เชฟ Riley (อายุ 30 ปี) และเชฟอ้อม (อายุ 32 ปี) อยู่ในกลุ่มเชฟหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ได้รางวัลดาวมิชลินจากการประกาศผลครั้งล่าสุด แม้จะมีสไตล์การรังสรรค์อาหารที่ต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเหมือนกัน พวกเขาจะร่วมวาดประสบการณ์เดินทางในเมืองสวรรค์แห่งอาหารริมทาง ตั้งแต่ยามเช้าจรดยามเย็น หลากยุคสมัยและหลายถนนหนทางที่เปลี่ยนไป ผ่านอาหารทั้ง 8 คอร์ส

เชฟอ้อมกล่าวว่า “อาหารจานแรกจะเปิดปุ่มรับรสของทุกท่านให้ตื่นพร้อมรับอรุณของกรุงเทพฯ ค่ะ เมนูนี้ คือ มันเทศทอดไข่เค็ม โดยฉันเลือกขนมโปรดอย่างขนมไข่นกกระทามาใส่ความเป็นสวรรค์ และเพิ่มไข่เค็มลงไป”  นอกจากนี้เชฟอ้อมยังนำอาหารโปรดในวัยเด็กมาสร้างสรรค์ใหม่อีกด้วย “ตอนเด็ก ๆ ฉันมักตามคุณยายไปทานหมูตุ๋นมะนาวดองที่ร้านริมถนนค่ะ ปกติแล้วมักใช้เป็ดกัน แต่ฉันเลือกใช้เนื้อหมูที่เลี้ยงแบบปล่อยจากนครปฐม มะนาวดองเองเติมน้ำบ๊วยเพิ่มรส และเกลือจากจังหวัดสมุทรสาคร”

เมนูที่ร้าน Canvas จะนำเสนอก็ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เชฟ Riley กล่าวว่า “เมนูปูม้าของเราได้แรงบันดาลใจจากส้มตำปูม้าดองครับ เรานำวัตถุดิบที่ใช้ทำส้มตำทั่วไปมาใช้ เช่น มะละกอดิบหรือมะเขือเทศ แต่จะนำมาตีความใหม่ในรูปแบบที่คุณคาดไม่ถึง เราจะนึ่งปูม้าด้วยอุณหภูมิต่ำ เสิร์ฟพร้อมกับมะละกอดิบหลากหลายรูปแบบ ทั้งดอง ย่าง บดข้น (purée) และทำเป็นรูปโบว์ แล้วราดด้วยซุปจากน้ำมะเขือเทศเพิ่มรสด้วยกระเทียม พริก น้ำตาลปี๊ป และมะนาว” อีกจานที่ร้าน Canvas จะนำเสนอคือเมนูเนื้อวากิวไทย “เนื้อวากิวที่เราใช้มาจากฟาร์มในจังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา หรือมุกดาหารครับ วากิวไทยเป็นลูกผสมระหว่างวัววากิวญี่ปุ่นกับแม่วัวไทย เนื้อที่ได้นุ่มแน่น และมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย”

เชฟ Riley กล่าวเกี่ยวกับการร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า “ร้าน Canvas เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นครับ แต่อาหารที่ออกมาไม่เชิงเป็นอาหารไทย แต่เพื่องานนี้ เราจะนำวัตถุดิบไทยมาสร้าง street food แบบไทย ๆ ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปทานอาหารที่ร้านสวรรค์ เป็นมื้อที่ประทับใจที่สุดมื้อหนึ่งเลยครับ เชฟอ้อมเก่งมาก แต่ถ่อมตัวแล้วก็มีความมุ่งมั่น ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมรังสรรค์อาหารกับเธอ ผมเคยร่วมงานกับเชฟเปเปอร์มาก่อนแล้ว ประทับใจในฝีมือและผลงานของหวานของเธอมากครับ”

เชฟอ้อมหัวเราะแล้วเสริมว่า “ฉันเจอเชฟ Riley ครั้งแรกในงานประกาศผลรางวัลดาวมิชลินที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนค่ะ เห็นเขาครั้งแรกก็รู้เลยว่าเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก”

เราจะปิดท้ายมื้อกันด้วยไอศกรีมกล้วยน้ำว้าฝีมือเชฟเปเปอร์ เธอกล่าวถึงตัวขนมว่า “ทุกท่านจะสัมผัสได้ถึงรสชาติความเป็นไทยแน่นอนค่ะ เพียงแต่เนื้อสัมผัสและการนำเสนอจะดูทันสมัยขึ้น”

เชฟ Riley เสริมว่า “สิ่งที่ร้านสวรรค์และ Canvas มีเหมือนกันคือ เราชอบท้าทายลูกค้าให้เปิดรับสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นหรือชิมมาก่อน ดังนั้น รับรองได้เลยครับว่า ทุกท่านจะตื่นตาตื่นใจกับอาหารในงานนี้อย่างมากแน่นอนครับ”

เชฟอ้อมเห็นด้วยพร้อมกล่าวว่า “งานนี้สนุกแน่นอนค่ะ”

'มิชลิน ไกด์ ไดน์นิ่ง ซีรีย์ 'ครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 เม.ย. 2562 โดยจัดขึ้นที่ร้านสวรรค์ในคืนวันที่ 2 เม.ย. และที่ร้าน Canvas ในคืนวันที่ 3 เม.ย. ลูกค้าสามารถเลือกจับคู่ไวน์หรือแชมเปญได้ โดยงานนี้เปิดให้เฉพาะลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้รับเชิญจาก “มิชลิน ไกด์” เท่านั้น

เมนู

รีวิวร้านสวรรค์ (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) จากผู้ตรวจสอบมิชลิน
เชฟอ้อมรังสรรค์เมนูอาหารไทยผ่านการจัดแต่งแบบร่วมสมัยแต่รสชาติยังคงเป็นไทยแท้ เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและสมุนไพรไทยเพื่อยกระดับให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เซตเมนู 10 คอร์สใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดเลือกจากแหล่งชั้นดีอย่าง ปูอ่องนาออร์กานิกจากจังหวัดสิงห์บุรี และปลาหมึกจากหมู่บ้านชาวประมงในกระบี่ ทุกจานมีรสชาติและรสสัมผัสที่ซับซ้อนแต่กลมกล่อมและลุ่มลึก ให้ความรู้สึกราวกับขึ้นสวรรค์ตามชื่อร้านจริงๆ

รีวิวร้าน Canvas (รางวัล 1 ดาวมิชลิน) จากผู้ตรวจสอบมิชลิน
ภาพวาด canvas ขนาดใหญ่กลางห้องบ่งบอกถึงความเป็นศิลปะของที่นี่ และทุกเมนูล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของเชฟ Riley ที่บรรจงรังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมด้วยเทคนิคขั้นสูงที่หลากหลาย เมนูทั้ง 6 และ 9 คอร์สปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและตามแรงบันดาลใจใหม่ๆ ของเชฟ ที่คุณสามารถสัมผัสได้โดยตรงที่เคาน์เตอร์ครัวเปิดสีทองแดงเงางามหรูหราแต่ทว่าอบอุ่น หรือเลือกนั่งที่บาร์ด้านบนหากต้องการความเป็นส่วนตัว