สิ่งที่น่าสนใจ 3 minutes 09 มิถุนายน 2020

รสชาติและวัฒนธรรมริมกว๊านพะเยา

กว๊านพะเยา แหล่งน้ำหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต งามพร้อมด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติ

จังหวัดพะเยา หรือเมืองภูกามยาว เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวสงบเงียบอยู่ท่ามกลางทิวเขาในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย มีภาษาพื้นถิ่นที่แตกต่างจากภาษาเหนือทั่วไป เมื่อย้อนกลับไปในอดีต พะเยาเป็นพื้นที่หนึ่งในสมัยราชวงศ์ลัวะจักราช แห่งเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน ก่อนจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเชียงรายและแยกออกตัวมา ตัวเมืองพะเยาตั้งอยู่ติดกับกว๊านพะเยา ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนาน เมืองพะเยาจึงเต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมรวมถึงรสชาติอาหารที่แสนอร่อย

เมื่อมาเยือนพะเยาแล้ว จุดเยี่ยมชมแรกที่ไม่ควรพลาด คือ กว๊านพะเยา ในภาษาเหนือ “กว๊าน” หมายถึง ทะเลสาบหรือบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ กว๊านพะเยาจึงเป็นสัญลักษณ์และคำขวัญของจังหวัดด้วย และหนึ่งในกิจกรรมในการมาเยือนกว๊านพะเยาก็คือ การรับประทานอาหารพร้อมชมทิวทัศน์ริมบึง เมนูหลักจึงเป็นอาหารที่ปรุงจากปลาน้ำจืด เช่น ปลานิลนึ่งน้ำพริกหนุ่ม

กว๊านพะเยา
กว๊านพะเยา

กรรมวิธีในการปรุงปลานิลนึ่งนั้น จะนำปลานิลมาทำความสะอาดแล้วนำตะไคร้ ข่าที่หั่นชิ้นเล็ก ๆ และใบมะกรูดฉีกแล้วใส่เข้าไปในตัวปลาก่อนนำไปนึ่ง แล้วรับประทานควบคู่กับน้ำพริก ซึ่งก็คือ น้ำพริกหนุ่ม ที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือตามด้วยคู่ผักลวก เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง และถั่วฝักยาว ถึงแม้จะเป็นเมนูง่ายๆ แต่เสน่ห์ของเมนูนี้คือความสดหวานของเนื้อปลา ที่หอมสมุนไพร ซึ่งเข้ากันได้อย่างดีกับรสเผ็ดจากน้ำพริกหนุ่ม

Phayao-Kwan Phayao.jpg

นอกเหนือจากเป็นศูนย์กลางของเมืองและแหล่งปลาน้ำจืดแล้ว กว๊านพะเยายังเป็นศูนย์กลางความเลื่อมใสศรัทธาของชาวเมือง เพราะเป็นที่ตั้งของวัดติโลกอาราม ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดกลางน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย ตัววัดนั้นตั้งอยู่บนเกาะกลางกว๊านพะเยา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ที่มีอายุกว่า 500 ปี และจะมีการเวียนเทียนในทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ เดือน ๖ เดือน ๘ ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาฬหบูชา

Sukhothai-000782.jpg


การเวียนเทียนในวันสำคัญทั้ง ๓ ที่จัดขึ้นในช่วงค่ำที่กว๊านพะเยา ยังมีความแตกต่างจากที่อื่น คือ ขบวนแห่ประกอบด้วยผู้คนที่มาร่วมพิธี นำดอกไม้ ธูป เทียน นั่งเรือพายวนรอบวัด ๓ รอบ เพื่อสักการะหลวงพ่อศิลา ท่ามกลางแสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง รายล้อมไปด้วยแสงเทียนและเงาที่สะท้อนระยิบระยับอยู่กลางน้ำ โดยมีเบื้องหลังมืดสนิท เป็นภาพที่งดงามสงบเย็น เปี่ยมไปด้วยศรัทธาน่าชมยิ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการล่องเรือชมวัดติโลกอาราม สามารถใช้บริการเรือจ้าง ซึ่งเปิดให้บริการระหว่างเวลา 08:30 น. ถึง 17:00 น. ในราคา 30 บาท พร้อมด้วยชุดดอกไม้ ธูป และเทียน

อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้คือ แกงส้มตูน เมนูแกงล้านนานี้มีส่วนประกอบสำคัญคือลำต้นคุง หรือ ต้นตูน โดยจะนำมาปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นๆ ก่อนจะนำไปผสมเกลือและบีบน้ำออกจนแห้ง จากนั้นนำไปผสมกับพริกแกง ซึ่งจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภาค เช่น พริกแกงใต้ที่เผ็ดร้อน มักจะมีขมิ้นเป็นส่วนผสมหลัก จึงมีสีออกเหลือง สำหรับพริกแกงส้มตูนนั้น มีส่วนผสมจากเนื้อปลานำไปโขลกกับเครื่องพริกแกงทำให้ได้รสสัมผัสของเนื้อปลา ซึ่งอาจใช้ปลาย่าง กุ้งแห้งหรือกะปิ ส่วนผสมอื่นยังมี มะเขือเทศ และใบแมงลัก เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวและกลิ่นหอม น้ำแกงใสเหมือนน้ำซุป เช่นเดียวกับแกงอื่น ๆ ของภาคเหนือ ที่ไม่มีไขมัน เนื่องจากไม่ใส่กะทิ

แกงส้มตูน
แกงส้มตูน

หากมองจากกว๊านพะเยาไปทางดอยบุษราคัมในช่วงพระอาทิตย์ตกจะเห็นสีทองเรืองรองอยู่ในแสงใกล้พลบค่ำ สีทองอร่ามที่เห็นนั้น มาจากวัดอนาลโยทิพยาราม ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า ภายในวัดมีโบราณวัตถุล้ำค่า วัดป่าอนาลโยนั้นยังเป็นวัดที่โดดเด่นด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานวัฒนธรรมล้านนา พม่า และไทใหญ่เข้าด้วยกัน นอกจากพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแล้ว วัดอนาลโยยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางต่างๆ อาทิ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางลีลา พระพุทธรูปปางนาคปรก และปางอื่น ๆ อีกหลายองค์ ภายในเขตวัดยังมีองค์รัตนเจดีย์ที่มีรูปแบบอินเดียพุทธคยา และเก๋งจีนที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม รวมถึงหอพระแก้วมรกตจำลอง พระบุษราคัม พระเงิน พระทอง และพระนาค ให้สักการะและเยี่ยมชมได้อีกด้วย

วัดป่าอนาลโย
วัดป่าอนาลโย

เช่นเดียวกับเชียงราย พะเยายังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับมรดกทางวัฒนธรรมจากไทใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นในสถาปัตยกรรมและวัดวาอารามต่าง ๆ แต่ยังรวมไปถึงวัฒนธรรมในการรับประทานอาหารอีกด้วย หนึ่งในอาหารไทใหญ่ที่เป็นที่นิยมในพะเยาก็คือ ข้าวแรมฟืน โดยทำมาจากแป้งข้าวจ้าวโม่ ผสมน้ำและน้ำปูนใสและนำไปต้มจนสุกแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน จึงเป็นที่มาของชื่อแรมฟืน หรือแรมคืน โดยแป้งที่สุกแล้วจะถูกนำมาตัดเป็นก้อนพอดีคำ รับประทานกับน้ำปรุงที่มีส่วนผสมของน้ำผักกะหล่ำปลีดอง น้ำตาลอ้อย ถั่วเน่า ข้าวแรมฟืนนั้นไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับผู้มาเยือนพะเยาที่เป็นมังสวิรัติ ทั้งยังสามารถเพิ่มรสชาติให้อาหารจานนี้ได้ด้วยน้ำพริกขิง ประกอบด้วย ขิง และถั่วลิสงคั่ว รับประทานพร้อมกับผักลวก เช่น ถั่วงอก ถั่วฝักยาว เติมพริกขี้หนูป่น และกระเทียมเจียว สำหรับผู้ที่ต้องการชิมข้าวแรมฟืน แนะนำให้แวะไปที่ ร้านป้าจิ่ง ซึ่งเปิดร้านสืบทอดกันเป็นเวลากว่า 53 ปี

ข้าวแรมฟืน
ข้าวแรมฟืน

แม้พะเยาจะเป็นจังหวัดที่เล็กกว่าจังหวัดอื่นๆ ของล้านนาอย่างเชียงรายและเชียงใหม่ แต่การได้เดินทางมาเมืองพะเยา จะทำให้คุณตกหลุมรักในความมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรม เมื่อได้มาเยือนความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและซึมซาบกับประวัติศาสตร์แล้ว หาโอกาสลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอื่น ๆ เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริงของเมืองพะเยาด้วย

สถานที่ท่องเที่ยว
1. หอวัฒนธรรมนิทัศน์ วัดศรีโคมคำ
2. วัดอนาลโยทิพยาราม ดอยบุษราคัม
3. ล่องเรือชมวัดติโลกอาราม พร้อมชมอาทิตย์อัสดงที่กว๊านพะเยา
4. พระธาตุจอมทอง
5. ศูนย์วัฒนธรรมไทลื้อ (วัดหย่วน) อำเภอเชียงคำ
6. วัดนันตาราม
7. ชมการตกปลาน้ำจืดที่ท่าเรือบ้านสันแกลบดำ ชุมชนริมกว๊านพะเยา 

สิ่งที่น่าสนใจ

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