ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำทั้งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและราคาที่เหมาะสำหรับผู้ที่สรรหารสอร่อยที่แตกต่างกัน และหลังจากเปิดตัวร้านอาหารดาวมิชลินหน้าใหม่กันไปแล้ว ซึ่งมีร้านที่ได้รับดาวมิชลินหน้าใหม่รวมถึง 6 ร้านด้วยกัน แต่จานไหนจากร้านรางวัลดาวมิชลินในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 เหล่านี้ที่มัดใจผู้ตรวจสอบแบบที่พวกเขายังจำรสชาติชวนประทับใจได้อย่างดีบ้าง
เราไปหาคำตอบกัน
!['ด๊องแด๊ง' เป็นเส้นที่ทำจากแป้งคล้ายขนมจีน แต่บีบให้มีขนาดใหญ่กว่าและสั้นกว่าเส้นขนมจีนปกติ เชฟตามเลือกเสิร์ฟในซอสหมึกดำที่อร่อยเหาะ (© Michelin)](https://d3h1lg3ksw6i6b.cloudfront.net/media/image/2023/12/06/defd1e08efbe482ab250d497876f9323_MICHELIN_Inspectors_Share_Their_Most_Memorable_Dishes_in_the_MICHELIN_Guide_Thailand_2.jpg)
ด๊องแด๊งหมึกดำ (Black squid ink 'Dong Dang' noodles with lemongrass)
บ้านเทพา (อาหารไทยร่วมสมัย, รางวัลสองดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)เราชอบความเรียบง่ายของอาหารจานนี้มาก สีเส้น ‘ก๋วยเตี๋ยว’ ดำวาว และ “ว้าว” เอามาก ๆ รสชาติอาหารมีความซับซ้อน เส้นด๊องแด๊งแบบอีสานเนื้อแน่นและทำออกมาได้สม่ำเสมอเท่ากัน ใส่ตะไคร้หั่นละเอียดที่ไม่ได้กลบรสชาติ แต่เสริมรสให้ลึกล้ำขึ้นไปอีก ทั้งยังชวนรู้สึกสดชื่นตัดกับรสชาติเข้มข้นของปลาหมึกได้ดิบดี แสดงถึงทักษะอันเยี่ยมยอดในการทำอาหารที่แท้จริง
![เมนูทุเรียนที่ยากจะลืมของร้าน Gaa (© Michelin)](https://d3h1lg3ksw6i6b.cloudfront.net/media/image/2023/12/06/6f95765e312642fe880137d00f2857fc_MICHELIN_Inspectors_Share_Their_Most_Memorable_Dishes_in_the_MICHELIN_Guide_Thailand_2.jpg)
'เรื่องเล่าทันดูรี' ทุเรียน กระเจี๊ยบ ขนมปัง และผักดอง (The 'Tandoori Story' durian, roselle saag, bread and pickles)
Gaa (อาหารอินเดียร่วมสมัย, รางวัลสองดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)สำหรับเราแล้ว เมนูทุเรียนนี้ตอกย้ำถึงความเป็นเลิศของร้าน Gaa อาหารจานนี้นำเสนอผลไม้อย่างทุเรียนที่ไม่เหมือนใคร ราดด้วยซอสครีมทำจากจากผลไม้หลากหลายชนิด พนักงานเสิร์ฟราดซอสเครื่องเทศเข้มข้นแบบไม่อั้น เมื่อคลุกเคล้ากันแล้วได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน ผักดองต่าง ๆ ก็รสชาติดีมาก รวมถึงโรตีที่ทางร้านทำสดใหม่ทาด้วยกีก่อนจะนำทุเรียนและส่วนผสมอื่น ๆ มาวางด้านบน เท่านั้นยังไม่พอยังมีซาก (saag) ที่เป็นผักโขมเครื่องเทศอินเดียที่เสริมรสได้อร่อยมาก และทำอย่างประณีตเป็นพิเศษ ถือเป็นจานที่ปิดท้ายอาหารคาวได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง
![หอยเชลล์ของร้าน INDDEE (© Michelin)](https://d3h1lg3ksw6i6b.cloudfront.net/media/image/2023/12/06/eb5a7ad47f0845e3986b05a9ceb99965_MICHELIN_Inspectors_Share_Their_Most_Memorable_Dishes_in_the_MICHELIN_Guide_Thailand_2.jpg)
หอยเชลล์ (Scallop)
