อาหารพื้นเมืองปัตตานีได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมหลากหลาย รสชาติที่ไม่เหมือนใครมาจากผสมผสานระหว่างอาหารใต้ ชวา สุมาตรา มาเลเซีย และปรุงด้วยเครื่องเทศที่พ่อค้าชาวอินเดียและเปอร์เซียนำเข้ามาในอดีต ด้วยความเป็นประเทศมิตรใกล้และมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน จึงไม่แปลกที่คุณสามารถหาทานอาหารพื้นเมืองปัตตานีได้ในรัฐแถบชายแดนของมาเลเซีย โดยเฉพาะในรัฐกลันตัน
ย่านรามคำแหงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักศึกษาจำนวนไม่น้อยมาจากภาคใต้ พวกเขานำวัฒนธรรมการกินจากบ้านเกิดติดตัวมาด้วย แม้รามคำแหงอาจจะเป็นย่านที่หลายคนมองข้าม แต่ร้านอาหารต่าง ๆ กลับแน่นขนัดไปด้วยผู้คนในแถบนั้นที่เต็มใจมาลิ้มลองอาหารปัตตานีรสเด็ดทุกวัน ตลาดนัดกลางคืน หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ตลาดหน้าราม” เป็นแหล่งรวมอาหารอันคึกคัก คุณสามารถสนุกกับการชิมอาหารทอดกรุบกรอบ ส้มตำรสแซ่บ รวมไปถึงอาหารปักษ์ใต้รสจัดจ้านได้ที่นี่ ในช่วงรอมฎอนของทุกปี (สำหรับปี 2561 เริ่มต้น 17 พ.ค. และสิ้นสุด 15 มิ.ย.) ตลาดกลางคืนแห่งนี้จะคลาคล่ำเป็นพิเศษไปด้วยชาวมุสลิมที่มาลิ้มรสอาหารใต้หลังถือศีลอดมาตลอดทั้งวัน
ตลาดนัดการกีฬา หรือ “ตลาดนัดกกท.” บริเวณหน้าสนามราชมังคลากีฬาสถานก็ครึกครื้นไม่แพ้กัน คุณจะพบกับแผงริมถนนมากมายที่นำเสนอทั้งจานปิ้งย่างและซุปลื่นคอ ที่นั่งจะแยกเป็นสัดส่วนระหว่างโต๊ะสำหรับฮาลาลที่ปลอดแอลกอฮอล์และโต๊ะที่สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาร่วมทานได้ หลายคนอาจจะเพลิดเพลินจนไม่เหลือท้อง แต่ถ้าคุณยังทานได้ต่อ ลองข้ามถนนเพื่อไปลิ้มรสอาหารจากแดนใต้
จากซอยรามคำแหง 37 ไปจนถึงซอย 65 ทั้งร้านอาหารและแผงลอยละลานตาจะยั่วน้ำลายคุณด้วยอาหารปักษ์ใต้มากมาย หนึ่งในเมนูเด็ดคือ ไก่กอและ (ไก่ฆอและในภาษามลายู) เนื้อไก่หมักกับกะทิ เครื่องแกง ตะไคร้ น้ำมะขามเปียก และพริก นำมาย่างจนมีสีส้มเข้ม ได้ทั้งรสชาติเปรี้ยวและหวานในคำเดียวกัน ร้าน “ไก่กอและ” เป็นร้านเด็ดในตลาดฝั่งนี้ที่ตั้งชื่อเดียวกับเมนู คุณกิตติกานต์ เจ้าของร้านที่พื้นเพเป็นคนกระบี่กล่าวถึงสูตรลับของร้านว่า “ผมเรียนรู้สูตรไก่กอและตอนไปเที่ยวกลันตัน แต่นำมาปรับให้ถูกปากคนไทย ด้วยการปรับปริมาณเครื่องเทศและความหวานนั่นเอง”
นอกจากนี้ ยังมีข้าวยำปักษ์ใต้ เมนูยอดนิยมที่หลายร้านนำเสนอ ข้าวสีฟ้าสดใสด้วยสีธรรมชาติจากดอกอัญชัน คลุกเคล้ากับผักและสมุนไพร ทั้งใบชะพลู ผักแพว พร้อมวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อย เมื่อคลุกเคล้าจนได้ที่ โรยด้วยมะพร้าวคั่ว กุ้งป่น พริกป่น จบด้วยการราดน้ำบูดู
ณ หัวมุมซอยรามคำแหง 59 คุณจะมองเห็นหลังคาเหลืองเด่นของศูนย์รวมอาหารฮาลาล 59 มินิพลาซ่าแต่ไกล เมื่อเดินเข้าไป คุณจะได้กลิ่นไก่สะเต๊ะหอมกรุ่นที่เสิร์ฟพร้อมข้าวอัดจากร้าน “ครัวปักษ์ใต้” เมนูยอดนิยมอย่างข้าวยำก็มีให้คุณทานเช่นกัน แต่เมนูที่เจ้าของร้านชาวใต้แท้ ๆ อยากให้คุณได้ลองคือ นาซิลือเมาะ ข้าวหุงกะทิทานพร้อมกับซัมบัลรสเผ็ด คุณสุรยา ลูกค้าประจำของร้านพูดถึงความอร่อยว่ารสชาติอาหารเป็นแบบปักษ์ใต้แท้ และเขาชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ใช้พริกขี้หนู หัวหอม มะขามเปียก และขมิ้นมาขับรสชาติ
ร้านใกล้เคียงกันอย่าง “Mix Pizza” ที่แม้จะขายพิซซ่าเป็นหลัก แต่ก็เสิร์ฟเครื่องดื่มหวานอร่อยอย่างชาชัก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากมาเลเซียเช่นเดียวกับหลายเมนูพื้นเมืองปัตตานี ชาสีส้มผสมกับนมข้นหวาน “ชัก” กลับไปกลับมาระหว่างถ้วยสองใบเพื่อให้เกิดฟองนุ่มละมุน
ในซอยรามคำแหง 61 ยังมีร้านข้าวแกงที่ขายอาหารพื้นเมืองปัตตานีมาหลายสิบปีอีก 2-3 ร้าน อย่างร้าน“ข้าวแกงมุสลิมปัตตานี” ที่มีซุปเนื้อเป็นจานเด็ดของร้าน น้ำซุปรสเปรี้ยวที่เคี่ยวมาจากกระดูกซี่โครงและเนื้อวัว พร้อมคื่นช่ายและหัวหอม เสริมอบเชยและโป๊ยกั๊ก เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมกรุ่นรัญจวนใจ
