สิ่งที่น่าสนใจ 5 minutes 13 กุมภาพันธ์ 2020

6 อาหารจากครัวนานาชาติที่ช่วยปลุกพลังรักให้ลุกโชนมีอะไรบ้าง?

ร่วมจุดไฟรักในห้องนอนด้วยอาหารจากเทพธิดาแห่งความรักและนักรักอย่างคาสซาโนว่าฉบับพิเศษ แนะนำโดยเชฟแถวหน้าของเอเชียกันไหม

นานแสนนานมาแล้ว เทพธิดากรีกผู้เป็นตัวแทนของความรัก ความงาม และความปรารถนา นามว่า ‘Aphrodite (แอโฟรไดที)’ ได้ส่งต่อมรดกแห่งสิเน่หาและความหลงใหลให้กับมวลมนุษย์ จนถ่ายทอดมาสู่จานอาหาร เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘aphrodisiac food’ หรืออาหารปลุกราคะที่ดังที่รู้กัน อาทิ หอยนางรม ลูกเบอร์รี่ หรือดาร์คช็อคโกแลต โดยเชื่อว่ามีส่วนช่วยจุดแรงปรารถนาในห้องนอนให้เต็มเปี่ยม

แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าที่ส่งต่อกันมา หรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน และจะต่างกันไปในแต่ละชาติอย่างไร นี่คืออาหารที่เหล่าเชฟนานาชาติแถวหน้าแห่งเอเชียแนะนำว่าที่เปรียบดุจยารัก พร้อมนำเสนอวิธีการกินให้อร่อยยกระดับสำหรับค่ำคืนพิเศษช่วงวันวาเลนไทน์

ไก่สุเนรีจากเชฟแมนจูนัธ มูรัล (เครดิตภาพ: ร้าน The Song Of India)
ไก่สุเนรีจากเชฟแมนจูนัธ มูรัล (เครดิตภาพ: ร้าน The Song Of India)

‘ไก่สุเนรี’ ร้าน The Song Of India, สิงคโปร์ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ สิงคโปร์ ปี 2019)

“ครัวอินเดียขึ้นชื่อเรื่องอาหารมังสวิรัติและยังมีวัตถุดิบจากพืชมากมายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่ส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศ เช่น กระเทียม หญ้าฝรั่น อบเชย นม อัลมอนด์ ถั่วพิสตาชิโอ ยี่หร่า เมล็ดฟักทอง ผลมะเดื่อ โป๊ยกั้ก เม็ดทับทิม (สดและแห้ง) ขิง พริก หรือน้ำผึ้ง” เชฟแมนจูนัธ มูรัล ผู้อำนวยการด้านอาหาร ร้าน The Song Of India (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ สิงคโปร์ ปี 2019) กล่าว

อาหารปลุกราคะแท้จริงแล้วฝังรากอยู่ในวัฒนธรรมอินเดียมาแสนนาน “ในคืนวันแต่งงานที่เรียกว่า ‘Suhag Raat’ มีธรรมเนียมที่ให้เจ้าสาวนำนมอุ่นผสมเครื่องเทศอย่างอัลมอนด์หญ้าฝรั่น มอบให้กับเจ้าบ่าว โดยเชื่อว่าเพิ่มสมรรถภาพให้แข็งแกร่งในห้องนอนตลอดค่ำคืนและเป็นเรื่องที่ภาพยนตร์บอลลีวูดหยิบมานำเสมอบ่อยครั้ง” เชฟแมนจูนัธเล่าต่อ

เชฟประจำห้องอาหาร 1 ดาวมิชลินยังบอกอีกว่านอกจากนมผสมเครื่องเทศแล้ว ยังมีความเชื่อเก่าแก่สมัยอดีตกาล ที่พระราชาทรงโปรดปรานอาหารจานแกงเอามาก เพราะเชื่อว่าช่วยทำให้มีพละกำลัง และปรุงรสรักให้มีสีสันในห้องบรรทม “แกงกะหรี่ที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศมีคุณสมบัติช่วยเร้าอารมณ์ทางเพศ โดยมีส่วนผสมตั้งแต่อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กระเทียม และการัม มะสะล่า ที่ใส่ผลจันทน์เทศ อบเชย โป๊ยกั้ก

หากคุณมองหาอาหารที่เสริมให้ค่ำคืนพิเศษร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก เชฟแห่ง The Song Of India แนะให้จิบนมอุ่นๆ ใส่เครื่องเทศ และแน่นอนว่าต้องมีแกงกะหรี่สูตรเด็ดเผ็ดร้อนเช่นกัน หรือจะลองชิมเมนูโปรดของเชฟอย่าง Chicken Suneri ไก่ราดซอสกะหรี่ที่ใส่อัลมอนด์ และใบยี่หร่าที่ร้านที่สิงคโปร์ก็ได้ 

