจรักในการปรุงอาหารซึ่งพวกเขาสานต่อเรื่อยมาผ่านอาหารที่ร้าน Sühring ในบ้านหลังอบอุ่นภายในซอยเย็นอากาศของกรุงเทพฯ พร้อมกับรักษารางวัลสองดาวมิชลินถึง 4 ปีซ้อน
จากวันนั้นถึงวันนี้ ร้านอาหารเยอรมันที่ดีที่สุดในประเทศไทยอย่าง Sühring ยังคงรักษาความโดดเด่นในการนำเสนออาหารสไตล์เยอรมันสมัยใหม่ โดยมีแนวคิดมาจากเมนูบ้านเกิดของเชฟฝาแฝดที่ได้เคยลิ้มรสเมื่อครั้งเยาว์วัย ที่ทั้งสองนำมาคลุกเคล้าศิลปะการปรุงอาหารยุโรปตอนกลางร่วมสมัยอย่างลงตัวได้จนถึงปี 2565 โดยเชฟทั้งสองต่างดึงจุดเด่นของกันและกันออกมาผ่านสิ่งประดิษฐ์ทางรสชาติอันวิจิตรจนเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก
และเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่พ่อครัวสองพี่น้องได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน Art of Living ในฐานะพันธมิตรของ Blancpain สืบทอดธรรมเนียมอันยาวนานร่วมกับเหล่ามิตรสหายเชฟระดับดาวมิชลินทั่วโลก “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นสมาชิกใน circle of culinary friends ของ Blancpain” เชฟทั้งสองกล่าว “เรามีปรัชญาและแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานที่คล้ายคลึงกัน โดยเราเชื่อในการผสมผสานตำรับดั้งเดิมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เข้าไว้ด้วยกัน”
“นาฬิกา Blancpain เป็นมากกว่าแค่เครื่องบอกเวลา มันคืองานศิลปะชิ้นเอกที่ประดับข้อมือผู้ใส่” แมทธิอัส กล่าว ขณะที่โธมัสเสริมว่า “เราใส่นาฬิกาเข้าครัวเป็นประจำ แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในทุก ๆ วัน เราสัมผัสได้ถึงความพิเศษเวลาที่ใส่มัน”
ในวันแห่งความรักที่จะถึงนี้ สองพ่อครัวตระกูลซูห์ริงตั้งใจรังสรรค์เทสติ้งเมนูพิเศษ 6 คอร์สที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหัตถศิลป์ที่แสนพิถีพิถันของเรือนเวลาของแบรนด์นาฬิกา Blancpain พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 13 มีนาคม 2565 นี้
“เราเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่เพียงแต่หายาก แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการปรุง บางอย่างต้องรอให้ถึงฤดูของมันเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาทำอาหารได้” เชฟทั้งสองอธิบาย “ทุกจานสะท้อนแนวคิด ‘Innovation is our tradition’ ที่ทั้งร้าน Sühring และ Blancpain ต่างก็ยึดเป็นรากฐานในการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ”
หนึ่งในเมนูเด่น คือ Aki “Ossetra Imperial” Caviar ที่เชฟรังสรรค์ปูจักรพรรดิ (king crab) เสิร์ฟพร้อมกับไข่ปลาคาเวียร์จากทะเลแคสเปียน เพิ่มรสชาติด้วยควินัว เติมรสอูมามิและกลิ่นของท้องทะเลด้วยสาหร่ายทะเล และจานหลักคือ Atlantic Turbot & Blue Lobster ที่นำปลาชั้นยอดจากมหาสมุทรแอตแลนติก มาเสิร์ฟคู่กับเนื้อกุ้งมังกรสีฟ้าที่ปรุงอย่างงดงาม ทั้งยังเข้ากันได้ดีกับหอยตลับรมควันและซอสไวน์ขาวที่ดึงกลิ่นหอมของเนยและน้ำมันใบกระวาน ปิดท้ายมื้อพิเศษด้วยไอศกรีมเฮเซลนัท เสิร์ฟคู่กับเฮเซลนัทพราลีนซึ่งมีส่วนผสมของดาร์กช็อคโกแลต 70 เปอร์เซ็นต์ ใส่ลูกเล่นรสสัมผัสด้วยเนื้อแอปริคอต และชูความหอมหวานโดยใช้ซอสเหล้าเบอร์บอนวานิลลาแสนหอมหวาน
*รายการเมนูอาหารทั้งหมด อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความพร้อมและความเหมาะสม
ร่วมสัมผัสเมนูสุดพิเศษจาก Blancpain และ Sühring ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็นในราคา 7,500 บาท++ โดยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ทางร้านจะเสิร์ฟเพียงเทสติ้งเมนูดังกล่าวเท่านั้นเพื่อฉลองเทศกาลแห่งความรักในวันพิเศษด้วยมื้ออาหารชั้นยอดจากสุดยอดฝีมือแถวหน้าของเมืองไทยการันตีด้วยรางวัลสองดาวมิชลิน รวมถึงพบกับของขวัญสุดพิเศษที่มอบให้กับแขกทุกท่านที่แวะเวียนมาเพลิดเพลินอาหารมื้อวิจิตรในโอกาสพิเศษนี้เช่นกัน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.restaurantsuhringmenu.com/blancpain
อ่านต่อ: “ทำอาหารด้วยความซื่อสัตย์” แรงบันดาลใจของเชฟ Garima Arora ผู้คว้ารางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award Presented by Blancpain
ภาพเปิด ภาพอื่น ๆ และวิดีโอในบทความ: © Blancpain
