ข่าวสารและกิจกรรม 4 minutes 30 มิถุนายน 2020

“มิชลิน ไกด์” พัฒนาฐานข้อมูลติดตามการกลับมาเปิดดำเนินงานของร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินทั่วโลก

“​บารอมิเตอร์” (Barometer) เป็นฐานติดตามข้อมูลทั่วโลกเพื่ออำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อร้านที่ได้รับดาวมิชลิน

คุณ Gwendal Poullennec ผู้อำนวยการนานาชาติของมิชลิน ไกด์ เผยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเปิดตัวแผนการติดตามว่า “ฐานข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตรวจประเมินความเป็นไปของวงการอาหารทั่วโลก และเราประสงค์ให้ทุกคนตระหนักว่าผลกระทบที่ธุรกิจร้านอาหารได้รับนั้นส่งต่อไปถึงภาคส่วนอื่น ๆ เช่นกัน”

ทุกสัปดาห์เครื่องมือนี้จะทำการจดบันทึกจำนวนร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินใน 35 ประเทศทั่วโลกที่เปิดให้บริการ โดยแต่ละร้านต้องผ่านเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ จึงจะถือว่าเปิดให้บริการตามปกติ เช่น ต้องเปิดทำการอย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์ โดยทุกวันอังคารตอนเย็น (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศฝรั่งเศส) ระบบจะอัปเดตข้อมูลของสัปดาห์ก่อนหน้า พร้อมทั้งผลการวิเคราะห์สถานการณ์เชิงคุณภาพ (Qualitative Comment) ทั้งนี้เครื่องมือติดตามข้อมูลหรือ “​บารอมิเตอร์” นี้ได้เริ่มรายงานข้อมูลมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ 10 ของปีนี้ (2-8 มีนาคม พ.ศ. 2563)

การรวบรวมข้อมูลนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อธุรกิจบริการอาหาร ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว โดยแสดงให้เห็นถึงอัตราการกลับมาเปิดให้บริการของร้านอาหารระดับดาวมิชลินทั่วโลกในภาพรวมแบบนาทีต่อนาที

ด้วยฐานการดำเนินงานที่มีอยู่ทั่วโลก มิชลิน ไกด์ ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญของตนมาร่วมอัปเดตการติดตามข้อมูล โดยผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ นำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอาหารระดับท้องถิ่นมาใช้ในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจดำเนินการผ่านการออกภาคสนาม การติดต่อ หรือการหาข้อมูลผ่านระบบดิจิทัล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านสาธารณสุขของแต่ละประเทศ

บทสรุปสัปดาห์ที่ 27:
75% ของร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินกลับมาเปิดบริการแล้วทั่วโลกในสัปดาห์ที่ 27 ถือว่าโตกว่าสัปดาห์ที่ 26 ขึ้น 5 จุด

ส่วนในยุโรปมีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในประเทศสเปนมีร้านที่ได้ดาวกลับมาเปิดแล้ว 68% (146 จาก 214 ร้าน) โดยโตขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ 26 จากเดิมที่ 44% ส่วนในไอร์แลนด์ ร้านอาหารสามารถเปิดบริการเป็นปกติได้แล้ว โดย 33% เปิดประตูต้อนรับนักกินแล้ว ขณะที่ในอิตาลีมี 81% ของร้านรางวัลดาวมิชลินที่กลับมาเปิด และในโปรตุเกสอยู่ที่ 74% 

ส่วนในเอเชีย สถานการณ์ยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีร้านรางวัลดาวมิชลินในสิงคโปร์กลับมาเปิดถึง 91% และ 72% สำหรับประเทศไทย โดยโตขึ้นจากเดิม 57% และ 52% จากสัปดาห์ก่อนตามลำดับ

สำหรับสหรัฐอเมริกา ร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการแล้ว โดยมี 11% หรือ 23 ร้านจากร้านดาวทั้งหมดที่กลับมาเปิด

บทสรุปสัปดาห์ที่ 26:
70% ของร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดบริการทั่วโลก โดยมีร้านอาหารจำนวน 2,224 ร้านกลับมาเปิดแล้วจากทั้งหมด 3,172 ร้าน

