จิตวิญญาณที่ไม่มีวันดับสูญกับบ้านพักสไตล์ดั้งเดิมที่เขมร

บ้านพักทั้ง 11 หลังของ Sala นั้นกว้างขวาง แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีเพียงห้องนอนเดียว ซึ่งได้อิทธิพลจากวิถีชีวิตในชนบทของกัมพูชา ทั้งครอบครัวตั้งแต่เด็ก ๆ ไปจนถึงผู้สูงวัยอาศัยอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน และมีเพียงกำแพงกั้นเพื่อแยกครอบครัวออกจากกัน บ้านพักทุกหลังล้วนมีความแตกต่าง ทั้งหลังคาและงานแกะสลักที่วิจิตรบรรจง มีการประดับประดาอยู่เหนือระเบียง แต่ละบ้านมี “แปลงผัก” ขนาดย่อม ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ช่วยให้รู้สึกราวกับว่าว่ากำลังพักอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ เงียบสงบซึ่งผุดขึ้นมาจากที่ใดสักแห่ง แม้แต่ต้นปาล์มซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเติบโต ก็ยังถูกส่งจากชนบทมาไว้ที่นี่ ทิวทัศน์ที่มองออกไปเห็นสวนที่อุดมสมบูรณ์และนาข้าวเก่าแก่ และบ้านพักที่ยังยืนหยัดมั่นคงอยู่บนเสาไม้ทั้งสี่

คุณอาจคิดว่ามันดูไม่ปลอดภัย แท้จริงแล้วเสาเดิมของบ้านแต่ละหลังนั้นสูงกว่านี้มาก แต่ได้ตัดออกไปบางส่วน ทำให้แขกไม่ต้องปีนบันไดสูงตระหง่านจากชานบ้านขึ้นมา

นอกจากห้องน้ำแบบโมเดิร์นที่เพิ่มเข้ามาในแต่ละหลังแล้ว เฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามจากรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ก็เป็นอีกสิ่งที่สร้างความแปลกตา ซึ่งช่วยเติมเต็มและเป็นการแสดงความเคารพต่อต้นกำเนิดของศาสนาฮินดูแห่งนครวัด หมู่ปราสาทโบราณที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านคน ประวัติศาสตร์ที่แตกต่างนี้ทำให้แขกจำนวนมากมาเยือน Sala Lodges เพื่อชื่นชมงานฝีมือที่เรียบง่ายและสัมพันธ์กัน บ้านเหล่านี้เป็นตัวอย่างอันเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณที่ตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งกลายเป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์ในฐานะที่พักอันหรูหรา ปรับปรุงอย่างละเอียดอ่อน แต่ยังคงความสะดวกสบายที่จำเป็น เช่น wifi และเครื่องปรับอากาศ

นอกจากนี้ Sala ยังมีพื้นที่ส่วนรวมที่สร้างขึ้นใหม่ (สระว่ายน้ำ บาร์ ร้านอาหาร และบ้านพัก) โดยใช้คอนกรีตเพื่อแสดงออกถึงรูปลักษณ์ที่ทันสมัยของกรุงพนมเปญในแบบ "uber-chic" ยิ่งกว่านั้นการออกแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อขับเน้นและเติมเต็มบ้านพักให้สมบูรณ์แบบ เพราะมันหมายถึงการพักผ่อนและโอกาสอันหายากที่พวกเขาจะมอบให้แก่แขกผู้มาเยือน

“ทำไมเราต้องเอาบ้านเก่ามาประกอบแทนที่จะสร้างใหม่ตั้งแต่แรก” เราถาม Lugeon หนึ่งในสี่เจ้าของผู้ก่อตั้ง ซึ่งนอกจากเขากับภรรยาแล้วยังมีสามีภรรยาอีกคู่หนึ่ง “เราต้องการนำเสนอโอกาสให้ผู้มาเยือนกัมพูชาได้สัมผัสชีวิตจริง แต่ถ้าคุณสร้างมันขึ้นมาใหม่ มันก็จะไม่ใช่ชีวิตจริง”

“บ้านเหล่านี้มีจิตวิญญาณ” เขากล่าว “คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันมีอยู่จริงครับ”

ในปี 2013 เจ้าของโรงแรมได้เชิญอดีตเจ้าของบ้านทั้งหมดมาในงานเปิดตัว Sala Lodges มีเพียงสองคนที่มาตามคำเชิญและไม่ได้อยู่ค้างคืน Sala Lodges มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับชุมชนโดยรอบ เนื่องจากพวกเขาจ้างพนักงานในท้องถิ่น รวมทั้งจากโรงเรียนการโรงแรมสองแห่งที่สองสามีภรรยา Lugeons สอนอยู่ อย่างไรก็ดี Lugeon พบว่าแขกที่รีสอร์ตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ “แขกที่เติบโตมากับบ้านแบบนี้ เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรม พวกเขาไม่ต้องการไปพักในที่ ๆ พ่อแม่และปู่ย่าตายายเคยอาศัยอยู่” เขาอธิบาย “จากมุมมองของพวกเขา มันเป็นความทรงจำที่ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสยดสยองแบบนี้”

แท้จริงแล้ว กัมพูชายังคงเป็นชื่อที่ชวนให้นึกถึงความโหดร้ายของเขมรแดงตลอดช่วงทศวรรษที่ 70 และอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จะมีเจ้าของโรงแรมชาวสวิสสี่รายมองเห็นคุณค่าในสถาปัตยกรรมของมัน Lugeon กล่าวถึง Ballenberg ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ว่าอาจเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ก่อให้เกิดสถานที่แห่งนี้ Ballenberg อยู่ห่างจากกรุง Bern ประมาณหนึ่งชั่วโมง เป็นเมืองเล็ก ๆ และมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งสร้างขึ้นในช่วง 1970 ที่รวบรวมสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่รื้อถอนและสร้างใหม่โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาประเพณีชนบทของสวิสเอาไว้

มันยังคงดึงดูดผู้เข้าชม 200,000 คนต่อปี และเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญในท้องถิ่น Sala Lodges ก็เหมือนกับการนำกัมพูชามาย่อส่วน และแปรเปลี่ยนเป็นที่พัก ซึ่งไม่เพียงสะท้อนวัฒนธรรมการอยู่อาศัยแบบกัมพูชาเท่านั้น Lugeon กล่าว “มันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริง ๆ”