อาหารเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยมาช้านาน ดังจะเห็นได้จากจานคาวหวานต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในตำราประวัติศาสตร์และวรรณคดีรูปแบบต่าง ๆ ทั้งละคร กาพย์ กลอน
บทพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับอาหารที่รู้จักกันดีคือกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) และกาพย์เห่ชมเครื่องว่างในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) บทพระราชนิพนธ์ทั้งสองพรรณนาถึงอาหารไทยในรัชสมัยของแต่ละพระองค์ด้วยโวหารอันสละสลวย อาหารหลายชนิดจากบทพระราชนิพนธ์หาทานไม่ได้แล้ว หรือหาได้ยากมากในปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่คือเมี่ยงคำ ดังปรากฏในกาพย์เห่ชมเครื่องว่างว่า “เมี่ยงคำน้ำลายสอ เมี่ยงสมอเมี่ยงปลาทู ข้าวคลุกคลุกไก่หมู น้ำพริกกลั้วทั่วโอชา”

อาหารที่เน้นผักจะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง เพราะไม่ต้องใช้พลังในการย่อยเยอะมาก กล่าวกันว่าร่างกายคนเราประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อธาตุสมดุล ร่างกายก็จะแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เมี่ยงคำจึงถือเป็นอาหารว่างที่ช่วยรับมืออากาศร้อนได้เป็นอย่างดี เครื่องเมี่ยงคำประกอบด้วยสมุนไพรและวัตถุดิบนานาชนิดจะช่วยบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4
ขอบคุณภาพจากร้านบ้านขนิษฐา

ส่วนผสมหลักของเมี่ยงคำประกอบด้วยใบชะพลู หอมแดง ขิง มะนาวหั่นพร้อมเปลือก พริกขี้หนูสด ถั่วลิสงคั่ว มะพร้าวคั่ว และกุ้งแห้ง ห่อรวมกันแล้วหอมกลิ่นสมุนไพร ทานคู่กับน้ำจิ้มรสออกหวาน ทำจากกะปิ น้ำตาลปี๊บ ถั่ว มะพร้าวคั่ว ผสานกับข่าและหอมแดงสับ ในอดีต ผู้คนนิยมใช้ใบทองหลาง แต่เนื่องจากปัจจุบันหายาก จึงเปลี่ยนมาใช้ใบชะพลูแทน แต่ก็มีเมี่ยงคำสูตรพิเศษที่ห่อด้วยกลีบบัว ออกมาเป็นเมี่ยงกลีบบัวที่ดูงดงามไปอีกแบบ

ขั้นตอนการทานเมี่ยงคำ
1. วางใบชะพลูบนอุ้งมือ ให้ด้านบนของใบหันขึ้น วางเครื่องอย่างละน้อยกลางใบ อย่าให้ล้นออกมานอกใบ ถ้าไม่ทานเผ็ด อย่าตักพริกมามากเกินไป
2. ตักน้ำจิ้มมาหยอด ช้อนที่ใช้ตักเครื่องกับน้ำจิ้มควรแยกคันกัน
3. ห่อใบชะพลูให้เป็นขนาดพอดีคำ แล้วหยิบใส่ปากได้เลย
4. เคี้ยวแล้วสัมผัสความอร่อยจากรสชาติสมุนไพรและเครื่องต่าง ๆ
ร้านเมี่ยงคำที่เราคัดสรรเพื่อคุณ
สวนทิพย์ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) (เมี่ยงกลีบบัว)17/9 หมู่ 7 ถ.สุขาประชาสรรค์ 2 จ.นนทบุรี
โทร: +66 2 583 3748
บ้านขนิษฐา (รางวัลมิชลิน เพลท)
36/1 ซ.สุขุมวิท 23 กรุงเทพฯ
Tel: 02 258 4181
OSHA (รางวัลมิชลิน เพลท)
99 ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ
Tel: 02 256 6555