ในปี 2567 คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประกาศเปิดตัวรางวัลกุญแจมิชลิน (MICHELIN Key) เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่ชูโรงแรมที่โดดเด่นที่สุดทั่วโลก อ่านที่นี่ เกี่ยวกับรางวัลใหม่ล่าสุดของมิชลิน และสำรวจรายชื่อโรงแรมที่ได้รางวัลทั้งหมดเป็นครั้งแรกในฝรั่งเศส
รางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอก ถือเป็นโรงแรมที่ได้รับเกียรติสูงสุดในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ การได้รับรางวัลกุญแจมิชลิน 1 ดอก (ได้รับรางวัลทั้งหมด 127 แห่ง) รางวัลกุญแจมิชลิน 2 ดอก (ได้รับรางวัลทั้งหมด 38 แห่ง) ถือเป็นเรื่องยาก และมีโรงแรมเพียง 24 แห่งเท่านั้นที่ได้รับรางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอกในฝรั่งเศส ในจำนวนนี้ มี 9 แห่งที่อยู่ในปารีส
โรงแรมกุญแจมิชลิน 3 ดอกมีความเป็นเลิศในเกณฑ์ทั้งห้าที่ใช้ในการตัดสินโรงแรมโดยผู้ตรวจสอบของเรา และนี่คือโรงแรมที่ได้รับรางวัลสูงสุดที่มีสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายในอันเป็นเลิศ
นี่คือโรงแรมกุญแจมิชลิน 3 ดอกทั้ง 9 แห่งของเราในกรุงปารีส
La Réserve
La Réserve
La Réserve
ตั้งอยู่ที่: 8th Arr. (Champs-Élysées/Madeleine)บนถนนสายหนึ่งแยกจากช็องเซลีเซ ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี โรงแรม La Réserve โดดเด่นเป็นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เฮาส์มันที่ได้รับความนิยมในความโอ่อ่าขรึมขลังสมัยศตวรรษที่ 19 อย่างไรก็ตาม การตกแต่งภายในนั้นดูใหม่เอี่ยม ออกแบบอย่างประณีตโดยฝีมือฌัก การ์เซีย นักออกแบบตกแต่งภายในมือระดับเทพผู้ขึ้นชื่อในสไตล์สไตล์โรแมนติกที่ประณีตอย่างชนะเลิศ รวมถึงห้องพักและห้องสวีทของที่นี่ซึ่งหรูหราไม่แพ้กัน แม้จะมีขนาดใหญ่ตรงตามมาตรฐานทุกอย่างแต่ก็ถือว่าหรูหรามากแล้วสำหรับโรงแรมที่อยู่ในกรุงปารีส ทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมีระดับครบครันทุกอย่างเท่าที่จะจินตนาการได้ ตั้งแต่อ่างอาบน้ำหินอ่อนคาราร่าสุดหรู ไปจนถึงโถสุขภัณฑ์แบรนด์ Toto และบัตเลอร์เซอร์วิสผู้ให้บริการส่วนตัว
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Four Seasons George V
Four Seasons George V
Four Seasons George V
ตั้งอยู่ที่: 8th Arr. (Champs-Élysées/Madeleine)ย่างเข้าสู่ศตวรรษที่ 2 ในการดำเนินกิจการ Four Seasons Hotel George V ยังคงรักษาสถานะในฐานะโรงแรมพระราชวังกลางกรุงปารีสอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นโพซิชันที่วางไว้ตั้งแต่ก่อตั้งเอาไว้ได้อย่างสวยงาม ด้วยที่ตั้งแสนจะโดดเด่นบริเวณขอบสามเหลี่ยมทองคำอันหรูหราระดับ 8 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไอคอนนิกโลเคชันของปารีส ล้อมรอบไปด้วยแบรนด์แฟชั่นหรูมีชื่อเสียงขั้นสุด สัมผัสประสบการณ์ทัศนียภาพเปี่ยมไปด้วยความพิเศษอย่างชาวปารีเซียง ทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในล้วนเป็นการผสมระหว่างศิลปะสไตล์อาร์ตเดโคแท้ๆ ดั้งเดิมของโรงแรม รวมถึงรายละเอียดที่เสริมขึ้นใหม่ในช่วงของการบูรณะปรับปรุงในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ซึ่งผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว
Ritz Paris
Ritz Paris
Ritz Paris
