พิกัด 5 ที่พักสำหรับประสบการณ์แสนสนุกในกรุงเทพฯ จากโรงแรมในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’

เรียกพลังให้กลับคืนใจกลางโอเอซิส: เดอะ สุโขทัย บางกอก
แม้อยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ แต่ก็ยังมีสวนสีเขียวสบายตาและกว้างขวางให้พักผ่อนหย่อนใจกัน โรงแรมนี้มีทั้งสวนอันเป็นส่วนตัว ภายในโรงแรมประดับตกแต่งแบบไทยคลาสสิก และยังมีงานศิลปะจากกัมพูชาให้ได้ชม

หลังจากวันอันเหนื่อยล้า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ผ่อนคลายไปกับบริการสปา ด้วยแพ็กเกจห้องพักพร้อมสปา (ราคา 8,000 บาท++ ต่อคืน) สำหรับห้องพักหนึ่งคืน ณ ห้อง Club Room พร้อมเลือกบริการนวด 60 นาที พร้อมบริการนวดหน้า 30 นาทีหรือนวดฝ่าเท้าสำหรับ 2 ท่าน และเซตน้ำชายามบ่ายที่ห้อง Lobby Salon อย่าลืมจองโต๊ะริมหน้าต่างเพื่อชมเจดีย์ริมสระขณะจิบชาไปพลาง ๆ ด้วย

อิงแอบริมน้ำเจ้าพระยา: เดอะสยาม
หากสงสัยว่าจะจ่ายเงินค่าห้องพักร่วมพันบาทในกรุงเทพฯ ไปทำไมในเมื่อคุณเองก็อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ตั้งของโรงแรมเดอะสยามที่อยู่ริมฝั่งเจ้าพระยาฝั่งดุสิตอันงดงามคือคำตอบ ด้วยห้องพักที่ออกแบบอย่างงดงามโดยดีไซเนอร์ขึ้นชื่อ Bill Bensley ที่เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งวิลล่าหรูและห้องสวีตสไตล์โคโลเนียล และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงให้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ อีกทั้งโรงแรมแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยของสะสมแสนรักของเจ้าของโรงแรมอีกด้วย

โรงแรมนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 พร้อมเสนอแพ็กเกจราคา 8,900 บาท++ สำหรับการพักผ่อนหนึ่งคืน ณ ห้อง Siam Suite รวมอาหารเช้า เช็กอินก่อนเวลาได้ตั้งแต่ 9.00 น. และเช็กเอาต์เลตได้จนกระทั่ง 16.00 น. หรือหากมองหาวันหยุดที่อยากปรนเปรอตัวเองถึงขีดสุดก็มีข้อเสนอสำหรับห้องสวีตพร้อมอาหาร 3 มื้อ บริการสปาทรีตเมนต์และกิจกรรมของโรงแรม และยังมีบริการรถตุ๊ก ๆ บัตเลอร์ส่วนตัวรวมถึงสปีดโบ๊ตให้ด้วยที่ราคา 27,900 บาท++ ต่อคืน

นอนเนิบนาบในห้องพักวิวตระการตา: วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ
ห้องพักพื้นหินอ่อนกับวิวสนามราชกรีฑาสโมสรสีเขียวช่วยทำให้แบรนด์โรงแรมจากมหานครนิวยอร์กแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนในย่านราชประสงค์ ที่ขณะนี้มอบข้อเสนอด้วยแพ็กเกจ Urban Invitation เริ่มต้นที่ 9,000 บาท ซึ่งให้รับประทานอาหารเช้าถึงสองรอบ (หากเช็กอินก่อนเวลา 11.00 น.) และมอบเครดิตอาหารและเครื่องดื่ม 1,000 บาท เครื่องดื่มสำหรับชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ Level 56 จำนวน 2 แก้ว หรือจะแต่งตัวให้เข้ากับธีมของบาร์สไตล์แกตส์บีเพื่อความสนุกก็ได้เช่นกัน

จิบลมชมวิว รับประทานอาหารฝรั่งเศสกลิ่นอายญี่ปุ่น: ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
แม้จะยังเดินทางไปญี่ปุ่นไม่ได้ในขณะนี้ แต่หนึ่งคืนที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ อาจทำคุณหายคิดถึงแดนอาทิตย์อุทัยได้สักหน่อยด้วยห้องพักหรูกลิ่นอายญี่ปุ่นและบริการที่ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี โดยขณะนี้ทางโรงแรมมีบริการให้ชาวไทยเข้าพักในราคา 5,500 บาท++ ต่อคืน พร้อมรับประทานเซตอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร Yamazato หรืออาหารนานาชาติที่ Up & Above Restaurant ทั้งยังได้เครดิตอาหารและเครื่องดื่มจำนวน 1,000 บาทสำหรับห้องอาหารทั้ง 3 แห่งในโรงแรม แต่เราแนะนำให้แวะไปเยี่ยมเชฟ Hans Zahner ที่ห้องอาหาร Elements (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) เพลินไปกับอาหารฝรั่งเศสกลิ่นอายญี่ปุ่นร่วมสมัยพร้อมวิวเมืองอันตระการตาเบื้องล่างที่มองเห็นจากระเบียงร้านบนชั้น 25 ของโรงแรม

อิ่มกับบรรยากาศย้อนยุค: เดอะ คาโบชอง
โรงแรมบูติกกับบรรยากาศย้อนยุคที่ตั้งอยู่ในซอยอันแสนสงบของถนนสุขุมวิทแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2555 โดยยกบรรยากาศช่วงยุค 1920 มาไว้ถึงห้องพักได้อย่างงดงาม หากใครมองหาสถานที่พักผ่อนช่วงวันหยุด ขณะนี้ทางโรงแรมมีข้อเสนอพิเศษในราคา 4,500 บาท++ สำหรับการเข้าพักในห้องสวีต พร้อมเช็กอินได้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. และเช็กเอาต์ได้ถึง 15.00 น. ทั้งยังมีมื้อเย็นเป็นฮอตพอตสำหรับ 2 ท่านที่ห้องอาหารไทยของโรงแรม และเสิร์ฟอาหารเช้าให้ถึงห้องพักอีกด้วย