เทศกาลสงกรานต์อยู่ในช่วงฤดูร้อนกลางเดือนเมษายนซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คนไทยทั่วทั้งประเทศต่างก็สนุกสนานกับการประพรมน้ำกันเพื่อลดความร้อนระอุจากอากาศ นอกจากนี้เทศกาลนี้ยังถือเป็นการขึ้นปีใหม่ของไทย ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนคนไทยต่างเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเพื่อที่จะเยี่ยมเยือนญาติมิตร และเฉลิมฉลองร่วมกัน เช่นเดียวกับเทศกาลคริสต์มาสของฝั่งตะวันตก ตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้ชาวไทยทั้งประเทศจึงให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นอย่างยิ่ง นั่นรวมไปถึงเรื่องอาหารการกิน และช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับการลิ้มรสอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ
รื่นรมย์ไปกับจิตวิญญาณแห่งความเป็นไทยผ่านรสชาติอาหารไทยต้นตำรับในช่วงเทศกาลอันน่าประทับใจนี้ ด้วยสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตซิตี้ ซึ่งคุณสามารถชมรายละเอียดได้ที่นี่ http://citi.asia/2HZxwkb.
พบกับร้านอาหารไทยทั้งเจ็ด ที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลิสต์ Bib Gourmand และ Michelin Plate จาก มิชลินไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ ซึ่งทุกร้านต่างพร้อมใจกันมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้
บ้านผัดไทย
ร้านอาหารบ้านผัดไทยรีโนเวทมาจากอาคารพานิชย์หลังเก่า ซึ่งยังคงเสน่ห์ของความเป็นไทยแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งภายในด้วยงานไม้ ขณะเดียวกันก็สร้างความน่าสนใจด้วยการทาสีฟ้าอ่อน บ้านผัดไทยพิถีพิถันมากในเรื่องการคัดเลือกวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้าจีนที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ซึ่งนำมาปรุงเป็นเมนูเมี่ยงคะน้า หรือการคัดเฉพาะปูม้าตัวเมียสำหรับจานผัดไทยปูเส้นจันท์ ซึ่งมีหัวใจสำคัญในการปรุงโดย เชฟอ้อม สุจิรา พงษ์มอญ ได้ใช้ซอสปรุงผัดไทยร่วมกับวัตถุดิบถึง 18 ชนิด เพื่อที่จะสรรค์สร้างให้เกิดรสสัมผัสที่ซับซ้อนและสมบูรณ์แบบให้กับอาหารจานนี้ รวมไปถึงการเตรียมกุ้งแห้งและข้าวคั่วด้วยตัวเอง และมันปูที่เป็นเคล็ดลับสำคัญที่มอบความสมดุลย์ในรสชาติให้กับผัดไทย โดยเฉพาะเมนูผัดไทยปูที่มีพระเอกเป็นปูม้าซึ่งเสิร์ฟมาทั้งกระดองอยู่ด้านบนของผัดไทย
บ้านผัดไทย - 21-23 ซอยเจริญกรุง 44, 02-060-5553, เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 11.00 - 22.00 น.
ช้อน
ร้านอาหารช้อน ตั้งอยู่ในเรือนไม้สักหลังงาม ซึ่งอยู่ในโรงแรม The Siam ร้านตกแต่งในบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร เชฟดำริ มุขสมบัติ ผู้เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์เป็นหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ที่ดูแลห้องอาหารช้อนแห่งนี้ คุณสามารถพบกับอาหารไทยจานคลาสสิกหลากหลาย อาทิ ต้มข่าไก่ ผัดกระเพรา แกงมัสมั่น รวมไปถึงอาหารจานเส้นอย่างผัดไทย และข้าวซอย แม้อาหารหลาย ๆ รายการจะเป็นจานที่คนไทยทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี แต่เชฟดำริก็ได้มีการปรับปรุงอาหารบางอย่างให้มีความแปลกใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ซี่โครงหมูย่างซึ่งนำไปหมักกับวัตถุดิบถึง 17 ชนิด รวมไปถึงน้ำผึ้งจากดอกลำไยด้วย
ช้อน – โรงแรม The Siam, 3/2 ถนน ขาว , 02-206-6999, เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 06.00 - 11.00 น., 12.00 - 15.00 น., 18.00 - 22:30 น.