คาร์ปาชโช่หอยจากฮอกไกโดเมนูสุดแสนโรแมนติกของเชฟเกตาโน พาลุมโบ (เครดิตภาพ: เชอราตันแกรนด์สุขุมวิท)
คาร์ปาชโช่หอยจากฮอกไกโดเมนูสุดแสนโรแมนติกของเชฟเกตาโน พาลุมโบ (เครดิตภาพ: เชอราตันแกรนด์สุขุมวิท)

‘ขิง’ และ ‘หอยเชลล์’ ร้าน Rossini’s, กรุงเทพฯ (รางวัลมิชลิน เพลท มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020)

“มีอาหารหลายชนิดที่ชาวอิตาลีเชื่อว่าช่วยเรื่องความขึงขังบนเตียง” เชฟเกตาโน พาลุมโบ เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟแห่งห้องอาหาร Rossini’s (รางวัลมิชลิน เพลท มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020) มองอย่างนั้น “อาหารทะเล หรือเครื่องเทศอย่างขิง กระเทียม หรือผลไม้แห้ง รวมถึงอัลมอนด์ เฮเซลนัต พิสตาชิโอ หรือว่าผลไม้สดจำพวกสตรอว์เบอร์รี่ ราสป์เบอร์รีก็เช่นเดียวกัน” 

ความเชื่อที่ว่านั้นเป็นเรื่องโบราณที่เล่าต่อ ๆ กันมา ซึ่งเชฟอารมณ์ดีจากเกาะซิชีเลียเผยว่าคนอิตาเลียนเชื่อว่าการรับประทานอาหารข้างต้นสามารถจุดไฟราคะให้คุขึ้นอีกครั้ง และถือเป็นธรรมเนียมการกินที่ผสานไปกับวิถีชีวิตของดินแดนนักรักอย่างคาซซาโนวาอย่างอิตาลีได้อย่างลงตัว

จานพิเศษที่เชฟเกตาโนนำเสนอให้คู่รักดื่มด่ำในวันแห่งความรักในปีนี้ คือคาร์ปาชโช่หอยพัดสด ๆ จากฮอกไกโด เสริมความสดชื่นด้วยเนื้อส้มและความหวานของแคร์รอต ฉาบด้วยรสร้อนแรงของขิง

ฟัวกราส์รสเนียนนุ่มจากเชฟหลี แมน-ลัง  (เครดิตภาพ: ร้าน Duddell’s)
ฟัวกราส์รสเนียนนุ่มจากเชฟหลี แมน-ลัง (เครดิตภาพ: ร้าน Duddell’s)

‘ฟัวกราส์’ ร้าน Duddell’s, ฮ่องกง (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ ฮ่องกง ปี 2020)

“สำหรับชาวจีนกวางตุ้ง เราเชื่อใน ‘以形補形’ (‘you are what you eat’) แต่สำหรับผู้ชาย อาหารกระตุ้นอารมณ์ทางเพศนั้นมีตั้งแต่ งู อัณฑะไก่ (雞子) หรือ อัณฑะวัว (牛鞭) แต่ครัวจีนก็เปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น ทั้งหอยนางรม ฟัวกราส์ คาเวียร์ หรือว่าช็อคโกแลต” เชฟหลี แมน-ลัง แห่งร้าน Duddell’s (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ ฮ่องกง ปี 2020) บอกถึงอาหารเสริมพลังรักตำรับจีน

ตำรับอาหารรักเวอร์ชั่นพิเศษที่เชฟชาวจีนแนะนำคือฟัวกราส์ที่ตุ๋นในซุปสุพรีมเข้มข้นที่มาจากการต้มไก่และเนื้อหมูไม่ติดมันเป็นเวลาหลายชั่วโมง รักษารสชาติด้วยกรรมวิธีทำให้สุกอย่างช้าๆ เพื่อคงรสสัมผัสเนียนนุ่มของฟัวกราส์ จากนั้นนำไปหมักกับสาเกเผื่อดึงรสฟัวกราส์ ดึงรสหวานและทอนรสเลี่ยนของฟัวกราส์ให้ออกมาอร่อยยิ่งขึ้นออกมาเป็นจานที่สมบูรณ์

เชฟหลียังได้นำความอร่อยของฟัวกราส์จี่กระทะจนหอมและขึ้นสี มาเสิร์ฟคู่กับหอยเป๋าฮื้อและซอสหอยนางรม เสิร์ฟต้อนรับเทศกาลแห่งความรักที่ร้าน Duddell’s ให้แวะไปเติมพลังรักในแบบของเขากันได้ด้วย 