ในยุโรป ร้านอาหารในฝรั่งเศส สเปนและอิตาลี มีการปรับตัวกลับมาเปิดมากที่สุด โดยที่ฝรั่งเศส มีร้านที่ได้รางวัลดาวถึง 75% ที่กลับมาเปิดแล้ว (472 จาก 628 ร้าน) ซึ่งมีจำนวนเพิ่มจากเดิมที่ 394 ร้านในสัปดาห์ที่ 25 ในอิตาลีและสเปน จำนวนเปอร์เซ็นต์ร้านที่เปิดเพิ่มขึ้นมาที่ 78% และ 44% ตามลำดับ

นอกจากนั้นสถานการณ์ในเอเชียยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่สหรัฐอเมริกา จำนวนร้านที่ได้รางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดประตูต้อนรับนักกินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยอยู่ที่ 17 ร้าน (8% จากทั้งหมด) เมื่อเทียบกับ 13 ร้านในสัปดาห์ที่ 25

บทสรุปสัปดาห์ที่ 25:
66% ของร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดบริการทั่วโลกในสัปดาห์ที่ 25 ไม่ว่าจะรับประทานอาหารในร้านหรือนั่งบริเวณที่นั่งด้านนอก (2,094 จากทั้งหมด 3,172 ร้าน) โดยมีร้านรางวัล 1 ดาวมิชลินเปิดตัวแล้ว 66% (1,702 จาก 2,563) และมี 65% ของร้านรางวัลมิชลิน 2 ดาวที่กลับมาเปิดแล้ว (311 จาก 480 ร้าน) และ 63% ของร้านรางวัล 3 ดาวมิชลินกลับมาเปิดแล้วเช่นกัน (81 จากทั้งหมด 129 ร้าน)

ทางฝั่งยุโรป ทั้งฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และอิตาลี ร้านที่ได้ดาวกลับมาเปิดประตูต้อนรับนักกินแล้วจำนวน 63%, 35%, 44% และ 73% ตามลำดับ ขณะที่ในสโลวีเนีย (ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวมิชลิน ไกด์เล่มแรกไปหมาด ๆ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน) มีร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลิน 6 แห่งที่เปิดตัวทั้งหมดแล้ว ส่วนที่ฮังการี ร้านอาหารที่ได้ดาวก็กลับมาเปิดบริการเป็นร้านแรกเช่นกัน

สำหรับในเอเชีย สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสิงคโปร์ที่ร้านอาหารกลับมาเปิดและต้อนรับลูกค้าแล้วถึง 57% ส่วนในประเทศไทย ร้านที่ได้รับดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการแล้ว 52% จาก 34% เมื่อสัปดาห์ที่ 24

สำหรับสหรัฐอเมริกา จำนวนร้านที่ได้รับดาวกลับมาดำเนินการเป็นปกติเพิ่มขึ้นเป็น 13 ร้าน (หรือ 6%) เทียบจากเพียง 6 ร้านในสัปดาห์ก่อนหน้า


บทสรุปสัปดาห์ที่ 24:

60% ของร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดบริการแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะรับประทานอาหารในร้านหรือนั่งบริเวณด้านนอก ถือว่าเติบโตขึ้นจากสัปดาห์ที่ 23

ร้านอาหารฝั่งยุโรปกลับมาเปิดบริการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยในฝรั่งเศสมีเพิ่มขึ้น 52% (328 ร้านจาก 628 ร้านที่ได้ดาวมิชลิน) ในอิตาลีเพิ่มขึ้นเป็น 66% จาก 56% เมื่ออาทิตย์ก่อน และในสเปนเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 24% ส่วนเบลเยียมกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้นเป็น 84% แล้ว โดยร้านติดดาวทั้งหมดในลักเซมเบิร์กได้เปิดประตูต้อนรับคนรักอาหารแล้ว

สถานการณ์ฝั่งเอเชียเริ่มคลี่คลายคงที่อย่างไม่น่าเป็นห่วง

ส่วนฝั่งสหรัฐอเมริกา จำนวนร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินเริ่มกลับมาเปิดบริการเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมี 2 ร้านในวอชิงตัน และ 3 แห่งในแคลิฟอร์เนีย

บทสรุปสัปดาห์ที่ 23:

มีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินทั่วโลกกลับมาเปิดตัวมากกว่า 50% (1,583 จากทั้งหมด 3,165 ร้าน) ในสัปดาห์นี้ โดยเพิ่มขึ้นจาก 33% จากสัปดาห์ก่อนหน้า

