นักเขียนและพิธีกรรายการอาหารชาวอังกฤษชื่อดังอย่าง ไนเจลล่า ลอว์สัน ได้คาดการณ์ไว้ว่าใบเตยจะขึ้นแท่นเป็นวัตถุดิบยอดฮิต เช่นเดียวกับมัทฉะ (Matcha - ใบชาญี่ปุ่นชั้นดีที่นำมาบดละเอียด) แต่สำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างพวกเราแล้ว ใบเตยเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เรามักนำมาใช้ปรุงอาหารตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ไม่ว่าจะใช้ทำสีผสมอาหาร ใช้ช่วยเพิ่มรสชาติ หรือใช้ห่ออาหาร และยังมีสรรพคุณอื่นๆ ทั้งช่วยกำจัดแมลง หรือใช้ดับกลิ่น อีกทั้งยังเป็นสื่อบอกรักของคนรุ่นก่อนด้วย ซึ่งเรามักเรียกกันติดปากว่า “เตยหอม” ส่วนชาวมาเลเซียเรียกเตยหอมนี้ว่า duan pandan และชาวญี่ปุ่นเรียกว่า takonoki ถึงแม้แต่ละประเทศจะมีชื่อเรียกต่างกัน แต่จุดเด่นของมันก็คือกลิ่นหอมที่ชวนให้ผ่อนคลาย
การสกัดกลิ่นจากใบเตย
ใบเตยถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว แต่ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ถึงที่มาของใบเตยเลย ด้วยความที่นิยมปลูกกันอยู่ทุกหนแห่ง และดูแลไม่ยากนัก ใบเตยจึงไม่ใช่ของที่หายากอะไร ซึ่งเจ้า “เตยหอม” นี้ตอนที่ยังติดอยู่กับต้นจะไม่ส่งกลิ่นหอมออกมามากนัก แต่เมื่อนำมาสกัดและบดแล้ว กลิ่นของมันสามารถทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเคลิ้มได้เลย
การทำอาหารด้วยใบเตย
มีคนเคยบอกว่า ใบเตยเปรียบเสมือน “วานิลลาของฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เพราะ 2 วัตถุดิบ นี้คุณภาพไม่น้อยหน้ากัน แต่แตกต่างกันที่ราคา ขณะที่ใบเตยหนึ่งกำขายอยู่ที่ประมาณ 20 บาท แต่วานิลลาแท้แค่หนึ่งฝักสนนราคาอยู่ที่ 100 บาทแล้ว ดังนั้นใบเตยถือเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี เพราะเทคนิคขั้นเทพของชาวไทยได้ทำให้ความหอมหวานของใบเตยกลายเป็นเหมือนขุมทรัพย์ล้ำค่าไปเลยก็มิปาน
ใช้ในการหุงข้าว
เคล็ดลับที่นิยมใช้กันในสมัยก่อน และยังเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้ ก็คือการมัดใบเตยให้เป็นปมแล้วใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว เพราะมันจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้มื้ออาหารของคุณได้เป็นอย่างดี
น้ำใบเตย
หนึ่งในเครื่องดื่มดับกระหายยอดฮิต เพียงแค่นำใบเตยหนึ่งกำมาต้มในน้ำเดือดเป็นเวลาไม่กี่นาทีแล้วกรองผ่านผ้าขาวบาง แช่ไว้จนเย็นแล้วหยิบมาดื่มในวันที่อากาศร้อนๆ ก็สดชื่นไม่เบา
ข้อแนะนำจากเราคืออย่าต้มเผื่อไว้เยอะ เพราะมันอยู่ได้แค่สามวันเท่านั้น
