ไม่ว่าจะกำลังพักใจในภูเก็ต หรือเต็มเหวี่ยงกับค่ำคืนในเมืองกรุง คุณคงเห็นด้วยว่าการจิบค็อกเทลรสเด็ดระหว่างมองเห็นขอบฟ้าเรืองรองเป็นภาพไม่ควรพลาด เราขอแนะนำร้านวิวงามสำหรับชมธรรมชาติยามเย็น พร้อมคลายอารมณ์ไปกับค็อกเทลในมือ
กรุงเทพฯ
เมซซาลูน่า (รางวัล 2 ดาวมิชลิน)
สำหรับคนรักความหรูหรา เชิญสวมแจ็คเก็ตและเดรสชุดโปรด แล้วเฉิดฉายสู่ชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว นอกจากความอร่อยที่การันตีด้วยรางวัล 2 ดาวมิชลินแล้ว วิว 180 องศาของเมืองหลวงและแม่น้ำก็เป็นอาหารตาที่สวยงามไม่แพ้กัน สกายบาร์ด้านบนมักเต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่มาดื่มด่ำกับความสวยงามในบรรยากาศปูพรมแดง แต่เปลี่ยนจากเสียงชัตเตอร์กล้องและกองทัพนักข่าวมาเป็นวงสตริงควอเต็ทบรรเลงดนตรีแสนไพเราะคอยต้อนรับเมื่อคุณก้าวเข้ามา
วิวขอบฟ้ากว้างของเมืองกรุงจากร้านเมซซาลูน่าบนชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว
ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สาขาท่าเตียน (รางวัลมิชลิน เพลท)
เชิญสัมผัสทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมความงามพระปรางค์วัดอรุณฯกับที่นั่งริมน้ำของห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สาขาท่าเตียน แม้บรรยากาศจะชวนรำลึกถึงความรุ่งเรืองของเมืองหลวงได้ทั้งวัน แต่ความงามที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน มิกโซโลจิสต์มือโปรจากร้านเวสเปอร์ (Vesper) ช่วยคิดค้นเมนูค็อกเทลที่นี่ เลิกห่วงไปได้เลยว่าจะต้องทนจิบน้ำหวานสีแปลก เราแนะนำให้ลอง Bangkok Negroni ที่รังสรรค์ขึ้นจากยินอินฟิวส์กับมะกรูด หรืออาจจะลองยินและโทนิคอินฟิวส์กับมะลิก็ให้ความเป็นไทย เข้ากับอาหารแสนอร่อยของที่ร้านเช่นกัน
คลายอารมณ์ชมพระอาทิตย์ตกบนโซฟาห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สาขาท่าเตียน ขอบคุณภาพจากห้องทานข้าวสุพรรณิการ์
Scarlett (รางวัลมิชลิน เพลท)
ถ้าคุณกำลังมองหาบาร์ดาดฟ้าบรรยากาศสบาย ๆ กดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จีได้เลย แต่ก็อย่าชิวเกินจนใส่รองเท้าแตะขึ้นไปนะ ร้านนี้เหมาะกับไปนั่งพูดคุยกับเพื่อนหรือคนรู้ใจ พร้อมกระดกไวน์คลายอารมณ์ ด้วย happy hour แสนคุ้มค่า (house wine แค่แก้วละร้อย) และเมนูคอมฟอร์ท ฟู้ดแบบฝรั่งเศสสำหรับทานคู่กัน คุณจะรู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากลุกออกจากระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประดับด้วยใบไม้เขียวชอุ่ม ตัดกับแสงเหลืองส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า
เพลิดเพลินกับแสงสีส้มของท้องฟ้ายามเย็นพร้อมไวน์สักแก้วที่ร้าน Scarlett ขอบคุณภาพจาก Scarlett Wine Bar & Restaurant
The St. Regis Bar ในโรงแรม St. Regis Bangkok (โรงแรมใน “มิชลิน ไกด์” พ.ศ.2562)
ด้วยบาร์ถึง 3 แห่งในโรงแรมแห่งเดียว หนึ่งในนั้นคือร้าน Zuma ที่ได้รางวัลมิชลิน เพลท คุณจะได้ดื่มด่ำอย่างมีสไตล์พร้อมวิวสวยแน่นอน The St. Regis Bar อยู่บนชั้น 12 ตกแต่งด้วยผนังไม้สีเข้มทองพร้อมแสงเหลืองทอง ชวนให้รำลึกถึงนครนิวยอร์กในอดีต แต่คุณก็จะได้สัมผัสถึงความโดดเด่นของกรุงเทพฯในเวลาเดียวกัน ด้วยทิวทัศน์เขียวชอุ่มของสนามราชกรีฑาสโมสรและแสงสีของสยามสแควร์ คลาสสิกค็อกเทลต่าง ๆ รสชาติดีเกินมาตรฐาน แต่เราจะบกพร่องในหน้าที่ถ้าไม่แนะนำให้คุณลอง Siam Mary ที่นำซิกเนเจอร์ ค็อกเทลของโรงแรมอย่าง Bloody Mary มาใส่ความเป็นไทยเข้าไป