การกลับมาเปิดร้านในยุโรปโดยเฉพาะในฝรั่งเศสนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 208 ร้านจาก 628 ร้านที่ได้ดาวมิชลิน ขณะที่ในเฮลซิงกิมีร้านที่ได้ดาวเปิด 5 จาก 6 ร้าน และที่กลับมาอย่างเห็นได้ชัดที่สุดคือในเนเธอร์แลนด์ที่มีร้านอาหารกลับมาเปิดมากถึง 93% แล้ว ส่วนในลักเซมเบิร์กกลับมาเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 89% ส่วนในเยอรมนี อิตาลี และสเปนค่อย ๆ กลับมาดำเนินกิจการปกติเช่นกัน

สำหรับในเอเชีย สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดประตูต้อนรับนักกินเป็น 94% ในญี่ปุ่น และ 31% สำหรับประเทศไทย และ 96% สำหรับกรุงปักกิ่ง

และในอเมริกาที่การสั่งอาหารกลับบ้านกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ร้านอาหารในกรุงวอชิงตันเริ่มกลับมาเปิดบริการอีกครั้งไม่ว่าจะให้นั่งรับประทานในร้านหรือนอกร้านในสัปดาห์ที่ 23

บทสรุปสัปดาห์ที่ 22:
ในสัปดาห์ที่ 22 สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้านรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 33% (1,038 ร้าน จากทั้งหมด 3,165 ร้าน) เมื่อเทียบกับ 27% ในสัปดาห์ที่ 21

ขณะเดียวกันทางฝั่งยุโรปร้านอาหารในประเทศสเปน โปรตุเกส มอลตา กรีซ สาธารณรัฐเช็ก (กรุงปราก) เริ่มกลับมาเปิดบริการ ขณะที่ในกรีซ (กรุงเอเธนส์) และสาธารณรัฐเช็ก (กรุงปราก) ร้านอาหารรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการแล้ว 100% ส่วนในเยอรมนี ร้านที่กลับมาเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 71% เทียบกับ 49% ในสัปดาห์ที่ 21 และเพิ่มขึ้น 33% ในอิตาลี เทียบกับ 16% ในสัปดาห์ที่ 21 เช่นกัน

ส่วนสถานการณ์ในเอเชียก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร้านในประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย และเกาหลีใต้ที่ทยอยกลับมาเปิดบริการเช่นกัน

บทสรุปสัปดาห์ที่ 21:

สถานการณ์ทั่วโลกปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ร้านรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น 27% (842 ร้าน จากทั้งหมด 3,165 ร้าน) เมื่อเทียบกับ 21% จากการประเมินในช่วงสัปดาห์ที่ 20

ขณะเดียวกันทางฝั่งยุโรปร้านอาหารในประเทศออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และเดนมาร์กเริ่มทยอยเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น โดยคิดเป็น 58% ของร้านรางวัลดาวมิชลินทั้งหมดในทวีป ส่วนสถานการณ์ในเอเชียก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ร้านรางวัลดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการแล้วถึง 71% เมื่อเทียบกับ 65% ในช่วงสัปดาห์ที่ 20

บทสรุปสัปดาห์ที่ 20:
สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินทยอยกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 21% (653 ร้าน จากทั้งหมด 3,165 ร้าน) จาก 14% ในช่วงสัปดาห์ที่ 19

ทั้งนี้ ในทวีปยุโรปร้านอาหารระดับดาวมิชลินเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในประเทศออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และโครเอเชีย รวมทั้งในอิตาลีที่เพิ่งมีร้านอาหารระดับดาวมิชลินกลับมาเปิดให้บริการเป็นร้านแรก สำหรับทวีปเอเชียสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่น ซึ่งร้านอาหารขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการโดยเชฟท้องถิ่นได้ทยอยกลับมาเปิดบริการแล้ว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนวงการอาหารทั่วโลกท่ามกลางภาวะวิกฤตินี้

มิชลิน ไกด์ ร่วมส่งกำลังใจให้วงการอาหารทั่วโลกผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้โดยได้เริ่มเผยแพร่ข้อมูลผลการติดตามการเปิดให้บริการของร้านอาหารระดับดาวมิชลินแล้ว สามารถติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ https://guide.michelin.com/th 

ข่าวสารและกิจกรรม

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