ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำทั้งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและราคาที่เหมาะสำหรับผู้ที่สรรหารสอร่อยที่แตกต่างกัน และหลังจากเปิดตัวร้านอาหารดาวมิชลินหน้าใหม่กันไปแล้ว ซึ่งมีร้านที่ได้รับดาวมิชลินหน้าใหม่รวมถึง 6 ร้านด้วยกัน แต่จานไหนจากร้านรางวัลดาวมิชลินในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 เหล่านี้ที่มัดใจผู้ตรวจสอบแบบที่พวกเขายังจำรสชาติชวนประทับใจได้อย่างดีบ้าง
เราไปหาคำตอบกัน
ด๊องแด๊งหมึกดำ (Black squid ink 'Dong Dang' noodles with lemongrass)
บ้านเทพา (อาหารไทยร่วมสมัย, รางวัลสองดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)เราชอบความเรียบง่ายของอาหารจานนี้มาก สีเส้น ‘ก๋วยเตี๋ยว’ ดำวาว และ “ว้าว” เอามาก ๆ รสชาติอาหารมีความซับซ้อน เส้นด๊องแด๊งแบบอีสานเนื้อแน่นและทำออกมาได้สม่ำเสมอเท่ากัน ใส่ตะไคร้หั่นละเอียดที่ไม่ได้กลบรสชาติ แต่เสริมรสให้ลึกล้ำขึ้นไปอีก ทั้งยังชวนรู้สึกสดชื่นตัดกับรสชาติเข้มข้นของปลาหมึกได้ดิบดี แสดงถึงทักษะอันเยี่ยมยอดในการทำอาหารที่แท้จริง
'เรื่องเล่าทันดูรี' ทุเรียน กระเจี๊ยบ ขนมปัง และผักดอง (The 'Tandoori Story' durian, roselle saag, bread and pickles)
Gaa (อาหารอินเดียร่วมสมัย, รางวัลสองดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)สำหรับเราแล้ว เมนูทุเรียนนี้ตอกย้ำถึงความเป็นเลิศของร้าน Gaa อาหารจานนี้นำเสนอผลไม้อย่างทุเรียนที่ไม่เหมือนใคร ราดด้วยซอสครีมทำจากจากผลไม้หลากหลายชนิด พนักงานเสิร์ฟราดซอสเครื่องเทศเข้มข้นแบบไม่อั้น เมื่อคลุกเคล้ากันแล้วได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน ผักดองต่าง ๆ ก็รสชาติดีมาก รวมถึงโรตีที่ทางร้านทำสดใหม่ทาด้วยกีก่อนจะนำทุเรียนและส่วนผสมอื่น ๆ มาวางด้านบน เท่านั้นยังไม่พอยังมีซาก (saag) ที่เป็นผักโขมเครื่องเทศอินเดียที่เสริมรสได้อร่อยมาก และทำอย่างประณีตเป็นพิเศษ ถือเป็นจานที่ปิดท้ายอาหารคาวได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง
หอยเชลล์ (Scallop)
INDDEE (อาหารอินเดียร่วมสมัย, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)หอยเชลล์สด ๆ เสิร์ฟมาในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เสริมรสชาติของหอยเชลล์ให้โดดเด่น เนื้อหอยถูกหั่นเป็นทรงลูกเต๋าอย่างประณีต รับประทานแบบทาร์ทาร์ที่ปรุงรสได้อย่างดีเยี่ยม โรยหน้าด้วยอินจิปูลี (injipuli) ที่เป็นแกงเปรี้ยวหวานสีน้ำตาลเข้มรสเผ็ดที่ทำจากขิง มะขาม พริกเขียว และน้ำตาลโตนดได้อย่างดีเลิศ ตามด้วยเครื่องปรุงรสที่ทำออกมาอย่างพิถึพิถันทั้ง 5 อย่าง รสชาติที่ได้นั้นยอดเยี่ยม ทั้งยังเป็นจานที่มีความเรียบง่ายควบคู่ไปกับความซับซ้อนในเวลาเดียวกัน อาหารจานเคียงคือราซัม (rasam) ซุปแบบอินเดียใต้รสเผ็ดที่ปรุงด้วยเครื่องเทศอย่างดีและทำออกมาได้อย่างน่าจดจำ เคียงกับเครื่องเทศที่เข้ากันได้ดีกับจานอาหารอินเดียที่ปรุงโดยเชฟชาวชมพูทวีปฝีมือดีของที่นี่
ปลาทราย/ หน่อไม้ (Sand whiting fish/ bamboo shoot)
Resonance (อาหารโมเดิร์น, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)ปลาทรายของเชฟชาวญี่ปุ่นผ่านการปรุงด้วยความชำนาญ เสิร์ฟมาในสไตล์เทมปุระ ตัวเนื้อปลาห่อหุ้มด้วยแป้งที่ทอดจนกรอบขึ้นสีทอง ปรุงรสออกมาได้สมบูรณ์แบบ เนื้อปลาด้านในผ่านการรังสรรค์ออกมาจนได้เนื้อที่แน่นและร่อนออกมาเป็นชิ้น ๆ ได้อย่างงดงาม เนื้อปลาสดหวาน ส่วนเนื้อแป้งก็ไม่อมน้ำมัน เป็นรสสัมผัสที่ตัดกันได้อย่างดีเยี่ยม พิวเรจากผลพลัมมีเนื้อเนียน หวานอมเปรี้ยวจากรสผลไม้เล็กน้อยแบบพอดิบพอดี กินกับใบงาที่วางด้านล่างเพื่อเพิ่มรสสมุนไพรให้กับอาหารจานนี้ในเวลาเดียวกัน
ปูทะเลเหนือ เสิร์ฟกับอาโฮ บลังโกและองุ่น (North Sea crab, ajo blanco, grapes)
Mia (อาหารโมเดิร์น, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)เมนูนี้ผ่านการนำเสนอที่ซับซ้อนทั้งยังแสดงถึงความมั่นใจของเชฟ ในจานจัดเรียงด้วยเนื้อปูที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันในซอสมายองเนสที่ฉาบบาง ๆ ส่วนอาโฮ บลังโก (ajo blanco) ที่ทำจากมันสำปะหลังมีเนื้อครีมที่เนียนนุ่มเข้ากันได้ดีและไม่กลบรสเนื้อปูที่สดใหม่ ทั้งยังล้อไปกับความหวานเล็กน้อยจากองุ่นสุกที่ฝานบาง ๆ ในขณะที่ตุอีล (tuile) ชิ้นบางที่ประดับมาช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้น่าสนใจ จานนี้บ่งบอกถึงการปรุงอาหารอย่างมั่นใจของเชฟ ทั้งยังสื่อถึงการทำอาหารด้วยความแม่นยำอันน่าประทับใจ
ภาพเปิด: © Michelin, Mia