ท่องเที่ยว 3 minutes 16 มีนาคม 2018

ร้านอาหารไทยระดับดาวมิชลินในกรุงโคเปนเฮเกนที่เสิร์ฟอาหารไทยในแบบฉบับของตนเอง

“มิชลินไกด์” ฉบับสแกนดิเนเวีย ประจำปีพ.ศ. 2561 มอบรางวัล 1 ดาวมิชลินแก่ร้าน Kiin Kiin

“มิชลิน ไกด์” ฉบับสแกนดิเนเวีย ประจำปีพ.ศ. 2561 นำเสนอร้านอาหารจากประเทศเดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ ร้าน Kiin Kiin ในกรุงโคเปนเฮเกนเป็นร้านที่นำเสนออาหารไทยเชิงนวัตกรรม ด้วยมุมมองรสชาติและการปรุงอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของเชฟ นอกจากได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินติดต่อกันทุกปีตั้งแต่พ.ศ. 2551 แล้ว ร้านนี้ยังเป็นร้านอาหารไทยในต่างประเทศไม่กี่ร้านที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน

วันนี้ “มิชลิน ไกด์” จะมาพูดคุยกับเชฟ Henrik Yde-Andersen เกี่ยวกับมุมมองและทิศทางในอนาคตของอาหารไทย นอกจากเป็นเจ้าของร้าน Kiin Kiin ในกรุงโคเปนเฮเกนแล้ว เชฟ Henrik ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเชฟที่ปรึกษาของร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับ 1 ดาวมิชลินที่ตั้งอยู่ในโรงแรมสยามเคมปินสกี้อีกด้วย

0L6A0378.JPG

คำถาม: คุณรู้จักอาหารไทยได้อย่างไร และรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ชิมอาหารไทยเป็นครั้งแรก

เชฟ Henrik: ผมทานอาหารไทยครั้งแรกตอนมาเที่ยวที่กระบี่เมื่อหลายปีก่อน ผมเห็นพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารริมถนน และตัดสินใจลองทาน คุณอย่าลืมนะครับว่า บ้านผมอยู่แถวยุโรปเหนือ และรสชาติอาหารมักไม่จัดจ้าน ผมจำได้ว่า หลังได้ลองอาหารไทยคำแรก ผมยืนน้ำตาไหลอยู่ริมชายหาด ไม่ใช่ความเผ็ดของพริกเพียงอย่างเดียว แต่เพราะความประทับใจในรสชาติอาหารไทยด้วย จากนั้นผมก็บอกตัวเองว่า ยังมีอาหารไทยอีกหลายเมนูที่ผมควรได้ลิ้มลอง

คำถาม: คุณเรียนทำอาหารไทยจากที่ไหน

เชฟ Henrik: ผมเคยทำงานในประเทศไทย 5 ปี ครูคนแรก ๆ ที่ผมเรียนค่อนข้างเคี่ยว และผมยังโชคดีที่ได้เรียนรู้จากเชฟที่ทำเครื่องแกงและน้ำจิ้มต่าง ๆ เอง
หลังจากกลับไปยุโรป ผมได้ลองทำอาหารไทยในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยการลองผิดลองถูกหลายครั้ง การอยู่ห่างจากประเทศไทยเปิดโอกาสให้ผมได้ลองใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ได้หลายมากขึ้น ดีนะที่คนไทยใจดีอนุญาตให้ผมนำวัตถุดิบมาดัดแปลง

คำถาม: ทำไมคุณถึงนำรสชาติไทย ๆ กลับไปกรุงโคเปนเฮเกน และคุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้บุกเบิกหรือไม่

เชฟ Henrik: ผมเดินทางทั่วโลกและได้พบสไตล์การทำอาหารที่ต่างกันออกไป ถ้าจะบอกว่าผมเป็นผู้บุกเบิก ก็คงเป็นเพราะผมไม่เห็นด้วยกับการขนวัตถุดิบขึ้นเครื่องบินไกลถึง 8,000 กม. เราควรใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นมากกว่า และเนื่องจากผมไม่ใช่คนไทย ผมจึงไม่ต้องเคร่งครัดกับแบบแผนและวิถีการปรุงอาหารมากนัก ซึ่งในฐานะคนต่างชาติ ผมมีอิสระในการลองผิดลองถูกมากกว่า