เออ
บรรยากาศของเออเป็นกันเองมากกว่าร้านอาหารไทยรุ่นพี่ในเครือเดียวกันที่เปิดขึ้นมาก่อนอย่าง โบ.ลาน ร้านอาหารในย่านกรุงเก่าแห่งนี้ยังคงดำเนินรอยตามปรัชญาของเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ ซึ่งเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบระดับคุณภาพ หากมีความแตกต่างกันก็ตรงที่ โบ.ลานนั้นเสิร์ฟอาหารเซ็ตเมนูที่มีความละเมียดละไมซับซ้อนกว่า แต่ร้านเออกลับเลือกที่จะแตกต่างด้วยการเสิร์ฟเมนูอาหารบ้าน ๆ ที่มุ่งเอาใจคนกรุงผู้โหยหารสชาติสไตล์ท้องถิ่น ที่นี่เสิร์ฟอาหารขนาดพอดีคำจานไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เหมาะจะกินแกล้มรื่นรมย์ไปพร้อมเครื่องดื่ม ทางร้านยังมีจุดเด่นในเรื่องของการถนอมอาหาร อาทิ ไส้กรอกอีสาน ผักดองต่าง ๆ หมูแดดเดียว และปลาเค็ม ฯลฯ นอกจากนี้ร้านอาหารไทยแห่งนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของเมนูอาหารข้างทาง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอาหารข้างทางธรรมดา เพราะมาตรฐานคุณภาพและความอร่อยนั้นอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้ง ไก่สะเต๊ะ คอหมูย่าง และหนังไก่ทอด ซึ่งนำเอาหนังลูกไก่ทั้งตัวไปทอดให้กรอบ แล้วเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกสูตรโฮมเมด สำหรับใครที่ต้องการอาหารหนักท้องขึ้นมาหน่อย ทางร้านยังมีทั้งเมนูผัดและแกงกระทิ ให้เลือกสั่ง ส่วนเครื่องดื่มไฮไลท์นั้นเน้นการใช้ส่วนผสมท้องถิ่นและสปิริตของไทย โดยสามารถเลือกสั่งมาแบบเป็นชอร์ตหรือเป็นค็อกเทลสไตล์ไทย ๆ ก็ได้ แนะนำให้ลองสั่งแก้วชื่อ ‘The Err’ ที่มีส่วนผสมของเหล้าฉลองเบย์รัม เสาวรส และพริก
เออ - 394/35 ถนน มหาราช , 02-622-2291, เปิดบริการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ 11.00 - 22.00 น.
คั่วกลิ้งผักสด (สาขาประสานมิตร)
คั่วกลิ้งผักสดร้านอาหารไทยภาคใต้ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งการที่ร้านดังกล่าวกลายเป็นขวัญใจของเหล่านักกินได้ถึงเพียงนี้นั้นก็เป็นเพราะ การเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรและสั่งตรงจากทางถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ รวมถึงการคงรสชาติจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้เอาไว้นั่นเอง เจ้าของร้านผู้เป็นชาวอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร นั้นได้นำสูตรอาหารที่ตกทอดกันในครอบครัวมาปรุงเสิร์ฟให้ลูกค้ารับประทานราวกับเป็นอาหารทำรับรองแขกผู้มาเยือน อาหารจานเด็ดแนะนำสำหรับร้านนี้ได้แก่ คั่วกลิ้งหมูสับ รสชาติเผ็ดร้อน แนะนำให้กินเคียงกับผักสดเพื่อลดระดับความร้อนแรง ตามมาด้วยกุ้งผัดสะตอ หมูฮ้อง แกงเหลือง แกงปู และใบเหลียงผัดไข่
คั่วกลิ้งผักสด (สาขาประสานมิตร) - 21/32 ซอย สุขุมวิท 29, 02-259-5189, เปิดบริการ ทุกวัน 11.00 - 22.00 น.