หอยนางรมและคาเวียร์สูตรพิเศษตำรับเชฟฮันส์ ซาห์เนอร์ (เครดิตภาพ: โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ)
หอยนางรมและคาเวียร์สูตรพิเศษตำรับเชฟฮันส์ ซาห์เนอร์ (เครดิตภาพ: โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ)

‘หอยนางรม’ ร้าน Elements, กรุงเทพฯ  (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020)

แต่สำหรับชาวตะวันตกอย่าง เชฟฮันส์ ซาห์เนอร์ หัวหน้าพ่อครัวแห่งห้องอาหาร Elements (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานเทคนิคฝรั่งเศสชั้นยอดเข้ากับอิทธิพลครัวญี่ปุ่นแล้ว เชฟฝรั่งเศสมองว่าหอยนางรมกลับเป็นทางเลือกพิเศษที่เหมาะกับคู่รัก เพราะเต็มไปด้วยธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินซี และบี 12 ทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม

“แม้จะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหอยนางรมเป็นอาหารกระตุ้นอารมณ์ทางเพศสำหรับชาวกรีกหรือชาวโรมันโบราณ แต่ความอร่อยชั้นยอดจากท้องทะเลนี้ถูกจัดว่าเป็นอาหารที่หรูหรา ที่จักรพรรดิคลอเดียส อัลไบนัสโปรดปราน จนถึงกับกินหมดคนเดียวราว 400 ตัว นอกจากนั้นแล้ว กาอิอุส ปลีนิอุส แซกุนดุส หรือ พลินีผู้อาวุโส นักธรรมชาติวิทยาผู้โด่งดังยังเคยบันทึกไว้ว่า สมัยก่อนหอยนางรมมักถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับหิมะ เพื่อช่วยรักษาความสดในงานเลี้ยงสังสรรค์อันหรูหรา” เชฟฮันส์เล่า พร้อมกับเสริมว่า “หอยนางรมยังปรากฎอยู่ในตำราแพทย์ยุคเรเนสซองส์ว่าช่วยปลุกอารมณ์เร่าร้อนได้เช่นกัน”

เชฟจากดินแดนแห่งความรักอย่างฝรั่งเศสแนะให้เลือกหอยนางรมจากแคว้นบริตตานีหรือนอร์มังดี รับประทานแบบสดๆ หรือจะทำให้สุกสักเล็กน้อย ละเลียดคู่กับไวน์แดงหรือไวน์ขาวจากเบอร์กันดี เพื่ออรรถรสสุนทรีย์และความเร่าร้อนในอารมณ์ ทั้งหอยนางรมยังเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Elements ในปีนี้ด้วย 

แกงป่ารสร้อนแรงแห่งร้านไทยนิยม แนะนำโดยกษมา เหล่าพาณิชย์  (เครดิตภาพ: ร้านไทยนิยม)
แกงป่ารสร้อนแรงแห่งร้านไทยนิยม แนะนำโดยกษมา เหล่าพาณิชย์ (เครดิตภาพ: ร้านไทยนิยม)

‘แกงป่า’ ร้าน ไทยนิยม, กรุงเทพฯ (รางวัลบิบ กูร์มองด์ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020)

แต่สำหรับครัวไทย อาหารเสริมพลังรักตำรับไทยของ กษมา เหล่าพาณิชย์ ผู้อยู่เบื้องหลังร้านไทยนิยม (รางวัลบิบ กูร์มองด์ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2020) ที่ถ่ายทอดตำราอาหารจากสูตรลับของครอบครัวเก่าแก่ ยาเสน่ห์ปลุกรักนั้นคือสมุนไพรและเครื่องเทศเผ็ดร้อนที่อยู่ในอาหารไทยเป็นทุนเดิม โดยเชื่อกันว่าเปรียบเสมือนยารักษาโรค อาทิ กระชายดำ กระเทียม และพริก ซึ่งกระชายนั้นมีทั้งโพรสตานอยด์และไนตริกออกไซด์ ที่มีคุณสมบัติช่วยบำบัดความหย่อนสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย และช่วยปลุกอารมณ์ถวิลหาได้ดิบดี

