เลื่อนดูแล้วอาจจะแปลกใจว่าไหนแนะนำร้านอาหารยุโรป ทำไมไม่มีร้านอาหารอิตาเลียนหรือฝรั่งเศสเลย แต่อาหารยุโรปในความหมายของ “มิชลิน ไกด์” คือร้านที่ไม่ได้นำเสนออาหารชาติใดชาติหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ใช้เทคนิคการรังสรรค์อาหารของหลากหลายชาติยุโรป ลืมร้านโปรดอย่างแฌม บายฌองมิเชล โลรองต์หรืออีโนเตก้าไปชั่วคราว วันนี้เราจะพาคุณไปเปิดโลกนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ ๆ
กรุงเทพฯ
Sühring (รางวัล 2 ดาวมิชลิน)
คุณอาจจะคิดว่าทำไมไม่นับร้านนี้เป็นอาหารเยอรมัน พี่น้องเจ้าของก็เป็นชาวเยอรมัน แถมยังมีเมนู soft pretzel อีก นั่นเพราะเชฟ Mathias และ Thomas Sühring ผสานเทคนิคยุโรปกลางและยุโรปสมัยใหม่เข้ากับอาหารเยอรมัน อาหารชิ้นพอดีคำที่พวกเขารังสรรค์ออกมาเต็มไปด้วยลูกเล่น (apple beer เสิร์ฟในแก้วเบียร์จิ๋ว) แต่ยังวิจิตร (smoked sturgeon, buttermilk, and caviar on whole grain ชิ้นงาม) นอกจากนี้ สองพี่น้องยังกล้าฉีกกฎร้านหรูที่มักนำเสนอไวน์ชื่อดังบนลิสต์ยาวเหยียด พวกเขาเลือกเสิร์ฟไวน์ที่คนรู้จักไม่มาก แต่ไม่ควรพลาดจากเยอรมนี ออสเตรีย และแคว้นอาลซัส ประเทศฝรั่งเศส
Cuisine de Garden (รางวัลมิชลิน เพลท)
เมื่อถามเชฟแนน ลีลวัฒน์ มั่นคงติพันธ์ว่าได้แรงบันดาลใจสำหรับเมนู 10 คอร์สจากไหน คำตอบนั้นแสนเรียบง่าย “ธรรมชาติ” ชื่อเมนูอย่าง Fallen Leaf Nest และ Terrain ก็ตอกย้ำแนวคิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทุกเมนูบ่งบอกถึงเทคนิคแบบฝรั่งเศสและยุโรปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Goby fish en papillote Beef tartare with riceberry crumble หรือ Madeleines with passion fruit jam วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบท้องถิ่น แต่แขกสัมผัสประสบการณ์และฝีมือสไตล์ยุโรปของเชฟแนนได้อย่างชัดเจนผ่านจานต่าง ๆ ที่นำเสนอได้อย่างไร้ที่ติ/p>
เครดิตภาพ: ร้าน Cuisine de Garden
สาขาจามจุรีสแควร์ (รางวัลมิชลิน เพลท)
ร้านอาหารหรูในห้างอาจจะฟังดูไม่ยุโรปนัก แต่ร้านนี้ก็บุกเบิกแนวคิดดังกล่าว และได้พิสูจน์ตัวเอง กลายเป็นร้านโปรดของหลาย ๆ คน กระจกบานเต็มที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า และชั้นวางขวดน้ำขนาดใหญ่กลางร้านช่วยสร้างบรรยากาศจนคุณลืมไปเลยว่ามี 7-Eleven อยู่ใกล้ ๆ เมนูก็สวยงามหรูหรา ให้ความรู้สึกเป็นยุโรปไม่แพ้กัน เมนูยอดนิยมได้แก่ Chilean Sea Bass และ Cold Pasta with Abalone แต่ขอบอกว่าขนมปังอบร้อนที่เสิร์ฟก่อนอาหารก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน แถมเจ้าของร้านมีไร่องุ่นอยู่ที่นาปา วัลเล่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย จึงมั่นใจได้เลยว่าไวน์ลิสต์ละลานตาไม่แพ้รายการน้ำ
ภูเก็ต
บามพอต (รางวัลมิชลิน เพลท)
เปิดมาด้วย Wild Mushroom Tagliatelle จากเส้นทำมือ และอาหารอังกฤษอย่าง Scotch Quail Egg และ Fish Pie แสนอร่อย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเชฟที่นี่ฝีมือดี ร้านบนหาดบางเทาแห่งนี้ตกแต่งโทนสีขาว บาร์อัดแน่นไปด้วยตัวเลือกแอลกอฮอล์ครบถ้วน และมีครัวเปิดที่ช่วยเสริมความตื่นตาตื่นใจระหว่างมื้ออาหาร เมนูทานเล่นอร่อยจนอยากสั่งทุกจาน แต่อย่าลืมเก็บท้องไว้ร่วมกันทานจากหลักขนาดยักษ์อย่าง Whole Andaman sea bass รสชาติเหมาะเจาะกับไวน์ลิสต์ที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี อยากสั่งมาจิบคู่อาหารทุกรายการ
เซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟ บาย โซลคิทเช่น (รางวัลบิบ กูร์มองด์)
อย่ามองข้ามร้านนี้เพียงเพราะตั้งอยู่ในห้องแถว รสชาติอาหารไม่ได้เล็กตามพื้นที่ร้าน ทุกจานตกแต่งอย่างงดงาม แต่ไม่บดบังวัตถุดิบหลัก เชฟ Tom ชาวเยอรมันตั้งใจออกแบบทุกเมนูให้ทั้งสวยและอร่อย เมนูที่นี่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ใช้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมทั่วโลก เนื้อสัมผัสและรสชาติของวัตถุดิบแต่ละอย่างถูกนำมาผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Lobster Ravioli หรือ Surf and Turf ที่ผสานกุ้งท้องถิ่นเข้ากับเนื้อวากิวไทย
เครดิตภาพ: ร้านเซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟ บาย โซลคิทเช่น