เมื่อพูดถึงอาหารไทย ไก่ทอดอาจจะไม่ใช่สิ่งแรกที่คุณนึกถึง แต่หลายครั้งสิ่งที่เรามองข้ามมักจะมีความพิเศษซ่อนอยู่ ไก่ทอดเจ๊กีในซอยโปโลซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ก็เช่นกัน เพราะชื่อเสียงของร้านอาหารแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือจนหลายครั้งผู้คนพลั้งปากเรียกย่านที่ร้านตั้งอยู่ว่าซอยเจ๊กีไปโดยปริยาย
“เราเริ่มจากการขายแค่ลาบ ส้มตำและไก่ทอด” คุณพงษ์ศิริ สุขเพชรโสภา ทายาทรุ่นที่สองของร้านเจ๊กีซึ่งเข้ามาสานต่อธุรกิจของทางบ้านตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 ร่วมกับลูกสาวสองคนของเขากล่าว
ทุกวันนี้ ร้านไก่ทอดเจ๊กีบริหารโดยทายาทรุ่นที่สามแล้ว และสาเหตุสำคัญที่ร้านยืนยงมาได้ยาวนานเพราะ “ความละเมียดละไม” ในการปรุงอาหารจนครองใจลูกค้ามาแล้วกว่าสามรุ่นเช่นกัน
ย้อนกลับไปในสมัยที่ไก่ย่างหนึ่งตัวมีราคาแค่ตัวละสามสิบกว่าบาท เจ๊กีจะเดินทางส่งไก่ทอดและข้าวเหนียวไปที่ออฟฟิศในย่านเพลินจิตและพระรามสี่ด้วยตนเองโดยตลอด แต่ทุกวันนี้ ที่ร้านมีวินมอเตอร์ไซค์จากที่ต่าง ๆ มารอรับไก่ทอดของเจ๊กี และทางร้านเองยังมีบริการส่งอาหารถึงที่เช่นกัน
“อาหารของเรากินง่าย” คุณพงษ์สิริกล่าว “พอร้านไม่ได้ตั้งอยู่ในห้าง ใคร ๆ ก็มากินอาหารที่นี่ได้” และแน่นอน ใครต่อใครต่างก็เดินทางมาลิ้มลองฝีมือของเจ๊กีตามที่ทางร้านตั้งใจไว้
ช่วงเช้าและช่วงกลางวันจะเนืองแน่นไปด้วยพนักงานออฟฟิศในย่านเพลินจิต แต่ในช่วงเย็น ผู้คนจากหลายพื้นที่จะแห่กันมาลิ้มลองความอร่อยของที่นี่กันอย่างเนืองแน่น
ไก่ทอด
เวลาตีห้าของทุก ๆ วัน ไก่ชุดที่หนึ่งจำนวนราว 20 - 30 ตัวจะถูกนำไปทอดจนกรอบเพื่อให้พร้อมสำหรับการขายลูกค้าในช่วงเช้า ไก่ทอดของร้านเจ๊กีนั้นทอดจนเหลืองกรอบแม้ไม่ได้ชุบแป้ง โดยจะใช้เวลาในการทอดนานเพื่อให้มั่นใจว่าสุกอย่างทั่วถึง ทำให้ไก่ไม่มัน มีเนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำ
กระเทียมเจียวถือเป็นอีกของขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับไก่ทอดได้เป็นอย่างดีและมีความอร่อยเฉพาะตัวไม่ว่าจะใครก็ชื่นชอบ ถ้าได้ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ควบคู่ไปกับการรับประทานไก่ทอดกับกระเทียมเจียมร้อน ๆ ย่อมเพิ่มความอิ่มเอมอีกระดับ
ส้มตำไทย
ไก่ทอดย่อมต้องมาคู่กับส้มตำ และที่ร้านไก่ทอดเจ๊กีใช้มะละกอดิบถึง 120 กิโลกรัมในการเนรมิตเมนูส้มตำต่าง ๆ ทั้งตำปูดำ ตำไข่เค็ม รวมถึงตำไทยซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ด้วยกับความกรอบของมะละกอและกุ้งแห้งขนาดพอดีคำที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับส้มตำ
คอหมูย่าง
“กุญแจสำคัญในการทำคอหมูย่างให้มีความชุ่มฉ่ำ” คุณพงษ์สิริกล่าว “คือการเลือกเนื้อหมูส่วนที่ดีซึ่งมีราคาสูงมาทำ โดยจะนำไปย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ เพื่อให้เครื่องหมักเข้าเนื้อทั้งยังช่วยเพิ่มกลิ่นถ่านให้กับเนื้อหมู ถ้าได้ดื่มรสซ่าเย็น ๆ สลับกับทานคอหมูย่างย่อมเป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างลงตัว”
ลาบหมู
ลาบถือเป็นหนึ่งในสามเมนูแรกของทางร้าน โดยที่นี่มีทั้งลาบไก่ ลาบเป็ด ลาบหมึก ลาบปลาดุกและเส้นบุก เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ย่อมหนีไม่พ้นลาบหมูซึ่งมีรสชาติเผ็ดลงตัว เนื้อหมูสับมาพอดีคำเพิ่มความสนุกให้กับการรับประทาน ผสานเข้ากับความหอมของข้าวคั่ว ทำให้ลาบหมูของที่นี่เป็นที่เลื่องลือกันไปหลายคุ้งแคว
น้ำตกเนื้อ
น้ำตกนั้นมีรสชาติคล้ายลาบแต่ใช้เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ โดยความพิเศษของน้ำตกเนื้อที่นี่คือการใส่คอหมูย่างเพิ่มเข้าไป เมื่อผสานเข้ากับรสชาติของหอมแดง น้ำมะนาวสดใหม่ น้ำปลาและพริกป่น น้ำตกเนื้อของร้านเจ๊กีจึงเป็นเมนูเด็ดที่ควรมาลิ้มลอง สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อ ที่นี่ยังเสิร์ฟน้ำตกหมูย่างและน้ำตกไก่ทอดเช่นกัน
อาหารอร่อยนั้นไม่จำเป็นต้องหรูหราหรือราคาแพง โดยอาหารแต่ละจานของร้านเจ๊กีสนนราคาอยู่ที่ 50 - 80 บาทยกเว้นไก่ทอดซึ่งราคาตัวละ 260 บาทเท่านั้น
แน่นอนว่าอาหารจะอร่อยมากขึ้นหากได้รับประทานกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้ใจ เพราะฉะนั้น หากอยากลิ้มรสอาหารอีสานรสแซ่บภายในบรรยากาสเป็นกันเองพร้อมราคาสบายกระเป๋า ร้านไก่ทอดเจ๊กีซอยโปโลย่อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
สำรองโต๊ะได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 655 8489
บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากช้าง ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช้างได้ที่ www.changbeer.com และที่ www.facebook.com/changbeer/
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ละเมียด” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช้างใช้ในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คลิก www.changbeer.com/lamiat.
