เมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางของกีฬาโต้คลื่นด้วยหรือ คำตอบคือแน่นอนที่สุด หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้วัฒนธรรมการเล่นเซิร์ฟกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ดินแดนซึ่งมีพร้อมทั้งหาดทรายละเอียด ท้องทะเลสีคราม และระลอกคลื่นสวยงามที่เชิญชวนให้บรรดานักโต้คลื่นจากทั่วโลกเดินทางมายังหลายจังหวัดชายทะเลทั่วถิ่นไทย
รวมถึงในยามนี้ที่กีฬาโต้คลื่นกำลังได้รับความนิยมจากเซิร์ฟเฟอร์ชาวไทยสุดขีด ก็ยิ่งช่วยให้วัฒนธรรมเซิร์ฟผลิบานขึ้นมาก มีทั้งโรงเรียนสอนเล่นเซิร์ฟและเซิร์ฟบาร์เกิดขึ้นหลายแห่ง ทำให้บรรยากาศการโต้คลื่นในเมืองไทยกำลังคึกคัก แต่นอกจากจะไปขี่คลื่นเล่นกันแล้ว เมื่อเดินทางมาทั้งทีการได้ลองลิ้มรสอาหารถิ่นก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ควรสัมผัส เราจึงขอแนะนำ 5 พิกัดเซิร์ฟสุดฮอตในเมืองไทยพร้อมอาหารจานอร่อยประจำถิ่นที่ห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือน
ภูเก็ต
ภูเก็ตขึ้นชื่อในฐานะเพชรน้ำงามแห่งท้องทะเลอันดามัน จังหวัดที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของไทยแห่งนี้มีหลายหาดที่เหมาะสำหรับการโต้คลื่น โดยเฉพาะหาดด้านทิศตะวันตกอย่าง หาดกะตะ หาดป่าตอง หาดสุรินทร์ หาดกมลา และหาดในทอน ซึ่งแทบทุกหาดจะมีกระดานโต้คลื่นไว้คอยให้บริการ มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟสำหรับมือใหม่ที่เรียนวันเดียวโต้คลื่นได้เลย! ทว่าหาดที่คนนิยมไปเล่นที่สุดคือหาดกะตะ นอกจากนี้ยังมีหาดอื่น ๆ อย่างหาดกะหลิมและหาดบางเทาอีกด้วย สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะโต้คลื่นที่สุดของที่นี่อยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี ซึ่งถือเป็นฤดูฝนของประเทศไทย
What To Eat: จังหวัดภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารโดยยูเนสโก (Creative City of Gastronomy by Unesco) เพราะถือเป็นการหลอมรวมพหุวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติทั้งไทยและจีนฮกเกี้ยน ผสมผสานเป็นวัฒนธรรมและอาหารเพอรานากัน สำหรับจานเด็ดห้ามพลาด อาทิ หมี่ฮกเกี้ยน โอต้าว โลบะ โอต้าว หมูฮ้อง โอ้เอ๋ว หรือจะเป็นอาหารไทยแกงปู น้ำพริกกุ้งเสียบ เป็นต้น
Check-in Point: แหลมพรหมเทพ จุดชมวิวผาหินดำ จุดชมวิวกังหันลม ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถนนดีบุก หาดป่าตอง หาดกะตะ ฯลฯ
พังงา
เขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นอีกพิกัดที่บรรดานักเล่นเซิร์ฟเทความนิยมให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาเหตุหนึ่งก็คือแม้จะมีฤดูที่เหมาะสำหรับเล่นโต้คลื่นที่สุดคือช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม แต่นอกฤดูก็ยังมีคลื่นสวย ๆ ที่เสถียรให้เล่นโต้คลื่นได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้พังงายังเป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามทั้งทะเลและป่าเขาลำเนาไพร เพียบพร้อมไปด้วยกิจกรรม จนเรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งสำหรับการโต้คลื่น ท่องเที่ยว และอาหารการกิน
What To Eat: พังงาอุดมไปด้วยชุมชนชาวประมง จึงขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากท้องทะเล รวมถึงร้านอาหารพื้นบ้านที่ให้บริการในราคาเป็นมิตร อาหารจานเด็ดที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด เช่น แกงส้มปลากะพง กุ้งผัดสะตอกะปิ ขนมจีนปักษ์ใต้ เป็นต้น
Check-in Point: อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลํารู่, ย่านเมืองเก่าพังงาและตะกั่วป่า, เสม็ดนางชี, Little Amazon คลองสังเน่ห์ เกาะยาวน้อย เกาะปันหยี เขาพิงกัน ฯลฯ
ระนอง
เกาะพยามเป็นเกาะเล็ก ๆ ในจังหวัดระนองที่ขึ้นชื่อด้านความอุดมสมบูรณ์และอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีคลื่นที่เหมาะสำหรับการเล่นโต้คลื่นจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักโต้คลื่นมาช้านาน สำหรับหาดที่เหมาะโต้คลื่นและเป็นที่นิยมที่สุดคือหาดอ่าวใหญ่ ซึ่งมีชายหาดทอดยาวถึง 2 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การจัดทริปโต้คลื่นที่เกาะพยามคือช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม และอีกช่วงคือเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