INDDEE (อาหารอินเดียร่วมสมัย, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)หอยเชลล์สด ๆ เสิร์ฟมาในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เสริมรสชาติของหอยเชลล์ให้โดดเด่น เนื้อหอยถูกหั่นเป็นทรงลูกเต๋าอย่างประณีต รับประทานแบบทาร์ทาร์ที่ปรุงรสได้อย่างดีเยี่ยม โรยหน้าด้วยอินจิปูลี (injipuli) ที่เป็นแกงเปรี้ยวหวานสีน้ำตาลเข้มรสเผ็ดที่ทำจากขิง มะขาม พริกเขียว และน้ำตาลโตนดได้อย่างดีเลิศ ตามด้วยเครื่องปรุงรสที่ทำออกมาอย่างพิถึพิถันทั้ง 5 อย่าง รสชาติที่ได้นั้นยอดเยี่ยม ทั้งยังเป็นจานที่มีความเรียบง่ายควบคู่ไปกับความซับซ้อนในเวลาเดียวกัน อาหารจานเคียงคือราซัม (rasam) ซุปแบบอินเดียใต้รสเผ็ดที่ปรุงด้วยเครื่องเทศอย่างดีและทำออกมาได้อย่างน่าจดจำ เคียงกับเครื่องเทศที่เข้ากันได้ดีกับจานอาหารอินเดียที่ปรุงโดยเชฟชาวชมพูทวีปฝีมือดีของที่นี่
![ปลาทรายที่เชฟชุนสึเกะทำออกมาอร่อยน่าเอร็ดอร่อย (© Michelin)](https://d3h1lg3ksw6i6b.cloudfront.net/media/image/2023/12/06/e43da1ec56914f69aa2fc9bee2584b50_MICHELIN_Inspectors_Share_Their_Most_Memorable_Dishes_in_the_MICHELIN_Guide_Thailand_2.jpg)
ปลาทราย/ หน่อไม้ (Sand whiting fish/ bamboo shoot)
Resonance (อาหารโมเดิร์น, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)ปลาทรายของเชฟชาวญี่ปุ่นผ่านการปรุงด้วยความชำนาญ เสิร์ฟมาในสไตล์เทมปุระ ตัวเนื้อปลาห่อหุ้มด้วยแป้งที่ทอดจนกรอบขึ้นสีทอง ปรุงรสออกมาได้สมบูรณ์แบบ เนื้อปลาด้านในผ่านการรังสรรค์ออกมาจนได้เนื้อที่แน่นและร่อนออกมาเป็นชิ้น ๆ ได้อย่างงดงาม เนื้อปลาสดหวาน ส่วนเนื้อแป้งก็ไม่อมน้ำมัน เป็นรสสัมผัสที่ตัดกันได้อย่างดีเยี่ยม พิวเรจากผลพลัมมีเนื้อเนียน หวานอมเปรี้ยวจากรสผลไม้เล็กน้อยแบบพอดิบพอดี กินกับใบงาที่วางด้านล่างเพื่อเพิ่มรสสมุนไพรให้กับอาหารจานนี้ในเวลาเดียวกัน
![จานที่ชูโรงรสชาติของปูแห่งร้าน Mia (© Michelin)](https://d3h1lg3ksw6i6b.cloudfront.net/media/image/2023/12/06/ef05a1a38e704162b2a4d8ae03afd866_MICHELIN_Inspectors_Share_Their_Most_Memorable_Dishes_in_the_MICHELIN_Guide_Thailand_2.jpg)
ปูทะเลเหนือ เสิร์ฟกับอาโฮ บลังโกและองุ่น (North Sea crab, ajo blanco, grapes)
Mia (อาหารโมเดิร์น, รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน, คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567)เมนูนี้ผ่านการนำเสนอที่ซับซ้อนทั้งยังแสดงถึงความมั่นใจของเชฟ ในจานจัดเรียงด้วยเนื้อปูที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันในซอสมายองเนสที่ฉาบบาง ๆ ส่วนอาโฮ บลังโก (ajo blanco) ที่ทำจากมันสำปะหลังมีเนื้อครีมที่เนียนนุ่มเข้ากันได้ดีและไม่กลบรสเนื้อปูที่สดใหม่ ทั้งยังล้อไปกับความหวานเล็กน้อยจากองุ่นสุกที่ฝานบาง ๆ ในขณะที่ตุอีล (tuile) ชิ้นบางที่ประดับมาช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้น่าสนใจ จานนี้บ่งบอกถึงการปรุงอาหารอย่างมั่นใจของเชฟ ทั้งยังสื่อถึงการทำอาหารด้วยความแม่นยำอันน่าประทับใจ
ภาพเปิด: © Michelin, Mia