คำถาม: ที่ร้าน Kiin Kiin วัตถุดิบไทยมีบทบาทอย่างไรบ้าง

เชฟ Henrik: อย่างที่ผมบอกไปว่า อาหารในประเทศยุโรปทางเหนือมีเนื้อหมูและกะหล่ำเป็นส่วนประกอบหลัก วัตถุดิบไทย ๆ ช่วยเสริมรสชาติและสีสันให้กับอาหารยุโรปของทางร้าน

คำถาม: ทิศทางของอาหารไทยในกรุงโคเปนเฮเกนและในทวีปยุโรปเป็นอย่างไร

เชฟ Henrik: ตอนที่ผมกลับประเทศเดนมาร์กในปีพ.ศ. 2547 คนที่ปรุงอาหารไทยและอาหารจีนเป็นผู้อพยพ พวกเขาตั้งใจปรุงอาหารประจำชาติอย่างสุดความสามารถ แต่คนก็ยังมองเพียงว่าเป็นอาหารทอดราคาถูก เหมาะสำหรับทานแบบบุฟเฟ่ต์หรือซื้อกลับไปทานที่บ้าน แต่ในปัจจุบัน คนให้ความสำคัญกับรสชาติกลมกล่อมที่มาจากการหมักดอง เชฟเก่งๆ หลายท่านจึงหันมาใช้วัตถุดิบจากทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อรังสรรค์เมนูที่มีรสชาติถูกปาก

คำถาม: ทำไมคุณถึงตัดสินใจร่วมเปิดร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้?

เชฟ Henrik: มันเปิดโอกาสให้ผมทำอาหารไทยในแบบของผมให้กรรมการที่เอาใจยากที่สุดอย่างคนไทยได้ชิม ผมรักเมืองไทย และนี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาอยู่ในประเทศที่ผมรัก และทำสิ่งที่ผมชอบ

Photo caption: Chef Chayawee Sutcharitchan, Head Chef of Sra Bua by Kiin Kiin of Siam Kempinski Hotel Bangkok (Left) and Chef Henrik Yde-Andersen, chef and owner of Kiin Kiin Copenhagen and co-founder and consulting chef of Bangkok’s own one Michelin Star Sra Bua by Kiin Kiin, preparing meals for the launch of the Michelin Guide Bangkok 2018.
Photo caption: Chef Chayawee Sutcharitchan, Head Chef of Sra Bua by Kiin Kiin of Siam Kempinski Hotel Bangkok (Left) and Chef Henrik Yde-Andersen, chef and owner of Kiin Kiin Copenhagen and co-founder and consulting chef of Bangkok’s own one Michelin Star Sra Bua by Kiin Kiin, preparing meals for the launch of the Michelin Guide Bangkok 2018.

คำถาม: คุณคิดอย่างไรกับวงการอาหารในกรุงเทพฯ

เชฟ Henrik: ในแง่อาหาร กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทางใต้ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ทางเหนือใช้เทคนิคแบบจีน นำมาผสมผสานกับเครื่องเทศและวัตถุดิบไทย ๆ คุณสามารถสร้างสรรค์รสชาติใหม่ ๆ ได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด

อีกอย่างที่ผมคิดว่าเจ๋งคือ เชฟคนไทยเริ่มหันมาใช้วัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศในการทำอาหารมากขึ้น

ผมรู้จักประเทศไทยมากว่า 20 ปีแล้ว ผมดีใจที่เชฟคนไทยรุ่นใหม่ทำสิ่งที่ท้าทายอย่างการเปิดร้านอาหารของตนเอง พวกเขากล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยนำวัตถุดิบในประเทศมาปรุงอาหารแทนการใช้วัตถุดิบที่นำเข้าจากอเมริกาหรือฝรั่งเศส 