“ในครัวไทย น้ำกระชายสกัดเย็นเชื่อว่าช่วยให้ผู้ชายให้รู้สึกขึงขังได้” กษมาเผยความลับตำรับไทย “ส่วนกระเทียมช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ถือเป็นหนึ่งในเคล็ดลับของเหล่าบุรุษที่มีคู่ครองที่เยาว์วัยกว่า” เธอเสริม นอนจากนั้นยังมองว่าพริกสดๆ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้หัวใจเร็วรัวและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปทั่วร่าง “อันเป็นเหตุผลว่าทำไมความเผ็ดร้อนของพริกช่วยจุดไฟรักให้กับคู่รักได้อย่างดี” กสมากล่าว

นั่นทำให้จานอร่อยบ้านๆ แบบไทยอย่าง แกงป่า เป็นหนึ่งในเมนูเสริมพลังความซู่ซ่าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนผสมทั้งกระชาย กระเทียม และพริกสดๆ ไว้ในชามเดียว แถมยังมีรสชาติที่สมดุล เผ็ดร้อน แต่แสนจะอร่อย และเป็นหนึ่งในเมนูเด็ดมัดใจของร้านไทยนิยมเช่นกัน

ซุปปลาไหล แจงเกียวตัง ตำรับลับแห่งครัวเกาหลีโดยเชฟชิน ชางโฮ (เครดิตภาพ: ร้าน Joo Ok)
ซุปปลาไหล แจงเกียวตัง ตำรับลับแห่งครัวเกาหลีโดยเชฟชิน ชางโฮ (เครดิตภาพ: ร้าน Joo Ok)

‘แจง เกียว ตัง’ ร้าน Joo-ok, โซล (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ เกาหลีใต้ ปี 2020)

สำหรับแดนโสมแล้ว นอกเหนือจากเครื่องเทศและวัตถุดิบของอาหารเฉพาะอย่าง พ่อครัวอาหารเกาหลีคอนเทมโพรารีอย่าง เชฟชิน ชางโฮ แห่งร้าน Joo-ok (รางวัล 1 ดาวมิชลิน มิชลิน ไกด์ เกาหลีใต้ ปี 2020) กลับบอกว่าคนเกาหลีมีเมนูกระตุ้นต่อมอารมณ์ความโหยหารักที่ขึ้นชื่อโดยเฉพาะ

ซัมกเยทัง (삼계탕) หรือซุปไก่ยัดใส้เครื่องเทศเป็นอาหารขึ้นชื่อส่งผ่านพลังแห่งความรัก อย่างแรกคือความหมายของชื่อเมนูที่สื่อถึงโสม หรือ (กอ ซัม) ไก่ (กอ กยี) และซุป (กอ ตัง) ในภาษาเกาหลี” เชฟชินเล่า ซุปไก่ตำราแดนโสมนี้ ความพิเศษอยู่ตรงที่ใช้ไก่วัยอ่อนทั้งตัว นำมายัดไส้เครื่องสมุนไพรจำพวกรากโสม พุทราจีน พริกไทยแดง ข้าวเหนียว และเกาลัด โดยเป็นซุปจากตำราเกาหลีดั้งเดิมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย “และมีเมนูอย่าง ยงบองตัง (용봉탕) สตูที่ทำจากไก่ เต่า และปลาตระกูลเดียวกับปลาทอง ที่เป็นเมนูที่คนโบราณเชื่อกันว่าช่วยเพิ่มกำลังวังชาของคนเกาหลี แต่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน” เขาเสริม

นอกเหนือจากนั้นยังเชื่ออีกว่าปลาไหลน้ำจืดเป็นสัตว์ที่ช่วยเพิ่มเรี่ยวแรงและปลุกอารมณ์เรื่องอย่างว่าได้เป็นอย่างดี ทั้งยังถูกนำมาปรุงเป็นอาหารเสริม ช่วยให้ผ่านพ้นฤดูร้อนอันอบอ้าวได้ด้วย “ปลาไหลเป็นหนึ่งในอาหารที่ขึ้นชื่อว่าช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายได้ดีที่สุด เพราะทำให้รู้สึกกะปรี้กะเปร่า แถมยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี” เขาเสริม

เชฟระดับ 1 ดาวมิชลินตบท้ายอีกว่า ปลาไหลน้ำจืดจะอร่อยที่สุดด้วยการนำมาย่างเตาถ่านให้หอม อันเป็นวิธีการปรุงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือจะลองสูตรพิเศษของเชฟ โดยนำมาทำเป็นซุป แจงเกียวตัง (장어탕) ที่ใส่ใบหัวใชเท้าแห้ง และผักกาดขาว เคี่ยวกับปลาไหลจนได้รสอร่อยของปลา ซึ่งเชฟบอกว่าเป็นเมนูเด็ดของคนเกาหลี ทั้งยังปลุกพลังรักให้ลุกโชนตลอดค่ำคืน

สิ่งที่น่าสนใจ

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