หลังจากที่โลกได้รับรู้ถึงการจากไปอันน่าเศร้าของสุดยอดเชฟชาวฝรั่งเศส ผู้ต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายจนถึงวินาทีสุดท้าย เราอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของเชฟโจเอล โรบูชงที่ผ่านมา โดยเชฟผู้ก่อตั้งร้านอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงใน 12 เมืองทั่วโลกได้ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตของเขาในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โจเอล โรบูชง เชฟผู้โด่งดังจากการเปิดและบริหารร้านอาหารมากกว่า 20 แห่งทั่วโลก ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศไทย และสามารถคว้ารางวัลดาวมิชลินไปครอบครองทั้งหมด 31 ดวง
ทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นศาสตราจารย์แห่งรสชาติผู้รังสรรค์สุดยอดเมนูมันบดนุ่มลิ้นอันลือชื่อ และอาหารสไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิกอีกมากมาย นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้สอนการทำอาหารให้กับซูเปอร์สตาร์ชาวบริติชอย่าง เชฟกอร์ดอน แรมซี่ย์ และยอดฝีมือชาวฝรั่งเศสอย่างเชฟ เอริค ริแพรท์ อีกด้วย
และนี่คือความสำเร็จทั้งหลายในช่วงชีวิตของเชฟโจเอล โรบูชง :

ปีค.ศ. 1960: เขาเริ่มต้นเส้นทางแห่งการเป็นพ่อครัวด้วยการเป็นผู้ช่วยเชฟฝ่ายขนมของโรงแรม Relais of Poitiers Hotel ตั้งแต่อายุ 15 ปี
ปีค.ศ. 1974: คุมพ่อครัวถึง 90 คนให้เสิร์ฟอาหารหลายพันจานต่อวันได้อย่างอยู่หมัด ในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวของโรงแรม Concorde Lafayette Hotel ด้วยอายุเพียง 29 ปี
ปีค.ศ. 1976: ชนะรางวัลเชฟยอดฝีมือแห่งฝรั่งเศส (Meilleur Ouvrier de France) ด้วยความสามารถด้านการปรุงอาหารของเขา
ปีค.ศ. 1981: เปิดร้านอาหารของตัวเองแห่งแรกในชื่อ Jamin ที่ประเทศฝรั่งเศส และได้รับรางวัลดาวมิชลินเป็นครั้งแรกในปีต่อมา จากนั้นยังได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน และ 3 ดาวมิชลิน ติดต่อกันในปีค.ศ. 1983 และปีค.ศ. 1984 ตามลำดับ ซึ่งเป็นเวลาเพียงสามปีหลังจากเปิดตัวเท่านั้น
ปีค.ศ. 1990: ได้รับยกย่องให้เป็น “Chef of the Century” (เชฟแห่งศตวรรษ) โดยหนังสือแนะนำร้านอาหารฝรั่งเศส Gault Millau
ปีค.ศ. 1994: ร้าน Jamin ได้รับรางวัล “ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลก” โดย International Herald Tribune
ปีค.ศ. 1995: ประกาศวางมือในฐานะเชฟเมื่ออายุ 50 ปี เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการส่งต่อความสามารถด้านการทำอาหารให้แก่เชฟรุ่นต่อๆ ไป
ปีค.ศ. 1996: จัดรายการอาหารของฝรั่งเศสในชื่อ Cuisinez Comme Un Grand Chef เป็นเวลาสี่ปี
ปีค.ศ. 2000: ควบคุมรายการอาหาร Bon Appetit Bien Sûr ที่ออกอากาศต่อเนื่องยาวนาวถึงสิบปี
ปีค.ศ. 2003: กลับเข้าสู่วงการพ่อครัวและเปิดภัตตาคาร L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) สองแห่งแรกในปารีส และโตเกียวพร้อมกัน
ปีค.ศ. 2005: ขยายกิจการร้าน L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) สู่ลาสเวกัส นิวยอร์ก ลอนดอน และฮ่องกง เพียงหนึ่งปีให้หลัง
ปีค.ศ. 2008: ร้าน L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) ในลาสเวกัสได้รับรางวัล 3 ดาวมิชลิน พร้อมกับการเปิดตัวภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกของเขาในชื่อ Yoshi ที่ประเทศโมนาโก

ปีค.ศ. 2011: นำร้าน L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) สาขาใหม่มาเปิดติดกับในร้านของเขาที่ รีสอร์ตเวิลด์ เซ็นโตซ่า (Resorts World Sentosa) ประเทศสิงคโปร์ ที่มีชื่อว่า Joël Robuchon (โจเอล โรบูชง) ซึ่งร้านนี้เป็นร้านอาหารแห่งแรกของเขาในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปีค.ศ. 2016: ร้านอาหาร Joël Robuchon (โจเอล โรบูชง) ที่สิงคโปร์ได้รับรางวัล 3 ดาวมิชลิน ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศสิงคโปร์ ประจำปีค.ศ. 2016 และเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่สามารถคว้ารางวัล 3 ดาวมิชลินในประเทศสิงคโปร์
ปีค.ศ. 2017: กลับมาทวงคืนบัลลังก์สุดยอดเชฟที่นิวยอร์กโดยปรับเปลี่ยน L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) ในรูปแบบใหม่ หลังจากห่างหายไปนานถึงห้าปี
ปีค.ศ. 2018: เริ่มต้นการก่อตั้ง Institut International Joël Robuchon ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารและการบริการในเมืองมงมอรียง (Montmorillon) ประเทศฝรั่งเศส ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2019 ที่จะถึงนี้เอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : มิชลินขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของเชฟโฌแอล โรบูว์ชง