ตั้งอยู่ที่: 1st Arr. (Musée du Louvre/Les Halles)ออกแบบโดย Thierry W. Despont สถาปนิกชื่อดังชาวฝรั่งเศส คนเดียวกับที่ดูแลการรีโนเวท Woolworth Building อาคารอันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ก การปรับปรุงยกเครื่อง Ritz ใหม่นั้นถือได้ว่าเป็นงานละเอียดอ่อนมาก โดยยังคงรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด แต่ด้วยความหลักแหลมของสถาปนิกผู้เก่งกาจอย่าง Despont ทำให้สามารถรังสรรค์พื้นที่เปิดโล่งทั้งยังเติมแสงสว่างให้มากขึ้นด้วยการปรับยกเพดาน เพิ่มจำนวนบานหน้าต่าง ติดตั้งหลังคากระจกแบบพับเก็บได้บนร้านอาหาร Espadon รวมถึงวิธีการอื่นๆ ที่สร้างผลลัพธ์คือนิยามที่ทาง Ritz ถึงกับระบุว่าเป็น “ความทันสมัยอันสะท้อนถึงความปราดเปรื่องอย่างแท้จริง” ลองจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ในสไตล์ยุค La Belle Époque หรือยุคแห่งความงามในประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของฝรั่งเศส หากได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการเติมแสงธรรมชาติ และแน่นอน Wi-Fi ที่เร็วแรงขึ้นด้วย
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Le Bristol
Le Bristol
Le Bristol
ตั้งอยู่ที่: 8th Arr. (Champs-Élysées/Madeleine)ราวกับขนมเค้กที่เคลือบตกแต่งไว้อย่างงดงาม ภายนอกของโรงแรม Le Bristol เผยโฉมในสไตล์อาร์ตเดโคอันเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ทว่าภายในนั้นกลับมอบกลิ่นอายของยุคศตวรรษที่ 18 บรรยากาศของที่นี่จะยิ่งวิเศษขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขอบหน้าต่างที่ปลูกต้นเจอเรเนียมออกดอกบานสะพรั่ง และสวนขนาดใหญ่ก็ส่งกลิ่นอายของดอกแมกโนเลีย สระว่ายน้ำของโรงแรมนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในปารีส ซึ่งแม้ว่าจะมีขนาดกระทัดรัด แต่ก็สวยบรรเจิดด้วยกระจกกรุล้อมรอบและเตียงอาบแดดสไตล์ปารีเซียง
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Le Meurice
Le Meurice
Le Meurice
ตั้งอยู่ที่: 1st Arr. (Musée du Louvre/Les Halles)นับตั้งแต่เปิดทำการในปี 1835 ที่นี่ก็เคยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงานอันทรงเกียรติมาแล้วมากมาย เคยรับรองตั้งแต่ประมุขรัฐอย่างสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียและพระเจ้าจอร์จที่ 6 ไปจนถึงปิกัสโซ ดาลี และโคโค ชาแนล ซึ่งในขณะที่มีการปรับปรุงใหม่นั้น Le Meurice ก็ได้รับการดูแลอย่างใส่ใจให้คงอยู่ในสภาพเดิมให้มากที่สุด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความหรูหราของพระราชวังแวร์ซายส์ แม้ห้องพักที่เรียบง่ายที่สุดนั้นก็ยังคงกว้างขวางหรูหรา ในขณะที่ห้องสวีทระดับบนสุดนั้นหรูระยับมีสไตล์ แสนสะดวกสบาย กว้างขวาง ทัศนียภาพแสนวิเศษ บางห้องเห็นวิวสวนตุยเลอรี ในขณะที่ห้อง Belle Étoile บนชั้น 7 นั้นมีความเป็นส่วนตัวสุดๆ แถมยังมีระเบียงมองเห็นวิวหลังคาเมืองได้ทั่ว 360 องศา
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Cheval Blanc
Cheval Blanc
Cheval Blanc
