การเดินลัดเลาะริมถนนและตรอกซอกซอยเล็ก ๆ แล้วพบกับสารพัดเมนูชวนน้ำลายสอที่ชวนให้หยุดชิมแทบทุกหัวถนนคือหนึ่งในเอกลักษณ์ของเมืองไทยที่ชวนค้นหา น่าลิ้มลอง และควรค่าต่อการส่งต่อความอร่อยให้ทั่วโลกได้รับรู้ และเมนูจานเด็ดอย่างส้มตำก็เป็นหนึ่งในทูตทางอาหารที่คนทั่วโลกต่างหลงรัก ทั้งยังจับมาพลิกแพลงและต่อยอดออกมาเป็นสารพัดตำได้นับไม่ถ้วน
และร้าน “บ้านส้มตำ” ก็ได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความอร่อยผ่านรสชาติ โดยใส่ใจรายละเอียดของส้มตำและอาหารทุกจานที่ส่งออกจากครกและครัว เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมเยียนได้พบกับความอิ่มอร่อยและจากไปพร้อมกับประสบการณ์อันน่าจดจำ จนเป็นที่รู้จักไปทั่ว
จากประสบการณ์กว่า 15 ปีที่สั่งสมมาตั้งแต่สาขาแรกที่พุทธมณฑลสาย 2 ทำให้บ้านส้มตำ สาขาสาทร คว้ารางวัลบิบ กูร์มองด์ได้ถึง 3 ปีติดต่อกัน ด้วยปรัชญาการทำอาหารที่เน้นความละเมียดและเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ผู้ผลิตส่งตรงถึงครัวกลาง ก่อนจะรังสรรค์เป็นอาหารจานเด็ดทุกจานที่เสิร์ฟเพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด มีครัวกลางคอยควบคุมคุณภาพและรสชาติให้เป็นไปตามมาตรฐาน ขณะเดียวกันก็มีตัวเลือกอาหารหลากหลาย แค่เมนูส้มตำก็มีให้เลือกมากมายกว่า 30 รายการ ซึ่งทุกรายการเหมาะรับประทานคู่กับเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยม และที่สำคัญคือวัตถุดิบซึ่งทางร้านคัดสรรจากในประเทศหลายภูมิภาคและใช้เฉพาะของดีที่สุดเท่านั้น
“การรับประทานอาหารไม่ใช่แค่อิ่มแล้วจบ แต่ควรสร้างประสบการณ์ให้ผู้ร่วมโต๊ะอาหารด้วย เราไม่อยากให้ร้านเข้าถึงยากจึงเลือกนำเสนออาหารริมทางที่ทุกคนจับต้องได้ ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า มีคุณภาพและมาตรฐานที่ชัดเจน ทุกคนมากินแล้วมีความสุข และกลายเป็นร้านอาหารที่ผู้คนนึกถึง” พีรณัช ชูดวง ทายาทรุ่นที่สองของบ้านส้มตำบอกกับเรา
ตำหลวงพระบาง
บ้านส้มตำเป็นหนึ่งในร้านแรก ๆ ที่ทำให้ตำหลวงพระบางกลายเป็นที่รู้จัก จุดเด่นของตำชนิดนี้คือเส้นใหญ่มะละกอ ซึ่งใช้มะละกอพันธุ์ดำเนินสะดวก ฝานแผ่นบางและใหญ่ ก่อนจะนำไปใส่ในน้ำแข็งเพื่อให้คงความสดและกรอบ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าชั้นดีต้มสุกและใส่กะปิแทนน้ำปู๋ ปรับสูตรเพื่อให้เข้ากับคนไทย เติมมะนาว น้ำปลา และมะเขือเทศสีดาฝานเม็ดเพื่อไม่ให้เกิดรสฝาด จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่วก่อนโรยหน้าด้วยแคบหมู ความนัวและเข้มข้นของตำหลวงพระบางเติมเต็มด้วยสัมผัสกรอบฉ่ำจากเส้นใหญ่มะละกอและความกรุบของแคบหมู ที่เราอยากให้คุณรับประทานพร้อมกันเพื่อรสชาติและความเพลินใจ
ด้วยความที่เส้นมะละกอผ่านการฝานให้เป็นแผ่นใหญ่ ตัวเส้นจึงเคลือบน้ำตำได้ดี อีกทั้งยังคงความกรอบธรรมชาติทุกคำที่เคี้ยว เหมาะแก่การสั่งมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และจะอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อได้รับประทานคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ เพื่อช่วยตัดรสชาติจานอื่น
