เรารีบดึงตัว 2 พี่น้อง Sühring ระหว่างเดินยิ้มลงจากเวทีเพื่อสอบถามเคล็ดลับการคว้ารางวัลสองดาวมิชลินในปีนี้
“มิชลิน ไกด์”: ปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของร้าน Sühring และพวกคุณยังได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลินส่งท้ายปีอีกด้วย บอกได้หรือไม่ว่า พวกคุณทำอะไรที่ต่างจากเดิม
เชฟ Mathias: ร้านพวกเราเพิ่งเปิดเมื่อปีพ.ศ.2559 เราค่อย ๆ ปรับปรุงสิ่งที่เราทำตลอดเวลา สำหรับปีนี้ เราใส่ใจกับการคิดค้นรังสรรค์เมนูต่าง ๆ มากขึ้น และเรายังให้ความสำคัญกับทีมงาน การฝึกฝน และการบริการมากขึ้นอีกด้วย
เชฟ Thomas: เหมือนที่เชฟ Mathias บอกครับ เราเติบโตในฐานะเชฟไปพร้อมกับร้านของเรา ในช่วงปีที่ผ่านมา เรามีเวลาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง เพิ่มความมาตรฐานที่คงเส้นคงวามากขึ้น รวมทั้งการทำให้ทีมเข้าใจและเชื่อมั่นในแนวคิดทั้งหมดของทางร้าน
“มิชลิน ไกด์”: รางวัล 2 ดาวมิชลินมีความหมายอย่างไรกับพวกคุณและทีม
เชฟ Mathias: ถือเป็นการยกระดับร้านครั้งใหญ่เลยครับ เราไม่ได้คิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ เราไม่ได้วางแผนจะคว้าดาวมิชลินในปีนี้ นี่ถือเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ทีเดียว พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับรางวัลนี้ และดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของร้านระดับ 2 ดาวมิชลิน ซึ่งมีแค่ 4 ร้านในประเทศไทย
เชฟ Thomas: เห็นด้วยครับ และต้องขอบคุณทีมงานของเราเป็นอย่างมาก พวกเขาทุกคนช่วยให้เรารักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาก็ถือว่าเป็นเจ้าของรางวัล 2 ดาวมิชลินนี้เช่นกัน
“มิชลิน ไกด์”: พวกคุณทั้งสองเป็นฝาแฝด เห็นได้ชัดว่าสนิทกันมาก และยังทำงานร่วมกันทุกวัน ช่วยบอกได้หรือไม่ว่า แต่ละคนมีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไรบ้าง
เชฟ Mathias: จุดแข็งของเชฟ Thomas คือความมุ่งมั่นและหลงใหลในสิ่งที่เขาทำ ส่วนจุดอ่อนของเขาคือ บางครั้งเขาอยากทำอะไรให้สำเร็จเร็ว ๆ และเขาพยายามผลักดันทำสิ่งเหล่านั้นมากจนเกินไป
เชฟ Thomas: เชฟ Mathias ก็เหมือนกับผม มุ่งมั่น รักในสิ่งที่ทำ และสร้างสรรค์ แต่เขามีความเป็นเยอรมันมากกว่าผม เขาเจ้าระเบียบ มีแบบแผน และตรงต่อเวลาเสมอ
“มิชลิน ไกด์”: การทำงานร่วมกับคนในครอบครัวไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โดยเฉพาะในสภาวะกดดัน พวกคุณทะเลาะกันบ้างหรือไม่
เชฟ Mathias: ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่เราก็เถียงกันบ้างเหมือนพี่น้องทั่วไป แต่ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการทำงานคู่กันก็ดีกว่าทำเองอย่างโดดเดี่ยว ดังนั้น ความเชื่อใจและความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องกับเชฟ Thomas เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมาก
เชฟ Thomas: เห็นด้วยครับ หลายครั้งเราทะเลาะกัน และไม่พูดกันเป็นวัน ๆ แต่ก็เหมือนที่เชฟ Mathias บอก พี่น้องต้องมีทะเลาะกันบ้างอยู่แล้ว แต่ในที่สุด เราก็กลับมาคืนดีกัน ผมรู้สึกดีที่รู้ว่าเราจะคอยช่วยเหลือกันเสมอ และไม่ต้องห่วงว่าจะขาดที่พึ่ง
“มิชลิน ไกด์”: พวกคุณวางแผนไว้หรือไม่ว่า ร้าน Sühring จะทำอะไรในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
เชฟ Mathias: เรารู้สึกกดดันมากหลังได้รับรางวัล เราคงทำในสิ่งที่เราทำมาต่อไป เพราะนั่นทำให้เรามาถึงจุดนี้ เราจะสร้างสรรค์ร่วมกับทีม ทดลองเมนูใหม่ ๆ และใส่ใจและความคิดในแต่ละเมนูมากขึ้น และพยายามพัฒนาตัวเองต่อไป
เชฟ Thomas: เราจะปรับเปลี่ยนหน้าร้านบางส่วน และปรับกระบวนการเรียนรู้ ชุดช้อนส้อม และอุปกรณ์ต่าง ๆ เราวางแผนไว้ว่าจะทำสิ่งเหล่านี้ปีหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะไม่เสียดาวมิชลินไป เพราะคนจะเริ่มคาดหวังกับเรามากขึ้น
“มิชลิน ไกด์”: “มิชลิน ไกด์” ส่งผลต่อวงการอาหารในประเทศไทยอย่างไรบ้าง
เชฟ Mathias: ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ที่ดีให้กับประเทศและเหล่าเชฟครับ มันทำให้การแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ “มิชลิน ไกด์” ช่วยยกระดับฝีมือเชฟในประเทศไทย ผมเชื่อว่า อีกไม่นาน ประเทศไทยจะมีร้านรางวัล 3 ดาวมิชลิน
เชฟ Thomas: “มิชลิน ไกด์” ให้ข้อมูลที่น่าสนใจต่อทั้งนักท่องเที่ยวและนักชิม เราจะเห็นว่า หลาย ๆ ร้านมาเปิดร้าน pop-up ในไทย ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งประเทศและตัวร้านเอง ตอนนี้ กรุงเทพฯ เป็นสวรรค์ของนักกินอีกเมืองหนึ่ง
รีวิวร้านอาหาร Sühring (รางวัล 2 ดาวมิชลิน) จากผู้ตรวจสอบมิชลิน
การทานอาหารที่นี่ให้อารมณ์ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน อาจเป็นเพราะร้านปรับปรุงจากทาวน์เฮาส์ในย่านที่เงียบสงบ เชฟสองพี่น้อง Mathias และ Thomas Sühring พิถีพิถันสรรสร้างเมนูอาหารเยอรมันในสไตล์ของตัวเองที่มีทั้งความสนุกสนานและความคลาสสิก ทางร้านมีเมนูตามสั่งให้เลือกแต่ไม่ควรพลาดเซตเมนู 13 คอร์สที่มีให้เลือกทั้งแบบคลาสสิกและแบบเปิดประสบการณ์ใหม่ นอกจากนี้ยังมี Sommelier ผู้คอยดูแลไวน์ลิสต์ขึ้นชื่อจากทั้งเยอรมันและแคว้น Alsace ในฝรั่งเศส
