เวลาพูดถึงเมืองไทย คนมักคิดถึงชายหาด วัดวาอาราม และชีวิตกลางคืน แต่อย่าลืมว่ามะพร้าวก็เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกชื่นชอบไม่แพ้กัน เจดีย์สีทองอร่ามและอารามแสนงดงามอาจจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม แต่ไม่มีอะไรชวนให้นึกถึงสวรรค์ริมทะเลเขตร้อนไปมากกว่าต้นมะพร้าวที่เรียงรายตามชายหาดสมุยและภูเก็ต ในกรุงเทพฯ ผลไม้จากชายหาดชนิดนี้หาทานได้แทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นแผงริมถนนที่คนขายจะเฉาะให้ดูแบบสด ๆ รถเข็นที่วนไปตามถนนหนทาง หรือในภัตตาคารติดแอร์
เชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ จากร้านชิม บาย สยามวิสดอม (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) กล่าวว่า “สูตรไอศกรีมกะทิมีมากมายครับ แต่เคล็ดลับจริง ๆ อยู่ที่การดึงรสชาติของส่วนผสมออกมา ผมจะใส่น้ำมะพร้าวเผาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ที่ร้านชิม เราจะเสิร์ฟไอศกรีมกะทิคู่กับข้าวเหนียวมะม่วง แต่ถ้าอยากสัมผัสรสกะทิอย่างเต็มอิ่ม สั่งแค่ไอศกรีมมาทานอย่างเดียวได้ครับ รับรองว่าน้ำหนักไม่เพิ่ม แต่ความสุขเพิ่มจนล้นแน่นอน”
ขวา: ไอศกรีมกะทีเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมะม่วง รังสรรค์โดยร้านชิม บาย สยาม วิสดอม (รางวัล 1 ดาวมิชลิน)
ส่วนผสม (ไอศกรีมกะทิขนาดทาน 10 คน)
เนื้อมะพร้าวขูด 1 กก.เนื้อมะพร้าวอ่อน 3 ลูก
ใบเตย 1 กำ
น้ำมะพร้าวเผา 3 ลูก
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม
น้ำตาลทรายป่น (caster sugar บางยี่ห้อใช้คำว่า “น้ำตาลเบเกอรี”) 50 กรัม
แบะแซ 30 กรัม
วิปปิ้งครีม 300 กรัม
นมครบส่วน (full fat milk) 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ
ต้มน้ำมะพร้าวเผากับใบเตยบางส่วน เมื่อเริ่มเดือด ใส่เนื้อมะพร้าวขูดลงไป จากนั้น นำมาคั้นเป็นหัวกะทิ ผสมวิปปิ้งครีมกับนมสดกับกะทิที่ได้ แล้วอุ่นด้วยไฟอ่อน ๆใส่ใบเตยที่เหลือลงไป คอยคนส่วนผสม จากนั้น เติมน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลป่น แบะแซ และเกลือลงไป
ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปเป็นอย่างสุดท้าย แล้วนำไปปั่นในเครื่องทำไอศกรีม
ท็อปปิ้ง
มีไอศกรีมแล้วจะขาดท็อปปิ้งไปไม่ได้ ไอศกรีมกะทิทั่วไปจะโรยถั่วลิสงคั่ว แต่ถ้าน้ำหนักไม่ใช่ประเด็น เราขอแนะนำให้เสริมความอร่อยด้วยข้าวเหนียว เม็ดบัว มันเชื่อม หรือเผือกชิ้น อร่อยจนลืมไปเลยว่าความอ้วนคืออะไร