คำถาม: คุณฝากอะไรกับเชฟคนไทยรุ่นใหม่บ้าง

เชฟ Henrik: มันไม่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลานาน คุณจะต้องไม่ยอมแพ้หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จ คุณสามารถเรียนรู้เทคนิคและสไตล์การทำอาหารแบบต่าง ๆ จากการเดินทางรอบโลก คุณไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุ 24 ผมเพิ่งจะมีร้านของตัวเองตอนอายุ 30 กว่า ผมคิดว่าเราควรออกไปเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อน

คำถาม: มีเชฟที่มาเรียนรู้กับคุณแล้วไปเปิดร้านอาหารไทยในยุโรปบ้างหรือไม่

เชฟ Henrik: มีครับ ผมมักเสียใจเวลามีเชฟเก่งๆ ออกจากร้าน แต่ผมก็ภูมิใจทุกครั้งเวลาเห็นพวกเขาประสบความสำเร็จ

คำถาม: เรารู้มาว่าคุณกำลังจะทำ food truck และเปิดร้านอาหารมังสวิรัติ คุณจะนำกลิ่นอายความเป็นไทยไปใช้หรือไม่

เชฟ Henrik: ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์เหมาะแก่การ “มานั่งกิน” ตามชื่อร้านที่เป็นภาษาไทย คุณสามารถเริ่มต้นมื้อด้วย street food ที่ปรุงขึ้นอย่างประณีตใน lounge กับบรรยากาศน่าค้นหา ก่อนจะเข้าไปรับประทานอาหารในห้องที่ตกแต่งอย่างมีระดับด้วยพระพุทธรูปสีทองและดอกไม้สด เมนูของร้านเป็นการนำอาหารไทยมาตีความใหม่ให้ทันสมัยในแบบฉบับของเชฟ ซึ่งเป็นรสชาติอาหารที่จัดจ้านลงตัว

The creative Thai cuisine served at Sra Bua by Kiin Kiin at the Siam Kempinski Hotel Bangkok.
The creative Thai cuisine served at Sra Bua by Kiin Kiin at the Siam Kempinski Hotel Bangkok.

นี่คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบมิชลินกล่าวถึงร้าน Kiin Kiin ในกรุงโคเปนเฮเกน
ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์เหมาะแก่การ “มานั่งกิน” ตามชื่อร้านที่เป็นภาษาไทย คุณสามารถเริ่มต้นมื้อด้วย street food ที่ปรุงขึ้นอย่างประณีตใน lounge กับบรรยากาศน่าค้นหา ก่อนจะเข้าไปรับประทานอาหารในห้องที่ตกแต่งอย่างมีระดับด้วยพระพุทธรูปสีทองและดอกไม้สด เมนูของร้านเป็นการนำอาหารไทยมาตีความใหม่ให้ทันสมัยในแบบฉบับของเชฟ ซึ่งเป็นรสชาติอาหารที่จัดจ้านลงตัว

และนี่คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบมิชลินกล่าวถึงร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ในโรงแรมสยามเคมปินสกี้
บรรดานักชิมในกรุงเทพฯ ชอบแสวงหารสชาติแปลกใหม่ไร้ขอบเขตและร้านอาหารที่งดงามแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่นำเสนอนวัตกรรมอาหารไทยล้ำสมัย แนะนำ “The Journey” เซตเมนูแบบ 10 คอร์ส ที่จะเปิดประสบการณ์สุดล้ำของศิลปะการปรุงอาหารที่ยังคงรักษาความเป็นไทยในรสชาติและวัตถุดิบ แต่มีการตีความใหม่และรังสรรค์ให้กลายเป็นอาหารสุดครีเอทที่มีเอกลักษณ์ด้วยแรงบันดาลใจจากเทคนิคการปรุงของ Kiin Kiin จากโคเปนเฮเกน


ท่องเที่ยว

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