ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า อาหารไทยนั้น เป็นอาหารที่หลายคนหลงใหล ทั้งรสชาติที่ครบครันและรสสัมผัสที่โดดเด่น เรียกได้ว่าเป็นอาหารยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของผู้ตรวจสอบมิชลินได้ที่นี่
5 อาหารไทยจานโปรดของผู้ตรวจสอบมิชลินชาวไทย
1. ข้าว กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) - น้ำพริกไข่ปูสมัยนี้หาน้ำพริกอร่อยๆ ได้ยาก แต่ที่ร้านข้าวมีน้ำพริกมากมายให้เลือกสรร แต่น้ำพริกที่อร่อยที่สุดของที่นี่ ต้องยกให้น้ำพริกไข่ปู เสิร์ฟพร้อมผักสด และเครื่องแนม อย่าง ปลาทูที่ทอดได้อย่างพอดี น้ำพริกไข่ปูจานนี้มีความกลมกล่อมในรสชาติ ครบรส ทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และหวาน ถือเป็นน้ำพริกที่ดีที่สุดที่เคยได้กิน ให้ความรู้สึกอบอุ่นจนหวนคิดถึงฝีมือคุณยาย
2. Redbox เชียงใหม่ (รางวัลมิชลินเพลท) - สะเต๊ะไก่ น้ำจิ้มสะเต๊ะ และอาจาด
สะเต๊ะไก่ที่นี่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยได้กินมา เนื้อไก่หมักด้วยกะทิและเครื่องเทศ แล้วนำมาย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะเต๊ะไก่ของร้านนี้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะและอาจาด ซึ่งเป็นสูตรของทางร้านเอง น้ำจิ้มสะเต๊ะมีรสสัมผัสเข้มข้นและรสอร่อยหวานเค็ม ส่วนอาจาดนั้นมีรสหวานอมเปรี้ยว เพราะทำมาจากน้ำเชื่อมและน้ำส้มสายชู ก่อนจะเติมแตงกวา หอมแดง และพริกลงไป รสชาติของน้ำจิ้มสะเต๊ะและอาจาดจึงเข้ากันได้ดีกับรสชาติของสะเต๊ะไก่
3. ชิม บาย สยาม วิสดอม กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) - ต้มยำปลาช่อนนาแบบโบราณ (ร.ศ.109)
ต้มยำปลาช่อนนาแบบโบราณ เป็นต้มยำที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย เชฟรังสรรค์น้ำต้มยำได้ครบทุกรสชาติ และกลมกล่อมอย่างไร้ที่ติ ปลาช่อนที่ใช้มีความสดใหม่ และนำมาปรุงอย่างพิถีพิถัน เป็นต้มยำที่มีกลิ่นหอมรัญจวนด้วยสมุนไพรที่สกัดโดยใช้เทคนิคชั้นสูง
4. กินกับอี๋ ภูเก็ต (รางวัลมิชลินเพลท) - น้ำชุบเยาะ
น้ำชุบเยาะเป็นอีกเมนูที่หารับประทานได้ไม่ง่ายนัก เพราะน้ำชุบเยาะที่อร่อยต้องมีความกลมกล่อม และวัตถุดิบที่ใช้ต้องมีความสดใหม่ ทั้งปลาจิ้งจั้ง พริกสด มะม่วงดิบ และสละอ่อน โดยนำมาตำให้เข้ากันกับกะปิ (ใช้ครกและสาก) ก่อนปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลา เมื่อได้กินคำแรกจะสัมผัสได้ถึงความเผ็ดร้อนจากพริก แต่ความเผ็ดร้อนนี้เข้ากันได้ดีกับรสเปรี้ยวของมะม่วงดิบ สละอ่อน และมะนาว รวมถึงรสเค็มของปลาจิ้งจั้ง และกะปิ