ภัทรา
ได้รับการขนานนามตามชื่อของประธานบริษัท S&P กรุ๊ป คุณภัทรา ศิลาอ่อน ร้านอาหารไทยภัทราเปิดให้บริการสาขาแรกที่ถนนซิดนีย์ ในกรุงลอนดอน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง นำมาซึ่งการขยายสาขาอีกหลายแห่งในสหราชอาณาจักร จนเปิดสาขาในดินแดนบ้านเกิดอย่างประเทศไทย ร้านถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยรายละเอียดของงานผ้า และงานไม้ รวมถึงภาพเขียนที่ได้รับการเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดี แทนที่จะนำเสนอเฉพาะเมนูดั้งเดิม หรือเมนูสมัยใหม่เพียงด้านเดียว ภัทราเลือกที่จะบาล๊านซ์อาหารของทางร้านให้มีทั้งจานต้นตำรับและจานที่มีสีสันเหมาะกับยุคสมัย ทางร้านยังพิถีพิถันด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล จานเด่นที่เป็นลายเซ็นของภัทราคือ แกงปูใบชะพลู เนื้อต้มกะทิทรงเครื่อง ยำมะเขือย่างเนื้อปูไข่คาร์เวียร์ ซึ่งเมนูหลังที่อร่อยลงตัวเป็นที่สุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของทางร้านในการผสมผสานวัตถุดิบทางการครัวสมัยใหม่เข้าไป โดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติต้นตำรับของไทยเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ภัทรา - 375 ซอยทองหล่อ 19, สุขุมวิท 55, 02-185-2960, เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 11.30 - 14.30 น., 18.00 - 23.00 น.
เรือนมัลลิการ์
เรือนมัลลิการ์ขลังไปด้วยบรรยากาศของวันวานอันแสนอบอุ่น ด้วยตัวร้านตั้งอยู่ในเรือนไทยอายุกว่า 200 ปี ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมตามตำรับโบราณ เชื่อได้เลยว่าคุณจะต้องประทับใจกับการแกะสลักผักผลไม้ที่แสนวิจิตรสวยงาม รายการอาหารของเรือนมัลลิการ์มีความหลากหลายโดยมีเมนูอยู่ในลิสต์มากกว่าร้อยรายการ ทั้งจานต้นตำรับอย่างต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน อาหารจานผัด ไปจนถึงน้ำพริกเครื่องจิ้มต่าง ๆ อาหารจานเด่นที่เป็นลายเซ็นต์ของทางร้านคือยำดอกไม้ เรือนมัลลิการ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการอนุรักษ์วิถีการกินอยู่อย่างโบราณ และลูกค้ายังสามารถสนุกสนานไปกับการลองเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแบบไทย ๆ พร้อมนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอีกด้วย
เรือนมัลลิการ์ - 189 ซอยสุขุมวิท 22, 02-663-3211, เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 12.00 - 23.00 น.
ศาลาริมน้ำ
ห้องอาหารไทยประจำโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล ศาลาริมน้ำ เป็นห้องอาหารไทยต้นตำรับระดับมาตรฐานมานานนับทศวรรษ ลองจินตนการถึงภาพการนั่งเรือข้ามฟากบนแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเดินเข้าสู่อาคารหลังโอ่อ่าที่ตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา ซึ่งคุณสามารถรื่นรมย์ชมการร่ายรำไทยอันน่าตื่นตาตื่นใจได้ในทุกค่ำคืน พร้อมดื่มด่ำไปกับรสชาติอาหารไทยแท้ ๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้อย่างพร้อมสรรพ อาทิ ช่อม่วง ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ต้มยำกุ้ง หรือหากจะเลือกรับประทานที่เลาจน์โอเพ่นแอร์ทางด้านนอกเพื่อรื่นรมย์ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงาม ก็เป็นการมอบประสบการณ์อันแสนวิเศษให้กับอาหารมื้อนี้ไม่มากก็น้อย ทางร้านยังมีเมนูเด่นอื่น ๆ อีกเช่น ยำมะเขือเผา เสิร์ฟพร้อมกุ้งและไข่ต้ม ยำตะไคร้ทะเล และแกงมัสมั่นไก่
ศาลาริมน้ำ - 48 Oriental Avenue, 02-659-9000, เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 12.00-14.30 น., 19.00-22.30 น. (หมายเหตุ - ร้านจะหยุดทุกวันพุธ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน- 30 กันยายน)
บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจากบัตรเครดิตซิตี้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิตซิตี้ กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.citibank.co.th
#ทุกมื้อต้องจัดด้วยบัตรซิตี้
เชื่อมต่อกับ CITI CREDIT CARD : 