What To Eat: นอกเหนือจากอาหารทะเลจากร้านอาหารพื้นบ้านบนเกาะพยามแล้ว จังหวัดระนองยังมีอาหารท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลอง เช่น ยาวเย อาหารเฉพาะของจังหวัดระนอง บางคนอาจจะเรียกว่า พระรามลงสรง แต่คนระนองเรียกว่า ยาวเย มีลักษณะคล้าย เต้าคั่ว ซึ่งเป็นอาหารทางใต้อีกชนิดหนึ่ง ข้าวยำปักษ์ใต้ หรือโรตีกับแกง ก็จะได้สัมผัสวัฒนธรรมการกินของคนพื้นถิ่นจริง ๆ
Check-in Point: โบสถ์กลางทะเล และหินทะลุ อ่าวเขาควาย ที่เกาะพยาม จวนเจ้าเมืองระนอง บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ระนองแคนยอน ภูเขาหญ้า อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ฯลฯ
หัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
ก่อนหน้านี้เมืองท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมอย่างหัวหินเป็นที่รู้จักกันในฐานะพิกัดเล่น SUP และ Kite Surf เสียมากกว่า จนเมื่อไม่นานมานี้มีเหล่านักเซิร์ฟพากันไปลองคลื่นแล้วพบว่าทะเลที่หัวหินก็เหมาะเล่นกระดานโต้คลื่นไม่น้อยเลยทีเดียว ส่งผลให้มีทั้งโรงเรียนสอนโต้คลื่น เซิร์ฟเฮาส์ และเซิร์ฟคลับเกิดขึ้นตามมาจนคึกคัก สำหรับที่หัวหินคนมักเล่นเซิร์ฟกันที่หาดเขาตะเกียบ และช่วงเวลาที่เหมาะคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ นอกจากนี้หาดวนกรของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังเป็นอีกแห่งที่เหมาะสำหรับการเล่นเซิร์ฟด้วย
What To Eat: ที่หัวหินและทั่วทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลคุณภาพดี ซึ่งรับวัตถุดิบอาหารทะเลมาโดยตรงจากชาวประมง โดยเฉพาะปากน้ำปราณบุรีนั้นเป็นที่เลื่องลือ มีเมนูเด็ด ๆ ไม่ควรพลาด เช่น หมึกต้มน้ำดำ แกงส้มไข่ปลาริวกิว ปลาหมึกแดดเดียว ฯลฯ
Check-in Point: เขาตะเกียบ สถานีรถไฟหัวหิน ปากน้ำปราณบุรี เขาสามร้อยยอด จุดชมวิวเขาแดง ถ้ำพระยานคร, อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ฯลฯ
ระยอง
จังหวัดชายทะเลฝั่งอ่าวไทยที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนักอย่างระยองเป็นอีกเมืองที่กำลังผลิบานสำหรับกีฬาโต้คลื่น ที่นี่มีชุมชนของบรรดาเซิร์ฟเฟอร์ผู้หลงรักการขี่คลื่นมาแบ่งปันความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้อยู่ไม่น้อย แม้คลื่นแถบนี้จะไม่ได้ลูกใหญ่มากเมื่อเทียบกับท้องทะเลภาคใต้ทางฝั่งอันดามัน แต่ก็เพียงพอให้ได้สนุกและได้เรียนรู้สำหรับมือใหม่ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หาดที่เป็นที่นิยมในหมู่นักโต้คลื่น ได้แก่ หาดบ้านก้นอ่าว และหาดแม่รำพึง
What To Eat: จังหวัดระยองอุดมไปด้วยอาหารทะเลสด ๆ มากมาย จานเด็ดแนะนำ ได้แก่ ยำผักกระชับทอด จุดเด่นของเมนูนี้คือ ผักกระชับ ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านของจังหวัดระยอง เส้นแกลงผัดทะเล ปลากระพงทอดน้ำปลา ห่อหมกปลาอินทรี น้ำพริกไข่ปู ฯลฯ
Check-in Point: ปากน้ำประแส ทุ่งโปรงทอง หาดแม่รำพึง เกาะเสม็ด เกาะมันนอก เกาะมันใน ฯลฯ
ท้องทะเลทั่วถิ่นไทยนั้นเต็มไปด้วยชายหาดและเกลียวคลื่นที่เหมาะสำหรับการโต้คลื่นจริง ๆ ซึ่งเหล่าผู้ที่หลงใหลการขี่คลื่นสามารถเดินทางมายังจุดหมายปลายทางด้านการโต้คลื่นที่กำลังได้รับความนิยมเหล่านี้ได้ แถมยังจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เป็นการเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไปพร้อมกัน หรือถ้าคุณเป็นนักเดินทางสายกินแล้วอยากจะตระเวนชิมอาหารรสชาติต้นตำรับของแต่ละท้องถิ่น ก็ถือโอกาสเรียนรู้กิจกรรมการโต้คลื่นควบคู่ไปด้วยได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้ชาวท้องถิ่นได้อีกทาง
ทั้งนี้ระหว่างการเดินทางอย่าลืมใส่หน้ากาก ล้างมือ และป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด และสังเกตตราสัญลักษณ์ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) อันเป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ที่รับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับสถานบริการด้านการท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในประสบการณ์ที่ปลอดภัยในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการนี้ได้ที่ thailandsha.tourismthailand.org
ภาพเปิด: © Shutterstock