5. ฤดู กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) - Squid with Lemongrass and Squid Ink
จานนี้เป็นจานที่เชฟรังสรรค์ได้น่าประทับใจมากๆ เหนือกว่าที่คาดหวังไว้เสียอีก หมึกที่ฉีกเป็นเส้นๆ เข้ากันได้ดีกับน้ำซอสที่มีรสเปรี้ยวและรสเผ็ด ถือเป็นการผสานรสชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลิ่นหอมของตะไคร้กรอบด้านบนช่วยขับรสของหมึกได้อย่างดีเยี่ยม แต่ที่สุดยอดที่สุดของจานนี้ คือ น้ำหมึกที่เข้มข้น ในตอนแรกคิดว่าขม แต่พอได้แตะที่ลิ้นก็พบว่าต่างจากที่คิดไว้โดยสิ้นเชิง เพราะมีรสชาติเหมือนน้ำยำ เมนูนี้ถือเป็นจานที่ครบทั้งรสชาติและรสสัมผัสอย่างแท้จริง
5 อาหารไทยจานโปรดของผู้ตรวจสอบมิชลินต่างชาติ
1. เมธาวลัย ศรแดง กรุงเทพฯ (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) – แกงเผ็ดเป็ดย่างแกงเผ็ดเป็ดย่างของที่นี่ มีความละเมียดละไม ด้วยเนื้อเป็ดย่างนุ่มๆ สไลด์บางๆ และสับปะรดที่หวานกำลังดีตัดกับความมันของเนื้อเป็ด กลิ่นหอมของพริกแกงและกะทิชวนให้ลิ้มลอง ทางร้านใส่ใบมะกรูดและพริกเพื่อรสชาติอันร้อนแรง
2. ครัวย่า เชียงใหม่ (รางวัลมิชลินเพลท) - ผัดไทย
ครัวย่าให้ความสำคัญในการเลือกสรรวัตถุดิบและเทคนิคการปรุง ดังนั้นผัดไทยร้านนี้จึงใช้กุ้งแม่น้ำที่มีความสด และถั่วลิสงคั่วใหม่ ก่อนห่อด้วยไข่บางๆ แต่ยังคงความกรอบเล็กน้อย ขับรสชาติด้วยน้ำมะขาม จนผู้ตรวจสอบของเราหวนนึกถึงอดีตเมื่อครั้งได้มาเยือนเมืองไทยเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
3. บ้านส้มตำ กรุงเทพฯ (รางวัลบิบกูร์มองด์) – ส้มตำไทย
บ้านส้มตำมีเมนูส้มตำหลากหลายให้เลือกสรร จุดเด่นของร้านอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและเน้นความสดใหม่ จานที่ชอบที่สุด คือ ส้มตำไทย รสชาติจัดจ้านแบบอีสานแท้ๆ อีกทั้งยังคุ้มค่าในราคาสนนอยู่ที่ 80 บาท ต่อจาน
4. แมกโนเลีย เชียงใหม่ (รางวัลมิชลินเพลท) – ข้าวเหนียวทุเรียนราดน้ำกะทิ
ขนมหวานรังสรรค์จากราชาผลไม้ ทุเรียนสุกสีเหลืองทองนี้ให้รสหวานมัน ผสานความอร่อยจากข้าวเหนียวมูน แล้วราดด้วยน้ำกะทิรสละมุน อร่อยจนอยากกลับมากินที่ร้านอีกครั้ง
5. เออ กรุงเทพฯ (รางวัลมิชลินเพลท) - แกงเขียวหวานไก่บ้าน
แกงเขียวหวานไก่บ้านของร้านเออ ครบเครื่องตามแบบฉบับแกงเขียวหวานทั่วไป ที่ใส่ทั้งเครื่องใน ตีนไก่ มะเขือเปราะ (แบบไม่หวง) พริกชี้ฟ้าแดง และน้ำกะทิเข้มข้น แต่ที่ร้านใช้เนื้อไก่จากฟาร์มเลี้ยงเปิดเพื่อได้เนื้อนุ่มชุ่มลิ้น แค่รับประทานคำแรกก็สัมผัสได้ถึงความอร่อยในทันที ถือเป็นเมนูจานที่ผสมผสานความรัสติกและความดั้งเดิมได้อย่างดีเยี่ยม
*หมายเหตุรูปภาพที่ใช้อาจไม่ตรงกับเมนูที่ผู้ตรวจสอบของเราพูดถึง