ตั้งอยู่ที่: 1st Arr. (Musée du Louvre/Les Halles)โรงแรมสไตล์ปารีเซียงแห่งแรกของเมตาแบรนด์สุดหรู LVMH ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างที่ใครต่อใครต่างก็พากันคาดหวังตั้งตารอ ซึ่งได้มีการปรับปรุงภายในห้างสรรพสินค้า La Samaritaine ในสไตล์อาร์ตเดโค อันโด่งดังแบบยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยยังมองออกไปเห็นวิวแลนด์มาร์คที่สำคัญของปารีสอย่างสะพานปงเนิฟ และย่านแซ็งแฌร์แม็งเดเพร ด้วยห้องพักและห้องสวีทที่มีอยู่เพียง 72 ห้อง แสดงให้เห็นว่า Cheval Blanc Paris ดำเนินธุรกิจในระดับบูติก แม้จะเป็นโรงแรมระดับแกรนด์หรูระยับก็ตาม ทั้งนี้ห้องสวีทหรูหราที่สุดครอบคลุมพื้นที่ถึงสองชั้น แถมยังมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเองอีกด้วย
จองผ่าน MICHELIN Guide →
The Saint James
The Saint James
The Saint James
ตั้งอยู่ที่: 16th Arr. (Trocadéro)บางคนอาจหลงคิดไปว่า The Saint James นั้นไม่น่ามีอะไรพิเศษสักเท่าไหร่ ทว่าสำหรับในปารีสแล้ว โรงแรมสไตล์คฤหาสเดี่ยวๆ นั้นดูช่างโดดเด่นไม่น้อย และนั่นแหล่ะคือ The Saint James ซึ่งเกือบจะเป็นปราสาทสไตล์ชนบทที่ล้อมรอบด้วยกำแพงและสวนซึ่งหาได้ยากยิ่ง สถานที่แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่โดย ลอร่า กอนซาเลซ สถาปนิกนักออกแบบตกแต่งภายในชาวปารีเซียง ผู้ได้ปรับปรุงการตกแต่งภายในมอบเอกลักษณ์สู่ทศวรรษใหม่ให้กับที่นี่ ผู้เคยมาเยือนที่มีโอกาสกลับมาจะพบว่ามันละเอียดอ่อนซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทอนความประทับใจต่อสถานที่แห่งนี้ให้น้อยลงเลยแม้แต่น้อย
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Villeroy
Villeroy
Villeroy
ตั้งอยู่ที่: 8th Arr. (Champs-Élysées/Madeleine)โดยปกติแล้วโรงแรมในพระราชวังมักจะถูกยกให้เป็นมาตรฐานระดับสูงสำหรับการต้อนรับแบบปารีส แต่บอกได้เลยว่าโรงแรมแห่งนี้ก็หรูหราพอๆ กัน แม้ว่าจะมีห้องพักและห้องสวีทรวมกันแล้วเพียงสิบเอ็ดห้อง หากก็ยังเปิดดำเนินการในระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กล่าวได้ว่าทุกห้องสวีทอยู่ในระดับ Presidential จริงๆ แม้จะมีขนาดกระทัดรัดกว่า ทว่าไม่ขาดตกบกพร่องเรื่องความสะดวกสบายไปแม้แต่น้อย ในห้องพักทุกระดับคุณจะได้พบกับอ่างอาบน้ำหินอ่อนที่สวยว้าว เฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษจาก Promemoria และที่นอนทำมือจาก Vispring
จองผ่าน MICHELIN Guide →
Plaza Athénée
Plaza Athénée
Plaza Athénée
ตั้งอยู่ที่: 8th Arr. (Champs-Élysées/Madeleine)โรงแรมที่ถือกำเนิดในยุค La Belle Epoque แห่งนี้ผสมผสานความสง่างามสมัยศตวรรษที่ 18 เข้ากับความเก๋ไก๋แบบอาร์ตเดโคได้อย่างลงตัว นับเป็นโรงแรมสุดคลาสสิก แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จืดชืด แม้ในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งเป็นยุคที่ Plaza Athénée ยังคงเป็นแบรนด์ที่ยังละอ่อนอยู่ ก็มีการผสมผสานทั้งสไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิกและการสังสรรค์อย่างฮิปสเตอร์ร่วมสมัยไม่แพ้กัน เช่น คุณสามารถพบเห็น Josephine Baker และ Rudolph Valentino ได้ในบรรดาลูกค้าขาประจำของบาร์ในโรงแรม แม้ปัจจุบันจะมีการรีโนเวทใหม่ด้วยงบหลายล้านดอลลาร์ซึ่งได้ปรับโฉมของโรงแรมขึ้นมาใหม่ แต่ลักษณะพื้นฐานโดยรวมของโรงแรมก็ยังคงอยู่ ทั้งความมั่งคั่งในแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับแฟชั่นทันสมัยของยุคใหม่
จองผ่าน MICHELIN Guide →
ภาพเปิด: Le Meurice