ไก่ย่างมะแขว่น
รับประทานส้มตำกันเพลิน ๆ ก็คงต้องมีข้าวเหนียวไก่ย่างเพิ่มมาด้วยเป็นธรรมดา ไหนจะสั่งมาแกล้มกับเครื่องดื่มก็ยิ่งเข้ากัน ทางร้านแนะนำไก่ย่างมะแขว่น เมนูที่มีเครื่องเทศกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่นิยมรับประทานในจังหวัดน่านทางภาคเหนือ มีสรรพคุณช่วยขับลมในลำไส้ แก้วิงเวียนศีรษะ ลดความดันโลหิตและบำรุงหัวใจ
ไก่ของร้านคัดเฉพาะส่วนน่องติดสะโพก นำไปหมักกับมะแขว่นผลแก่จัดที่ผ่านการคั่วไฟอ่อน ๆ ก่อนจะนำไปทอด แล้วเสิร์ฟพร้อมมะแขว่นทอดอีกทีหนึ่ง ให้รสเค็มนำและซ่าเบา ๆ ที่ปลายลิ้นอันเนื่องมาจากมะแขว่น อย่าลืมรับประทานพร้อมแจ่วมะขามเปียกรสเปรี้ยวนัว หรือแจ่วข้าวคั่วสุดคลาสสิกก็ไม่เลวเหมือนกัน
ลาบเป็ด
ของขึ้นชื่อสำหรับเมนูลาบ เรียบง่ายแต่รสเยี่ยม และเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มหลายชนิด จานนี้เชฟใช้เฉพาะเป็ดส่วนอกติดมัน หนังน้อย สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น นำมารวนกับน้ำซุปเข้มข้น คลุกเคล้าในน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่วอย่างดี ครบรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และมันนิด ๆ โรยหน้าด้วยพริกแห้ง ใบมะกรูด และหอมเจียวซอย ถ้ารับประทานกับเพื่อนฝูงอย่าละสายตาไปจากจานนี้เด็ดขาด เพราะอาจจะหมดโดยไม่รู้ตัว
ปลากะพงนึ่งแจ่ว
เอาใจคนรักอาหารทะเลกับจานปลากันบ้าง ปลากะพงเนื้อแน่นขนาดรับประทานกับกลุ่มเพื่อนได้ 3-4 คน นำไปนึ่งพร้อมสมุนไพรไทยที่ยัดไส้ในพุงปลา ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม รากผักชี ตะไคร้ และข่า ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน พร้อมสารพัดผักลวกทั้งน้ำเต้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ดอกแค และผักกวางตุ้ง อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามิน รับประทานพร้อมแจ่วรสเข้มข้น หรือจะเหยาะน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบธรรมดาก็ไม่มีใครห้าม
อาหารร้านบ้านส้มตำยังราคาไม่แพง เมนูตำเริ่มต้นที่ราว ๆ 70 บาท ลาบ น้ำตกที่ราว 100 บาท และไก่ย่าง 80 บาท เหมาะแก่การพบปะเพื่อนฝูง เลี้ยงฉลองโอกาสพิเศษ หรือหาอะไรรองท้องหลังเลิกงานก็เหมาะเช่นกัน
ช้างยังได้ตีความความหมายของปรัชญาดังกล่าวว่ามีกุญแจสำคัญอยู่ 4 ดอก ได้แก่ ความละเอียดอ่อน สุนทรียะ การเคารพให้คุณค่า และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งปรัญญาดังกล่าวและรสชาติอันยอดเยี่ยมของเครื่องดื่มตราช้างนั้นช่างไปด้วยกันได้ดีกับวิถีการปรุงอาหารที่ละเมียดละไมและผลงานสร้างสรรค์ตำรับอีสานแสนอร่อยของร้านบ้านส้มตำ
ที่สำคัญอาหารเมนูเด็ดยังอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อได้รับประทานกับเพื่อนฝูงหรือบรรดาคนรู้ใจ ช่วยสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย
สำรองโต๊ะได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2630 3486, 06 1660 3486
อ่านต่อ: เครื่องดื่มเย็น ๆ กับอาหารสแซ่บอยู่คู่กันได้ฉันใด ซอยโปโลและไก่ทอดร้านเจ๊กีย่อมอยู่คู่กันได้ฉันนั้น