ถ้าอยากสัมผัสความเขียวชอุ่มไปด้วย เชิญชมตะวันลับฟ้าที่ The St. Regis Bar ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์โรงแรม St. Regis
Above Riva
โรงแรมบูติคที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยย่านท่าเตียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ให้ทิวทัศน์วัดอรุณอันงดงามในบรรยากาศร้านสงบเงียบ คุณยังสามารถมองเห็นเจดีย์วัดโพธิ์และยอดปราสาทในพระบรมมหาราชวังได้อีกด้วย แม้คุณจะไม่ได้พักที่โรงแรมก็สามารถไปนั่งทานอาหารบนร้านดาดฟ้า พร้อมถ่ายภาพอวดเพื่อนลง Instagram ได้ ทางร้านเน้นความเป็นไทยในซิกเนเจอร์ คอกเทล ไม่ว่าจะเป็น Tom Yum Martini หรือ Arun Mojito ที่มีส่วนผสมของขิงและรัมหมักเครื่องเทศ (spiced rum) แต่สำหรับการคลายอารมณ์ช่วงค่ำ เราขอแนะนำ Riva Sunset ที่ผสานวอดก้าเข้ากับเหล้าสตรอว์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รีบด และน้ำมะนาวซีน (Seen)
ร้านน้องใหม่อย่างซีนบนชั้น 26 และ 27 ของโรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซต์นำเสนอทิวทัศน์สุดขอบฟ้าของแม่น้ำเจ้าพระยาจากอีกริมฝั่ง และแสงสีจากเอเชียทีค ร้านอาหารและบาร์ 2 ชั้นแห่งนี้เต็มไปด้วยความหรูหรา ไฟสีเหลืองทองสาดส่องตัดกับสีดำขลับของตัวบาร์ที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ยืนผสมค็อกเทลตามจังหวะดนตรีอันสนุกสนานอยู่ด้านหลัง Follower บน Instagram ของคุณจะร้อง wow กับความงามของตัวร้านที่เต็มไปด้วยกระจก แต่ไม่บังวิวแม่น้ำด้านล่าง เราขอแนะนำให้เลือกนั่งด้านนอกริมสระไร้ขอบ (infinity pool) สายน้ำจากสระดูเหมือนจะไหลลงไปรวมกับแม่น้ำอันกว้างใหญ่ ดับความร้อนของพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ให้บรรยากาศเหมาะกับการจิบมาร์ตินี่ที่สุดเดอะ ล็อฟท์ (The Loft)
ถึงตรงนี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่า ความงามของเมืองกรุงฯต้องมองจากด้านบน ถ้ายังไม่เชื่อ ร้านเดอะ ล็อฟท์บนโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรียจะช่วยยืนยันอีกเสียง แม้จะไม่มีที่นั่งด้านนอก แต่บาร์ระยิบระยับบนชั้น 56 แห่งนี้ก็ยังให้วิวพระอาทิตย์ตกดินอันน่าประทับใจผ่านกระจกบานเต็ม สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน มองเห็นตั้งแต่สยามสแควร์อันคลาคล่ำไกลจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยาและวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) งดงามที่สุดกลางพระอาทิตย์ที่สาดแสงสุดท้ายก่อนลับฟ้า นอกจากวิวแล้ว คุณ Michele Montauti บาร์เมเนเจอร์ก็สร้างความประทับใจไม่แพ้กัน โดยนำสูตรค็อกเทลจากหนังสือวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย บาร์ บุค (Waldorf Astoria Bar Book) ที่ถือกำเนิดในปีพ.ศ. 2478 มาประยุกต์ ได้ที่นั่งริมหน้าต่างแล้วอย่าลืมสั่ง Waldorf ที่ผสานเบอร์เบิน Michter’s เข้ากับโหระพา เวอร์มุธหวาน Mancino บิทเทอร์ช็อกโกแลต ผักชี และน้ำเชื่อมเมเปิ้ล อร่อยเหมาะกับความงามของพระอาทิตย์ตกดินภูเก็ต
ตะลุงไทย (รางวัลมิชลิน เพลท)