ใช้ห่ออาหาร
ใบเตยนั้นเป็นที่ห่ออาหารชั้นดี ดังที่เห็นได้จากเมนูดังอย่างไก่ห่อใบเตย เพราะว่ามันไม่ได้แค่ช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมเท่านั้น แต่ยังช่วยคงความชุ่มของเนื้อไว้ได้เป็นอย่างดี และใบเตยสามารถนำมาใช้เป็นภาชนะในเมนูขนมหวานของไทยได้อีกด้วย เช่น ขนมตะโก้ เป็นต้น แต่ถึงหอมรัญจวนแค่ไหนก็อย่าลืมแกะใบออกก่อนจะรับประทาน
นำมาใช้ทำของหวาน
ใบเตยสามารถนำมาสกัดน้ำเพื่อนำมาผสมกับแป้งทำขนม ตัวอย่างของหวานที่ใช้วิธีนี้ก็คือ ขนมชั้น ขนมต้มใบเตย หรือขนมเปียกปูนใบเตยนั่นเอ
ใช้ปรับอากาศ
ถ้าคุณนั่งแท็กซี่บ่อยๆ ก็คงเคยเห็นใบเตยแขวนอยู่หลังเบาะรถมาบ้างแล้ว แต่ไม่ใช่ของที่คนขับเขาเพิ่งซื้อมาไว้เพื่อทำอาหารหรอก เขาแขวนไว้เพื่อให้กลิ่นในรถสดชื่นขึ้นต่างหาก
ใช้ไล่แมลงสาบ
ถึงจะไม่เป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย แต่ใบเตยที่ตัดจากต้นใหม่ๆ นี่แหละ สามารถคุมแมลงสาบได้อยู่หมัด เหตุผลก็เพราะว่าพวกมันหายใจผ่านทางผิว ซึ่งกลิ่นของใบเตยจะไปอุดเจ้าจมูกพวกนี้ไว้ให้หายใจไม่ออก ทำให้ใบเตยกลายเป็นที่ไล่แมลงสาบชั้นดีไปโดยปริยาย
สื่อรักด้วยใบเตย
สมัยที่ยังไม่มีการส่งข้อความ ไม่มีไอจีหรือไลน์ให้จีบกันแบบทุกวันนี้ ก็มีใบเตยนี่แหละ โดยคุณชายทั้งหลายจะพับใบเตยให้เหมือนเป็นดอกกุหลาบแล้วมัดรวมกันเป็นช่อ เพื่อมอบมันให้แก่คนที่ตัวเองรัก ทำเอาการจีบกันทุกวันนี้ดูง่ายไปเลย
ว่าด้วยเรื่องใบเตยกับสรรพคุณทางยา
นอกจากที่ว่ามาทั้งหมด ใบเตยยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ซึ่งคนไทยเองก็ใช้ประโยชน์จากมันมานานนับสิบๆ ปีแล้ว โดยหากนำรากและใบมาต้มเพื่อทำเป็นน้ำชาจะช่วยแก้อาการเจ็บหน้าอก ตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก ปวดหัว หรือแม้แต่ช่วยลดความดันเลือดก็ยังได้ แต่ถ้านำมาบดให้เป็นผงแล้วนำไปผสมน้ำ จะสามารถใช้นวดหนังศีรษะเพื่อขจัดรังแคได้ด้วย ยังมีสรรพคุณอีกมากมายที่บันทึกไว้ในเอกสารทางยาต่างๆ เช่นช่วยรักษาโรคเชื้อราบนผิวหนัง โรคข้ออักเสบ หรือแม้แต่รักษามะเร็งบางประเภท
จะซื้อใบเตยได้จากไหน
ใบเตยมีขายตลอดทั้งปี โดยปกติจะมีวางขายอยู่ตามตลาดสดทั่วไป ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพเราแนะนำให้ไปที่ตลาด อ.ต.ก. ตลาดคลองเตย ตลาดสามย่าน หรือถ้าซื้อทีเดียวเยอะๆ ให้ไปที่ตลาดดอกไม้ปากคลองตลาด
ผงใบเตยหาได้ตามร้านเบเกอรี่เฉพาะทาง หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้เหมือนกัน