ตัวร้านตั้งอยู่ในภารีสารีสอร์ท เมื่ออาหารมาเสิร์ฟแล้ว อย่าลืมละสายตาจากกุ้งล็อบสเตอร์ผัดตัวมหึมามาชื่นชมผืนน้ำที่ทอดตัวสุดลูกหูลูกตาบ้าง ที่นั่งระเบียงริมผาร่มรื่นด้วยเงาจากต้นไทร มีทั้งโต๊ะให้คุณนั่งอร่อยกับอาหารพร้อมชมธรรมชาติ หรือจะเลือกนั่งบนโซฟายาวเพื่อเตรียมชมแสงเรืองรองของพระอาทิตย์ตกดินก็ได้ ระหว่างรอ เราขอแนะนำให้จิบ Parrot’s Nest รัมผสานกับคอนยัค Courvoisier VSOP ยิน น้ำส้ม มะนาว ออจีท (Orgeat) และไวน์เชอร์รี่ (Sherry) งดงามเหมือนถือประกายทองของพระอาทิตย์ตกดินอยู่ในมือ
ทิวทัศน์ทะเลสุดลูกหูลูกตาที่ร้านตะลุงไทยในภารีสารีสอร์ท ขอบคุณภาพจากภารีสารีสอร์ท
บาบา เนส (Baba Nest) ในโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต (โรงแรมใน “มิชลิน ไกด์” พ.ศ.2562)
บาร์ที่ลอยอยู่กลางสระไร้ขอบว่าสวยแล้ว แต่ก็ไม่สวยเท่าบาร์กลางสระไร้ขอบบนยอดแหลมพันวาที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลอันดามันได้โดยรอบ 360 องศา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทางโรงแรมศรีพันวาจะภูมิใจกับบาร์กลางแจ้งวิวพาโนราม่าแห่งนี้จนเรียกว่าดาวดวงใหม่แห่งศรีพันวา ตัวบาร์กลายเป็นสีชมพูเมื่อแสงส้มทองของพระอาทิตย์สาดส่อง ทำตัวให้สบายบนหมอนขนาดยักษ์แล้วอย่าลืมสั่ง Srijito โมฮิโต้อินฟิวส์ตะไคร้สูตรพิเศษของทางโรงแรม แต่เราขอบอกเลยว่าให้จองล่วงหน้า เพราะทุกคนก็อยากมาดื่มด่ำกับค็อกเทลรสเยี่ยมกลางความงามของธรรมชาติ แม้แต่แขกของทางโรงแรมเองก็ไม่รับประกันว่าจะได้ที่นั่ง
ชมความงามของทะเลอันดามันบนยอดแหลมที่ร้านบาบา เนสในโรงแรมศรีพันวา ขอบคุณภาพจากโรงแรมศรีพันวา
Catch Beach Club ในเครือโรงแรมทวินปาล์มส์ (โรงแรมใน “มิชลิน ไกด์” พ.ศ.2562)
จากยอดแหลมสู่ชายหาด Catch Beach Club มอบความหรูหราท่ามกลางความงามของหาดบางเทา วิวที่นี่สวยทุกเวลา คุณสามารถมานั่งจิบแชมเปญบนโซฟาพร้อมดื่มด่ำกับคลื่นม้วนตัวกระทบฝั่งและต้นปาล์มใบลู่ลมได้โดยไม่ต้องรอพระอาทิตย์ตก แต่ถ้าคุณตั้งใจมารออาบแสงสีส้มยามเย็น คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันเรืองรองประทับใจไม่รู้ลืมท่ามกลางบรรยากาศทันสมัยของตัวร้าน แม้ตัวเลือกค็อกเทลที่ร้านจะมีไม่มาก แต่ไวน์ลิสต์ที่นี่มีให้คุณเลือกจิบได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ส่องสว่างกลางท้องฟ้าจนลับแสงตกน้ำเลยทีเดียว เครื่องดื่มยินและโทนิค (G&T) ก็น่าลองเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกดื่มอะไร อย่าลืมเพิ่มรสชาติด้วยการนั่งชิงช้าที่หันหน้าออกทะเลกว้างอาบแสงอาทิตย์
ค็อกเทลที่ร้าน Catch Beach Club อร่อยยิ่งขึ้นเมื่อจิบบนผืนทรายริมหาด ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์โรงแรมทวินปาล์มส์
Vanilla Sky Bar & Gastro Pub
ตัวร้านตั้งอยู่ยอดผาบนหาดนาคาเล มองเห็นวิวหาดกมลาได้จากระเบียงกว้างขวางในพื้นที่โรงแรมเคป เซียน่า (Cape Sienna) บรรยากาศสบาย ๆ แต่น่านั่งกว่าบาร์ริมหาดที่เบียดเสียดกันอยู่ด้านล่างแน่นอน ร้าน Vanilla Sky Bar มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกจนตาลาย แค่มาร์ตินี่ก็มีถึง 6 ชนิดแล้ว (สนใจจิบ Limoncello Martini กับเราหรือเปล่า) ตัดสินใจเลือกเครื่องดื่มได้แล้วก็เลือกบีนแบ็คบนสนามหญ้าเขียวชอุ่มเพื่อนั่งผ่อนอารมณ์รอชมท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากส้มสู่ชมพู
